การที่จะประสบความสำเร็จให้เหมือนกับคนดัง ๆ หรือคนระดับโลกได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ไม่ได้ยากถึงขนาดที่ว่าคุณทำไม่ได้
ทุกอย่างอยู่ที่ “ใจ” ของคุณเป็นสำคัญ ถ้าใจคุณอยากจะประสบความสำเร็จ มันก็จะเป็นตัวบังคับให้ “สมอง” ของคุณคิด และ “ร่างกาย” ของคุณทำ
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับกฎทั้ง 3 ข้อ แค่ “สั่งสม” “อดทน” “ไม่ยอมแพ้” ก็สามารถทำให้คุณกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จเหมือนกับคนเก่ง ๆ ระดับโลกได้ไม่ยาก
1. กฎของการทบต้น: พยายาม
กระดาษธรรมดา ๆ แผ่นหนึ่งหนาประมาณ 0.4 มิลลิเมตร ถ้าเราพับให้หนาเป็น 2 เท่า และพับให้หนาเป็น 2 เท่าอีกครั้ง ทำซ้ำ ๆ อย่างนี้ไปประมาณ 64 ครั้ง
หลายคนอาจจะคิดว่าพับกระดาษแค่แผ่นเดียวจะหนาได้ถึงขนาดไหนกัน? แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าคุณพับกระดาษบาง ๆ ประมาณ 64 ครั้ง กระดาษนั้นจะสูงถึง 1,660,206,960 กม. ในขณะที่ระยะทางจากโลกถึงดวงจันทร์เพียง 384,000 กิโลเมตรเท่านั้น
นี่คือพลังของ “ความพยายาม” สาระสำคัญของมันก็คือ ถ้าคุณทำ A มันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ B และผลลัพธ์ B จะทำให้ Aสำเร็จได้ในที่สุด
ช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ยอมแพ้มักจะอยู่ห่างจากความสำเร็จเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง กุญแจสู่ความสำเร็จคือ “ความพยายาม” ดังนั้น ถ้าคุณมีความฝัน คุณต้องไล่ตามความฝันและต้องไล่ตามอย่างไม่ลดละ และคุณจะบรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้
2. กฎของไม้ไผ่: อดทน
ต้นไผ่ต้องใช้เวลาถึง 4 ปี ถึงจะโตได้ 3 เซนติเมตร และตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไปมันจะเติบโตอย่างรวดเร็วถึง 30 เซนติเมตรต่อวัน และใช้เวลาเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้นก็จะสูงได้ถึง 15 เมตร
ในช่วง 4 ปีแรก ต้นไผ่จะหยั่งรากลึกลงไปในดินจนถึงชั้นดินที่ลึกที่สุด เพื่อดูดซับสารอาหารและเตรียมพร้อมที่จะเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป
คนเราก็เช่นกัน ชีวิตของเราต้องการ “เวลา” เพื่อสร้างอนาคต
อย่ากังวลถ้าความพยายามของคุณในตอนนี้ยังไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ให้คิดว่าความพยายามในตอนนี้เป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้คุณเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า ดังนั้น คุณต้องอดทนและพยายามแบกรับความรับผิดชอบและงานของคุณให้ดีที่สุด
3. กฎของจักจั่น: ไม่ยอมแพ้
จักจั่นมักจะอาศัยอยู่ในใต้ดินที่มืด ๆ แคบ ๆ เป็นเวลา 3 ปี แม้มันจะชอบอยู่ตัวเดียวและชอบอยู่แบบเงียบ ๆ แต่มันก็สามารถเติบโตได้ด้วยตัวของมันเองโดยการดูดสารอาหารจากยางไม้เพื่อดำรงชีวิตอย่างไม่ยอมแพ้
ฟิลิป ซินแบด (Philip Sinbad) นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดลองในปี 1969 เขาจอดรถที่เหมือนกันสองคันในระหว่างสองช่วงตึกที่แตกต่างกัน คันแรก เขาถอดป้ายทะเบียนและถอดชิ้นส่วนบางส่วนออก รถคันแรกได้ถูกขโมยภายในวันเดียวกันนั้น ส่วนรถอีกคันสามารถจอดทิ้งไว้ได้นานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์โดยที่ไม่มีอะไรสูญหาย จากนั้นฟิลิปจึงใช้ค้อนทุบกระจกหน้ารถคันที่สองจนเป็นรูขนาดใหญ่ ทำให้รถคันนี้หายไปภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ทฤษฎีนี้เรียกว่า “Breaking Window’s law” อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ถ้าบ้านหลังไหนมีหน้าต่างแตกและไม่มีใครซ่อม หน้าต่างบานอื่น ๆ ก็จะพังไปด้วยโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ หรือเมื่อภาพวาดน่าเกลียด ๆ ปรากฏขึ้นบนกำแพง กำแพงที่อยู่บริเวณโดยรอบก็จะเต็มไปภาพวาดที่น่าเกลียดในไม่ช้า หรือคนจะไม่ทิ้งขยะในที่ที่สะอาด ๆ แต่ทันทีที่พวกเขาเห็นขยะ พวกเขาจะทิ้งขยะทันที
ก็เหมือนกับความสำเร็จของคุณ ถ้าคุณรู้สึกยอมแพ้ มันก็จะเกิดขึ้นบ่อย ๆ และความคิดนี้ก็จะค่อย ๆ ฝังอยู่ในตัวคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว แล้วคุณจะค่อย ๆ ถอยห่างออกจากความสำเร็จในที่สุด ดังนั้น คุณไม่ควรปล่อยให้คำว่า “ยอมแพ้” ฝังติดอยู่ในหัวของคุณ
การที่เราจะประสบความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยาก คุณแค่ต้องยืนหยัดให้มากขึ้นเมื่อคนอื่นยอมแพ้ จริงจังมากขึ้นเมื่อคนอื่นเฉื่อยชา อภัยให้มากขึ้นเมื่อคนอื่นเดือดร้อน และในที่สุดความสำเร็จก็จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
ที่มา: Abolouwang and Cafebiz
อ้างอิง: https://www.facebook.com/tonydzung.com.vn/photos/a.920059914689090/5124050510956655
. . .
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลและเรียบเรียงโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels และ freepik