ธุรกิจอสังหาฯ ไม่ว่าใครก็ทำได้ แล้วทำไมเราถึงเจ๊ง ไม่สำเร็จสักที ?

ธุรกิจอสังหาฯ ไม่ว่าใครก็ทำได้
แต่ทำไมคนที่ทำแล้วสำเร็จ ถึงมีเพียง 1% เท่านั้น ?

“ทุนน้อย ไม่กล้าเสี่ยง อยากทำธุรกิจ แต่ไม่อยากทิ้งงานประจำ”

เมื่อพูดประโยคนี้จบ คนส่วนใหญ่จะแนะนำให้คุณรีบตบเท้าแล้วก้าวเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ทันที เพราะธุรกิจนี้ทุกคนรู้ดีว่าเราไม่จำเป็นมีเงินก้อนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานประจำก็สามารถทำได้ แต่ต้องค่อย ๆ เริ่มต้นกันไป ทำอสังหาฯ ควบคู่กับงานประจำ แล้วถ้าคุณทำมันอย่างจริงจัง ทุ่มเท สักวันก็จะหาทางขยับขยายได้เอง

แล้วทำไมถึงยังมีคนล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะอสังหาฯอยู่อีกล่ะ ?

สาเหตุมันมาจากความเชื่อผิด ๆ หลายประการ นั่นคือ…

บางคนตัดสินใจทำอสังหาฯ ด้วยความคิดที่ว่า “ทำง่าย รวยไว ไม่ต้องใส่ใจ มี Passive income แบบนี้ สบายแน่” ซึ่งมันเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ !

สุดท้าย..พอกระโจนเข้าไปทำธุรกิจแบบไม่สนหน้า ไม่มองหลัง ไม่รู้อะไรเลย คุณก็ทำไม่สำเร็จ ขายไม่ได้ เงินก็หมด ล้มเหลว พังยับ กว่าจะหาทางฟื้นตัวได้คงอีกนาน

เพราะฉะนั้น มาดูกันเถอะว่า คนที่ทำอสังหาฯ แล้วสำเร็จ เขาขายกันอย่างไร และมีสิ่งไหนบ้างที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

การทำธุรกิจและขายอสังหาริมทรัพย์นั้น มีสิ่งสำคัญ 4 อย่าง ที่มือใหม่ต้องรู้และห้ามละเลยเด็ดขาด ได้แก่

ข้อที่ 1 ความสัมพันธ์ หรือ Connection

ถ้าคุณเป็นพวกไม่ชอบผูกมิตรกับใคร ไม่สนผู้คนรอบตัว แถมยังสร้างศัตรูเอาไว้เต็มไปหมด แบบนี้อาจขายอสังหาฯได้ยากสักหน่อย (หรืออาจขายไม่ได้เลยด้วยซ้ำ)

สำหรับการทำธุรกิจแล้ว เรื่องความสัมพันธ์หรือที่เราเรียกกันว่า Connection นั้น คือสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างมาก

ความสัมพันธ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อกันในทางธุรกิจนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนาและสร้างมันขึ้นมา ใช่ว่าคุยกันวันสองวันแล้วจะสานต่อกันไปได้ เพราะกว่าจะคุยกันลงตัว กว่าจะเข้าใจ รู้ใจ และพัฒนาไปจนถึงความไว้วางใจกันอย่างมากนั้น ‘เวลา’ คือเครื่องพิสูจน์สำคัญเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้น เราต้องสารสัมพันธ์กับคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็น นายธนาคาร ทนายความ ผู้เช่า แหล่งทุน ผู้รับจ้าง รับเหมาทั่วไป วิศวกร สถาปนิก ผู้ประเมินราคา และอื่น ๆ

Connection ที่เยอะและดี มีผลต่อธุรกิจของเราอย่างแน่นอน ห้ามละเลยเด็ดขาด

ข้อที่ 2 การยอมรับความเสี่ยง

‘การลงทุนมีความเสี่ยง’ คำนี้ยังคงใช้ได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะลงทุนในธุรกิจใดอยู่ก็ตาม

แน่นอนว่าในการทำธุรกิจนั้น ทุกคนย่อมคาดหวังกำไรมหาศาล

แต่ในความเป็นจริงแล้ว การลงทุนทุกชนิดล้วนมีความเสี่ยง โดยเฉพาะอสังหาฯ ที่เราต้องยอมรับให้ได้ว่ามันเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงมาก ไม่ว่าใครก็สามารถเจ๊งและขาดทุนยับได้เช่นกัน

แต่ปัญหาคือ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทำใจยอมรับคำว่า ‘เสี่ยง’ ไม่ได้ และไม่สามารถหาวิธีจัดการเพื่อรับมือกับความเสี่ยงเหล่านั้นได้ สุดท้ายแล้วจึงไม่สามารถประคองตัวอยู่ในธุรกิจนั้นได้นาน ต้องยอมแพ้และล้มเลิกไปในที่สุด

คุณธาตรี นุชสวาท ได้กล่าวไว้ในตอนหนึ่งของหนังสือว่า “ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ชาญฉลาด มักจะยอมรับความเสี่ยงได้จากการคำนวณและวัดผล และพวกเขามักจะมองหาวิธีการต่าง ๆ มากมายในการลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงมากอยู่แล้ว ถ้าคุณยอมรับมันไม่ได้ คุณก็ไม่สามารถทำอาชีพนี้ได้แน่นอนครับ”

คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ

ข้อที่ 3 การแก้ปัญหา

การพัฒนาโครงการให้ประสบความสำเร็จนั้น คุณต้องใช้ทักษะอย่างมากในการควบคุมเวลา และจัดการอุปสรรคต่าง ๆ ให้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

กว่าจะขายหมด ไม่ได้ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปากหรอกนะ

เพราะฉะนั้น คุณจำเป็นต้องรู้วิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ และต้องรู้วิธีแก้ไขปัญหาให้มากกว่าหนึ่งวิธีอีกด้วย

ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องงบประมาณ แน่นอนว่างานส่วนใหญ่เรามีงบประมาณอยู่อย่างจำกัด เพราะฉะนั้นคุณต้องเตรียมรับมือ และคิดวิธีบริหารการเงินอย่างรอบคอบ ทำอย่างไรจึงจะใช้พอ ทำอย่างไรไม่ให้ใช้งบประมาณจนเกินตัว หรือจะปัญหาอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนไซต์งานต่าง ๆ ความคิดสร้างสรรค์ การแบ่งเขตจัดการกับเจ้าของที่ดินที่อยู่ติดกัน ทางเข้าทางออกที่ตาบอด และอื่น ๆ

ข้อที่ 4 ความคิดสร้างสรรค์

ทุกโครงการพัฒนาจะต้องเริ่มต้นด้วยความคิดสร้างสรรค์และวิสัยทัศน์

คุณธาตรี นุชสวาท ได้กล่าวไว้ในตอนหนึ่งของหนังสือว่า “นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดี คือบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนที่มองไปข้างหน้าเสมอว่ามีความต้องการอะไรในอนาคต”

นักพัฒนาอสังหาฯ ที่ประสบความสำเร็จ มักเป็นคนที่สร้างโครงการอะไรใหม่ ๆ ด้วยการออกแบบที่แปลก แต่เจ๋ง เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่น่าตื่นเต้น และที่สำคัญคือ มันตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มเป้าหมายอย่างมาก

เพราะฉะนั้น ก่อนพัฒนาโครงการ คุณต้องวางแผนและคิดอย่างถี่ถ้วย โดยเอาความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเป็นตัวตั้งเสมอ

คุณต้องรู้ว่าชุมชนแถวที่ตั้งโครงการของเรานั้นต้องการอะไร นอกจากเรื่องความสวยงามและสะดวกสบายแล้ว เราให้อะไรกับพวกเขาได้อีกบ้าง ลองคิดดู

ธุรกิจอสังหาฯ นั้นหัวใจสำคัญไม่ได้ต่างจากธุรกิจอื่นนัก

เพราะมันต้องเริ่มจาก “ใส่ใจและทุ่มเท” ของคุณ

ข้ออ้างที่ว่า…ฉันไม่มีความรู้ ไม่มีเงินลงทุนจำนวนมาก ไม่มีเวลานั้น ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย เพราะถ้าคุณต้องการทำมันให้สำเร็จจริง ๆ สุดท้ายคุณจะมองหาทางออกและจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง

เมื่อไม่มีความรู้ คุณจะอ่านหนังสือ เรียนรู้ และพัฒนา

เมื่อไม่มีเงินทุน คุณจะหาช่องทาง หาคอนเนคชั่น จนเอาตัวรอดได้

เมื่อไม่มีเวลา คุณจะยอมสละเวลาเที่ยวเล่นสักนิด เมื่อแบ่งเวลาแล้ว คุณจะพบว่าการทำอสังหาฯ ควบคู่กับงานประจำนั้นง่ายที่สุด

ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของคุณหรอก 🙂