ยิง Ads Instagram แล้วไม่ได้ผลตอบรับ
ยิง Ads Instagram แล้วเข้าไม่ถึงกลุ่มลูกค้า
ถ้าเคยเผชิญปัญหาเหล่านี้บน Instagram นั่นอาจจะเป็นเพราะว่ากำลังยิง Ads ไม่ถูกวิธี
Instagram เป็นอีกหนึ่งช่องทางออนไลน์ที่มีบัญชีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านบัญชี เฉลี่ยเป็นบัญชีผู้ใช้ภายในประเทศไทยมีอัตราส่วนมากกว่า 16 ล้านบัญชี ซึ่งถือเป็นสถิติการใช้งานที่มากเป็นอันดับต้น ๆ ของแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมดที่มีอยู่ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ แต่น่าแปลกใจที่หลายธุรกิจกลับเลือกที่จะไม่ทำโฆษณาบน Instagram เพราะเห็นว่าเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ยาก หลายครั้งก็ต้องสูญเงินไปเปล่า ๆ และให้ความรู้สึกว่าลูกค้าไม่สามารถเข้าถึงสิ่งที่ต้องการจะบอกได้เท่ากับแพลตฟอร์มอื่น อย่าง Facebook เป็นต้น
การทำโฆษณาที่ไม่ประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มที่มีคนเข้าใช้งานมากขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะว่าวิธีการนั้นอาจจะผิดก็ได้เพราะการทำการตลาดบนแพลตฟอร์มใหม่ ๆ จะต้องทำความเข้าใจและศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ ด้วย ถ้าลองสังเกตจะเห็นได้ว่าคนที่ใช้งาน Instagram จะเลื่อนผ่านโพสต์ไวกว่า Facebook เสียอีก นั่นจึงเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่งว่าจะทำอย่างไรให้คนเหล่านั้นหยุดและคลิกดูโฆษณาของคุณได้
แนวทางการสร้างโฆษณาบน Instagram ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร
การทำโฆษณาบน Instagram จะมีความคล้ายคลึงกับการทำโฆษณาบน Facebook ซึ่งจะสามารถกำหนดได้ทั้งรูปแบบของโฆษณา กลุ่มเป้าหมาย และมุมมองที่ลูกค้าจะเห็น และเนื่องจาก Facebook และ Instagram จะมีความสามารถในการเชื่อมโยงถึงกันได้ ดังนั้นจึงสามารถควบคุมโฆษณาผ่าน Facebook Business ได้เลย ซึ่งวิธีการนี้จะมีข้อดีคือสามารถในการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าถึงโฆษณาที่ต้องการสื่อสารออกไปได้และมีการรายงานผลลัพธ์จากการยิงโฆษณาด้วยการแสดงผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
เมื่อเริ่มสร้างโฆษณาบนบน Instagram จะมีช่องทางทั้งในรูปแบบของการควบคุมผ่าน Facebook Business และการโปรโมทผ่านโพสต์บน Instagram โดยตรง ถ้าใช้ตัวจัดการโฆษณาบน Facebook Business จะช่วยให้โพสต์ที่ต้องการยิงโฆษณานั้นมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นโดยจะอิงตามพฤติกรรมการใช้งานของกลุ่มลูกค้าทั้งสองแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็นการเข้าชมเนื้อหาเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษหรือการมีส่วนร่วมกับโพสต์ที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกัน เช่น ลูกค้าคลิกดูโพสต์โครงการใหม่ของบริษัท A หรือค้นหาคำว่า “บ้านมือสอง” บน Facebook โฆษณาที่ตั้งไว้ก็จะส่งไปถึงกลุ่มลูกค้าคนนั้นในทันทีทั้งสองแพลตฟอร์ม
ทำการบ้านก่อนการยิง Ads บน Instagram
1. เข้าใจวัตถุประสงค์ในการลงโฆษณา
อันดับแรกต้องกำหนดวัตถุประสงค์ก่อนว่าการยิงโฆษณาในครั้งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อใคร หรือทำเพื่ออะไร อย่างเช่น ต้องการให้มีผู้ติดตามและมียอดการกดถูกใจมากขึ้น มียอดขายเพิ่มขึ้น หรือต้องการให้กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่กำลังนำเสนอมากขึ้น
นอกจากนี้ Instagram ยังมีบริการเสริมอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า “การกดถูกใจแบบอัตโนมัติ” ซึ่งจะเซ็ทขึ้นมาด้วยระบบและมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม หากวัตถุประสงค์หลักคือการเพิ่มจำนวนยอดการกดถูกใจโพสต์บริการนี้คงจะตอบโจทย์มากทีเดียวเพราะเมื่อมีจำนวนผู้กดถูกใจเยอะก็จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้กดถูกใจเพิ่มได้มากขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อสถิติการมีส่วนร่วมและการติดตามในอนาคตด้วย
2. เลือกประเด็นหลักที่คิดว่ากลุ่มเป้าหมายต้องค้นหาแน่ ๆ
หลังจากกำหนดวัตถุประสงค์ของโฆษณาแล้ว ต่อมาก็เป็นขั้นตอนของการตั้งประเด็นหลักที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของโฆษณาหรืออาจจะเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น คอนโดติดรถไฟฟ้าสำหรับมนุษย์เงินเดือน ซึ่งการตั้งประเด็นนี้จะช่วยให้สามารถวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงในรูปแบบข้อมูลที่เป็นสถิติตัวเลขได้
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะใช้การเปิดประเด็นด้วยหัวข้อไหนดีสามารถใช้รูปแบบโฆษณาอื่น ๆ มาเปรียบเทียบได้เช่นกัน โดยตั้งประเด็นที่น่าสนใจเป็นข้อ ๆ แล้วลองค้นหาดูว่าตัวเลือกไหนที่ผู้ใช้งาน Instagram มีส่วนร่วมด้วยมากที่สุด
3. กำหนดระยะเวลาของการโฆษณาและค่าใช้จ่าย
การกำหนดกรอบระยะเวลาที่จะทำการโฆษณาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก รวมไปถึงงบประมาณที่จะใช้สำหรับการยิงโฆษณาของโพสต์หนึ่งโพสต์ ซึ่งจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าอยากจะจ่ายค่าโฆษณาในราคาเท่าไหร่ ในส่วนนี้ Ads Manager มีฟีเจอร์สำหรับการคำนวณงบประมาณและประสิทธิภาพของโฆษณาไว้เพื่อช่วยให้นักการตลาดหรือคนที่ทำโฆษณาสามารถปรับงบประมาณได้อย่างเหมาะสมและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำโฆษณา
และสำหรับคนที่ทำโฆษณาบน Instagram เป็นครั้งแรกและไม่อยากทุ่มเงินจำนวนมากก็จะได้ตัวช่วยในเรื่องของการคำนวณต้นทุนที่จำกัดให้สมดุลกับประสิทธิภาพในการยิงโฆษณาอย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องกังวลเลยว่าโฆษณานั้นจะทำให้เสียเงินเปล่า ๆ และไม่มีผลตอบรับ
4. เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการยิงโฆษณาไปหา
สิ่งหนึ่งที่ทำให้การยิงโฆษณาบน Instagram ไม่ประสบความสำเร็จคือการยิงโฆษณาแบบหว่านแห ไม่มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เน้นไปที่คนจำนวนมาก ซึ่งนั่นก็เหมือนการละลายเม็ดเงินลงในแม่น้ำเพราะบางคนอาจจะไม่สนใจบ้านที่กำลังจะขายเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายจะทำให้กลุ่มคนที่จะเห็นโฆษณานั้นมีความแคบลง
ตัวจัดการโฆษณาบน Instagram จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย ๆ จากข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม ความสนใจ หรือสถานที่ตั้งที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งบนโฆษณา เช่น ขายบ้านเดี่ยว 3.5 ล้านบนทำเลแถวจตุจักร และข้อมูลนี้จะถูกส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายคือ คนที่สนใจหรือกำลังตัดสินใจซื้อบ้านสักหลัง และอยู่ในย่านจตุจักร และอาจจะรวมไปถึงคนที่เป็นลูกค้าเก่าหรือคนที่กำลังกดติดตามบน Instagram ด้วย
5. การเลือกรูปแบบการแสดงผล
ขั้นตอนสุดท้ายในการสร้างโฆษณาบน Instagram คือการเลือกรูปแบบโฆษณาที่อยากให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็น ไม่ว่าจะเป็นการเขียนข้อความโฆษณา หรือรูปแบบที่ใช้ได้ เช่น ภาพเดี่ยว วิดีโอ หรืออัลบั้ม
อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือการเลือกขนาดให้เหมาะสมเพราะตัวจัดการโฆษณาจะปฏิเสธการโฆษณาหากมีขนาดที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นไปตามที่กำหนด ดังนั้นจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนการโพสต์โฆษณาลงบน Instagram
การยิงโฆษณาบน Instagram ก็เหมือนกับการสร้างโฆษณาบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยการยึดกลุ่มเป้าหมายเป็นหลักซึ่งจะมีข้อแตกต่างคือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้แคบลงแต่ตรงประเด็นมากขึ้นเพื่อให้การส่งต่อข้อมูลในโฆษณานั้นสามารถเข้าถึงคนที่อยากรู้หรือมีความสนใจในสื่อที่ต้องการนำเสนอจริง ๆ และจากสถิติการเก็บข้อมูลของ Instagram พบว่าหากมีการยิงโฆษณาที่ถูกต้องตามหลักจริง ๆ จะทำให้เกิดการซื้อขายและมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายมากกว่า 80% เลยทีเดียว
อ้างอิง:
How To Create an Instagram Ad for Your Business จาก https://theentrepreneurfund.com/how-to-create-an-instagram-ad-for-your-business/
Explore what’s possible with Instagram ads จาก https://business.instagram.com/advertising
How to Advertise on Instagram: A 5-Step Guide to Using Instagram Ads จาก https://blog.hootsuite.com/instagram-ads-guide/
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik