คลิปวิดีโอเป็นสิ่งที่ช่วยบันทึกเหตุการณ์เอาไว้เพื่อเตือนสติเรา ทำให้เราได้ย้อนมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม ภาพความทรงจำก็ยังไม่เลือนหายไป
เมื่อเราเปิดคลิปขึ้นมาดู ความรู้สึกคิดถึงอดีตหรือ Nostalgia ก็ผุดขึ้นมา บางคนได้ย้อนดูวัยเด็กของตัวเอง บางคนได้ย้อนดูช่วงเวลาเก่าๆ กับคนที่เคยใช้ชีวิตอยู่ด้วย
ถึงอย่างนั้น นั่นก็ไม่ใช่วัตถุประสงค์เดียวสำหรับการถ่ายคลิปที่คนในยุคนี้นิยมกัน เพราะเมื่อเทคโนโลยีหลายอย่างได้รับการพัฒนาขึ้นไป
จากเดิมที่เราจะถือกล้องถ่ายไปด้วยก็เปลี่ยนมาเป็นโทรศัพท์ที่มีขนาดเล็กกว่าแทน และจากเดิมที่เราถ่ายคนอื่นก็เปลี่ยนมาเป็นการถ่ายตัวเองแทน
สิ่งที่เปลี่ยนไปไม่ได้หมดแค่นี้ เพราะการถ่ายคลิปไม่ได้เป็นแค่การบันทึกภาพความทรงจำเฉยๆ อีกต่อไป เนื่องจากความที่เราเข้าถึงมันง่าย การถ่ายคลิปเพื่อความบันเทิงส่วนตัวก็ได้เกิดขึ้น
เราไม่จำเป็นต้องถ่ายครั้งละ 10 นาที แต่เป็นเวลาสั้นๆ แค่ 15-20 วินาที ฟังดูแล้วอาจจะไม่ใช่เวลาที่มากเท่าไรที่คนดูจะเพลิดเพลิน แต่วัตถุประสงค์ของการถ่ายด้วยเวลาสั้นแค่นี้ก็ไม่ได้ต้องการจะให้คนดูอินกับมันมาก แต่เป็นการสื่อสารให้คนดูเข้าใจสารของคนถ่ายโดยเร็ว แล้วถ้าเกิดอยากดูซ้ำก็ต้องย้อนมาดูใหม่ตั้งแต่ต้น
ในฐานะผู้บริโภคอาจมองว่าคลิปสั้นๆ อาจจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ซึ่งมาจากความที่คนถ่ายส่วนใหญ่เน้นการใช้เสียงเพลงประกอบเข้ามาเล่าความรู้สึกของตัวเอง
แต่สิ่งนั้นไม่ใช่ทั้งหมดที่คลิปสั้นมีให้เรา ถ้าเรารู้จักวิธีพูด เราก็สามารถทำคลิปให้มีประโยชน์ได้ด้วยความเงียบ
คนส่วนใหญ่ที่ใช้งาน TikTok รู้กันดีว่า คลิปที่อยู่บนแพลฟอร์มมีทั้งที่คนถ่ายพูดอธิบายกับที่แทบจะไม่ได้พูดเลย แต่ใช้ท่าทางและเสียงเพลงในการสื่อสารแทน
ชายคนหนึ่งที่ใช้สิ่งนี้สร้างเงินให้ตัวเองได้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ในขณะที้เขาตกงานเพราะโควิด ความว่างทำให้เขาโหลด TikTok มาเล่น เขารู้ว่าการถ่ายคลิปสั้นอาจจะไม่ต้องใช้เสียงอะไรเลย ยกเว้น “ท่าทาง”
แล้วยังไง เขานึกขึ้นมาได้ว่าในชีวิตประจำวันของคนเรามีการทำกิจกรรมหลายอย่างที่เราติดปัญหาและหาทางแก้ไขไม่ได้
เขาเลยอัดคลิปสาธิตวิธีการแก้ปัญหาชีวิตประจำวันง่ายๆ ลงไป แต่ความพิเศษคือ แทนที่จะพูดบอกคนดูว่าจะทำอะไร เขากลับใช้สีหน้าที่นิ่งเฉยและภาษามือบอกเล่าสิ่งต่างๆ แทน โดยไม่ใช้เสียงเพลงประกอบเลยสักนิด
ความแปลกใหม่ทำให้เขามีคนติดตามมากขึ้นเพราะเขาเลือกที่จะเล่นกับความสงสัยของคนดู ด้วยการที่เขาไม่พูดจึงไม่มีใครรู้เลยว่าเขาจะทำอะไรบ้างในแต่ละคลิป ถ้าอยากรู้ก็ต้องดูเอาเอง
สิ่งนี้เองทำให้เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจนถูกทาบทามให้ไปปรากฏตัวกระทบไหล่กับคนดังมากมายและกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง รวมทั้งเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ผู้ใช้งานทั่วโลกรู้จัก
เอาเข้าจริงจะบอกว่าความเงียบเป็นเรื่องใหม่ก็อาจจะไม่ถูก หากย้อนกลับไปในช่วงแรกเริ่มที่มนุษย์คิดค้นอุปกรณ์ที่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ เราก็ยังบันทึกเสียงไปด้วยไม่ได้
นี่จึงเป็นตัวอย่างที่บอกเราว่า ความเงียบ บางครั้งก็ส่งเสียงดังมากกว่าการพูด…หากเราใช้มันให้ถูกวิธี
.
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ภาพประกอบจาก : Pexels