ในเมืองที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกในแดนอาทิตย์อุทัย สถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เรื่องราวมากมาย แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ โดยเรื่องของเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นที่ ฮิโรชิม่า
ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 70 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นเป็นเวลาเดียวกับที่เพิ่งผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ไม่นาน สมัยนั้นมีหลายชาติต่างได้รับผลกระทบและความเสียหายหนักหนาพอกัน
เช่นกันกับประเทศญี่ปุ่น ที่ในเวลานั้นยังตกอยู่ภายใต้การยึดครองของสหรัฐอเมริกา ปัญหาหลายอย่างรุมเร้าสารพัด และชักชวนให้เข้าใจว่าคนญี่ปุ่นจะต้องเกลียดอเมริกาอย่างเข้าเส้น
แต่ไม่ใช่กับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่โชคชะตาพัดพาให้เขามาเกิดในยุคสมัยนั้นพอดี นอกจากจะไม่ทำให้เขาเกลียดอเมริกาแล้ว กลับกันเขากลับรู้สึกว่าวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาน่าสนใจ
ช่วงวัยที่กำลังเติบโต สังคมแวดล้อมรอบข้างเต็มไปด้วยวัฒนธรรม Western จากชาติตะวันตก ค่อยๆ มีส่วนกับความคิดและความรู้สึกของเด็กผู้ชายคนนั้นเรื่อยมา
เมื่อเวลาผ่านไป ถึงวัยที่จะต้องเลือกคณะเพื่อเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย สุดท้ายเขาเลือกเรียนคณะเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ จนในที่สุดก็จบมาได้ด้วยดี
ชีวิตของการเป็นเฟิร์สจ๊อบเบอร์ คือการเป็นเซลล์แมนที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ทุกอย่างดูจะเป็นตามปกติ จนกระทั่งจุดเปลี่ยนคือต้องกลับมาสานต่อธุรกิจที่บ้าน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
บ้านของเขามีร้านตัดสูทเล็กๆ ทำให้เมื่อกลับมาก็ได้ลองค้นวิชาความรู้ที่เรียนมา รวมทั้งจากที่เคยไปทำงาน ที่มีทั้งการจัดคลังสินค้า การจัดการวางแผนต่างๆ ก็ฟังดูเหมือนจะเข้าท่า
แต่ทว่า ผลลัพธ์กลับไปคนละทางกับที่คิดไว้อย่างสุดขั้ว
ยอดขายและผลกำไรไม่เป็นไปตามเป้า พนักงานก็เริ่มทยอยออกไปหางานใหม่กันทีละคนสองคน สุดท้ายเหลือเขายังคงทำหน้าที่ทุกอย่างเอง ถือเป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่ง
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชีวิตชายที่ชื่อ ทาดาชิ ยานาอิ
มองในแง่ดีคือการทำอะไรด้วยตัวเอง ทำให้ความสามารถของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เรื่องไหนที่พอมีความรู้อยู่แล้ว ก็เป็นการเพิ่มประสบการณ์ ส่วนเรื่องที่ไม่รู้ ก็กลายเป็นเริ่มถนัด
ผ่านร้อนผ่านหนาวมาสักระยะ ทิศทางเริ่มอยู่ตัว จากขาดทุนมาเป็นเท่าทุน จากเท่าทุนเริ่มเปลี่ยนมาได้กำไร และจากกำไรนิดเดียวก็เริ่มเพิ่มขึ้นอยู่อย่างนั้น
ความสำเร็จก็เริ่มทำงาน เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานบริษัทของธุรกิจร้านตัดเสื้อสูท ได้เข้าไปเริ่มบริหารด้วยตัวเองจริงจัง
การที่จากเด็กอดีตเซลล์แมนคนหนึ่ง ได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานบริษัทเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ แต่ก็ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
เมื่อทำงานได้สักพัก เขาตัดสินใจเปิดร้านเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง ชื่อว่า Unique Clothing Warehouse เป็นร้านเสื้อผ้าที่ใส่สบาย สำหรับทุกเพศทุกวัย ก่อนที่จะเงียบไป และเปิดใหม่อีกครั้ง
ในชื่อ “Uniqlo”
ช่วงแรก Uniqlo เป็นเพียงศูนย์จำหน่ายสินค้าขนาดย่อม ก่อนที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วจนได้จดทะเบียนเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ
จุดเด่นที่ทำให้แบรนด์ Uniqlo เติบโตก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ประกอบไปด้วยหลายอย่างทั้งการบริหารจัดการ ความมั่นคงทางการเงิน การควบคุมคุณภาพ รวมทั้งการตลาด
การศึกษากลุ่มเป้าหมายอย่างดี นอกจากจะมีสินค้าต้องมีคุณภาพ นุ่ม ใส่สบายแล้ว ยังต้องรู้จักความนิยมของผู้บริโภคในตลาด อะไรที่เป็นเทรนด์ เป็นกระแส ก็ถูกนำมาโยงด้วยทันที
จะเห็นว่า สิ่งที่น่าจดจำของแบรนด์คือการเข้าไปร่วมมือกับสิ่งต่างๆ เป็นคอลเลคชั่นออกมามากมาย ให้ผู้คนได้จับจ่ายกันอย่างสนุก การเงินสะพัดจากการอยู่ถูกที่ถูกเวลา
ปัจจุบันความนิยมของแบรนด์เองก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และสำหรับ ทาดาชิ ยานาอิ ได้กลายเป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
คงพูดได้ว่า ทุกอย่างที่เกิดไม่มีโชคชะตามาเกี่ยวข้องสักนิดเดียว
สิ่งที่ทำให้ ทาดาชิ ยานาอิ มาได้ถึงขนาดนี้ คือการมีครอบครัวที่ดี สร้างรากฐานสำคัญให้กับเขามาตั้งแต่เด็ก แต่สิ่งที่จะขาดไม่ได้คือความอดทนและตั้งใจของเขาเองด้วย
เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะสานต่อธุรกิจที่บ้านและประสบความสำเร็จ หากแต่ความล้มเหลวก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
ชีวิตของ ทาดาชิ ยานาอิ ไม่ได้ต่างจากทุกคน ถึงจะบอกว่ามีธุรกิจรองรับ แต่ก็ยังต้องสู้ ดิ้นรน เอาตัวรอดในทุกอย่าง เพื่อแสดงคุณค่าจากความสามารถของตัวเองออกมา
ทุกคนมีพรสวรรค์ เส้นทางของตัวเองที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเรารู้ว่าจุดไหนอยู่แล้วสบายใจก็อย่าเสียเวลากับอะไรที่ไม่เป็นตัวเอง หากจะสู้ จงสู้ขณะที่ยังมองเห็นปลายทาง
เพราะถ้ายังอยู่ในเส้นทางและไม่หยุดเดิน ในทุกวันตัวเราจะค่อยๆ ขยับเข้าหาปลายทางเอง อย่างที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน…
…
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ภาพประกอบจาก : Pexel