จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าทุกลมหายใจต่อจากนี้ จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แค่เพียงเพราะ เมื่อความฝันที่เราต้องการมาโดยตลอด ในวันนี้กลับกลายเป็น ความฝันของคนอื่นไปเสียหมดแล้ว
เชื่อว่าทุกคนต่างต้องมีเรื่องราวกิจกรรมความชอบอะไรสักอย่างที่พร้อมจะกลับไปหามันเสมอโดยที่รู้สึกสนุกและตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ทำ ไม่ว่าสิ่งนั้นคนอื่นจะมองว่ามันน่าเบื่อขนาดไหน แต่มันก็จะเป็นเรื่องที่น่าสนุกสำหรับเราอยู่เสมอ
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ของหลายคนย่อมไม่เหมือนกัน อาจจะเป็นกิจกรรม อาหาร หรือแม้กระทั่งคนรอบข้าง สถานที่หรืออะไรก็ตาม ก็ล้วนแตกต่างกันไปตามความชอบของตัวเอง
แต่มันจะมีวันหนึ่งที่เรื่องราวเหล่านี้ กลับไม่ได้ทำให้เรารู้สึกแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว จากที่เคยอยากทำมากในวันก่อน แต่วันนี้กลับไม่อยากทำมันเลยแม้แต่นิดเดียว
หรือถ้าให้เห็นภาพง่าย ๆ น่าจะคล้ายกับคนที่กำลังจะลดความอ้วน ในช่วงแรกของการควบคุมอาหารคือเรื่องที่สบายมาก การกินผักหรืออกไก่บ่อย ๆ ก็ดูจะไม่แย่เลย กลับอร่อยจนให้ความรู้สึกแบบใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง หรือการออกกำลังกายก็คือเรื่องที่สนุก แต่ละท่าที่ได้ทำก็คือไม่มีเบื่อเลย ยิ่งถ้าวันไหนได้ลองทำท่าใหม่ดูก็จะยิ่งสร้างความสนุกมาก0ขึ้นไปอีก
แต่อยู่มาวันหนึ่งกลับเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ทำอยู่ จนตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘เราจะผอมไปทำไม’ ส่งผลให้มีความคิดว่าอยากกินอะไรก็ต้องกิน และก็จะหาเหตุผลสารพัดมารองรับให้ทำตามใจตัวเอง จากที่ควบคุมอาหารก็เปลี่ยนเป็นกินโดยไม่สนใจแคลอรี่ได้เลยในทันที
โอเคแหละในมุมหนึ่งมันคือเรื่องที่ดี เพราะในบางครั้งเมื่อเราทำอะไรที่มุ่งมั่นตั้งใจจนเคร่งเครียดมากเกินไปก็คงไม่ส่งผลดี ต้องมีการผ่อนบ้างพักบ้างเพื่อเป็นรางวัลชีวิตได้มีแรงทำสิ่งนั้นต่อไป
แต่ถ้าในเวลาที่พักเราหลวมตัวมากเกินไป ก็จะทำให้ติดนิสัยจนเคยชิน และเราจะทำบ่อยขึ้นโดยให้เหตุผลกับตัวเองว่า‘ก็แค่อยากพัก’ จากนั้นสมองก็จะเข้าใจว่าการพักคือเรื่องไม่ผิด ก็จะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ จนรู้ตัวอีกทีเราก็พักมากกว่าลงมือทำสิ่งนั้นไปแล้ว
กับอีกเหตุการณ์หนึ่งที่มีคนกล่าวไว้อย่างน่าสนใจ คืออย่างสถานการณ์ในปัจจุบันที่หลายคนก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น การจะอยู่แต่ในห้องที่เป็นพื้นที่เดิม ๆ ก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคนมากนัก และทางออกของความเบื่อตรงนี้ก็จะคล้ายกันคือการหาหนังซีรี่ย์ ต่าง ๆ มาดูให้ผ่อนคลาย
และนิสัยเคยชินตรงนี้ก็เป็นข้อเสียได้เหมือนกัน เพราะในเมื่อบ้านที่เป็นสถานที่ของเราแล้ว การจะทำอะไรก็ย่อมได้ ทำให้หลายคนมักทำตามใจตัวเองอย่างเต็มที่ อย่างดูซีรี่ย์ก็มาราธอนทั้งวันคืนในชนิดที่หลับคาทีวีหรือโทรศัพท์ไปเลยอะไรทำนองนี้ก็ยังมี
และสิ่งที่ยกตัวอย่างมานั่นแหละ คือสาเหตุที่อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ตื่นเต้นกับสิ่งใดเลยอีกต่อไปเลย
แม้ว่าบางครั้งเมื่อมีคนแนะนำว่าให้ลองแบบนั้นดูเพื่อที่จะดีขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อลองทำตามตำราที่เขาว่ากันไว้กลับไม่รู้สึกดีขึ้นอย่างที่เขาว่ากันเลย ก็ยังคงรู้สึกแบบเดิมไม่มีเปลี่ยน
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าตอนไหนเรากำลังจะหมดไฟ ให้สังเกตง่าย ๆ ตามสิ่งเหล่านี้ที่กำลังจะพูดถึงไปพร้อมกัน
- ไม่มีอะไรที่ทำให้คุณตื่นเต้นได้อีก แม้กระทั่งเรื่องที่เคยชอบ
เรื่องที่ให้ความรู้สึกเติมเต็มให้กับชีวิต สักวันมันก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาในสายตาเราได้เหมือนกัน
- ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่รู้สึกพิเศษ และสงสัยว่าแล้วสิ่งนั้นมันดีต่อเราอย่างไร
บางเรื่องเรารู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก ทั้งที่คนส่วนใหญ่กลับรู้สึกพิเศษมากเช่นกัน
- จำไม่ได้ว่าเคยรู้สึกกระตือรือร้นกับอะไรนานแล้ว
เมื่อลองนึกถึงสิ่งที่ทำให้สดชื่นที่ผ่านมา กลับลืมไปแล้วว่าหน้าตาความรู้สึกนั้นเป็นแบบไหน
- เมนูโปรดที่เคยชอบ กลับกลายเป็นเฉยชาไปแล้ว
ในยามที่เหนื่อยการได้กินของอร่อยย่อมมีผลต่อร่างกาย ยิ่งถ้าเป็นของชอบก็ยิ่งเพิ่มพลังได้หลายเท่า
- การช็อปปิ้งอย่างบ้าคลั่ง ก็ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
เมื่อรู้สึกไม่สบายใจ กิจกรรมหนึ่งที่หลายคนทำแล้วได้ผลคือการช็อปปิ้ง ถือเป็นวิธีที่ได้ผลดีระดับหนึ่ง
- กำลังสับสน หาทางออกชีวิตไม่เจอ
จากความตั้งใจที่มีอยู่เปี่ยมล้น กลับรู้สึกไม่ใช่ทางที่อยากใช้แบบแต่ก่อนอีกแล้ว
- เมื่อเจอใครมาให้กำลังใจ จะรู้สึกเบื่อหน่ายมากเป็นเท่าตัว
กำลังใจจากคนรอบข้างคือสิ่งสำคัญ แต่บางทีทุกคนก็ไม่ได้ต้องการมันในทุกช่วงเวลา
- เรื่องเล็กน้อยก็ส่งผลต่ออารมณ์ของเราได้
เรื่องที่ส่งผลแค่ปลายเล็บ กลับมามีบทบาทสำคัญจนทำให้อารมณ์เสียในทั้งวัน
- ตื่นขึ้นมาก็นึกไปถึงตอนหมดวันไปก่อนเสียแล้ว
ทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นวันแท้ ๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงช่วงเวลาที่จะได้พักผ่อนในยามเย็น
- แม้จะรู้ตัวว่ากำลังหมดไฟ แต่ก็ยังไม่อยากออกจากความรู้สึกนี้ในทันที
ไม่ใช่ทุกคนจะคิดเหมือนกัน บางคนชอบหาทางออก ส่วนบางคนชอบเรียนรู้รสชาติเสียก่อนมากกว่า
ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทุกคนเจอได้ในแต่ละวัน และสามารถเกิดขึ้นได้ซ้ำ ๆ โดยที่ไม่มีความผิดด้วย เพราะคนเรามีชีวิตและจิตใจไม่ใช่หุ่นยนต์ที่แค่ป้อนข้อมูลลงไปก็จะกลับมาใช้งานในทันที เพราะคือความแตกต่างของคนเราที่ไม่ได้ทำงานแบบนั้น
เพียงแต่ว่าหากยังครุ่นคิดกับมันมากเกินไป นอกจากไม่ส่งผลให้เราเดินหน้าต่ออย่างมีคุณภาพ บางทีอาจกำลังพาเดินถอยหลังในสิ่งที่เป็นอยู่ และสุดท้ายจะทำอะไรก็คงส่งผลไม่ค่อยจะดีนัก
สุดท้ายถ้ารู้สึกว่าสิ่งที่กำลังเป็นอยู่มันไม่ค่อยโอเคกับคุณสักเท่าไหร่ ลองให้บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองบางอย่างสำหรับคุณ ไม่แน่ความรู้สึกเหล่านี้อาจพาสิ่งดีใหม่ที่น่าสนใจยิ่งกว่ามาบรรจบกับเส้นทางชีวิตเพื่อให้รสชาติในชนิดที่คุณต้องไม่เคยลองมาก่อน อย่างแน่นอน
…
เรียบเรียงโดย: กฤตเมธ อันสมัคร
กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels