มือสมัครเล่นไม่อ่านเรื่องนี้
ทำแบบญี่ปุ่น
เพิ่มประสิทธิภาพคนและองค์กร
สู่มาตรฐานระดับมืออาชีพ
Kaizen เป็นคําศัพท์ทางเศรษฐกิจของชาวญี่ปุ่น แปลว่า ′′เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น′′ หรือ ′′การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง′′ คําศัพท์นี้ในภาษาอังกฤษคือ ′′improvement′′ หรือ ′′Continuous Improvement′′ และในภาษาจีน Kaizen ออกเสียงว่า Gansai หมายถึงการดําเนินการที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ประโยชน์ต่อส่วนรวมในระดับทวีคูณ
ในหนังสือ Kaizen: กุญแจความสําเร็จของชาวญี่ปุ่น Kaizen ได้นิยามไว้ดังนี้:
“Kaizen หมายถึงการปรับปรุง นอกจากนี้ Kaizen ยังหมายถึงการปรับปรุงชีวิตส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งชีวิตครอบครัว ชีวิตสังคม และสิ่งแวดล้อมในการทํางาน เมื่อ Kaizen ถูกนําไปใช้ในที่ทํางานหมายถึงการปรับปรุงที่เกี่ยวข้องกับทุกคน – คณะกรรมการบริหารก็เช่นเดียวกับพนักงานทุกคน คือต้องปรับปรุงไปด้วยกัน”
ในญี่ปุ่น Kaizen มีประวัติยาวนานกว่า 50 ปีและ Toyota เป็นบริษัทแรกที่นำ Kaizen มาใช้อย่างจริงจัง จากนั้น Kaizen ได้แพร่หลายในแทบทุกบริษัท และในปัจจุบันบริษัทของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้ Kaizenในการขับเคลื่อนองค์กร
ปรัชญานี้ไม่ได้จํากัดเพียงในอุตสาหกรรมการผลิตเท่านั้น แต่ยังสามารถนําไปใช้ในอุตสาหกรรมบริการธุรกิจค้าปลีก และแม้แต่หลักสูตรการเรียนรู้การพัฒนาแทบจะทุกด้าน และที่สำคัญปรัชญานี้ยังเหมาะกับชีวิตส่วนตัวของแต่ละคน สำหรับการนำไปใช้เพื่อพัฒนาตนเอง
นี่คือแนวคิดของ Kaizen
1. ให้ความสําคัญกับลูกค้าเสมอ
– หลักการไม่เปลี่ยนแปลง: การผลิตและให้บริการตามทิศทางของตลาดและต้องตรงตามความต้องการของลูกค้า
– เป้าหมาย: มุ่งเน้นการปรับปรุงและการบริหารงานคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก มุ่งเน้นบริการลูกค้า เพิ่มประโยชน์ของสินค้าเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
– ผู้ที่ได้ประโยชน์สุดท้ายคือลูกค้า ดังนั้นกิจกรรมใด ๆต้องไม่หยุดที่จะเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและไม่หยุดที่จะเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
2. ปรับปรุงอยู่เสมอ
– หลักการ: การเสร็จสิ้นไม่ได้หมายถึงการจบงาน แต่แค่จบในภารกิจนี้ก่อนจะย้ายไปสู่ภารกิจต่อไปที่ต้องยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น
– มาตรฐานทางเทคนิคและงบลงทุนในปัจจุบัน ต้องตรงกับความต้องการของลูกค้าในอนาคต
– การมุ่งเน้นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพมากกว่ามากในมุมของต้นทุนและเวลาเมื่อเทียบกับการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ดังนั้นขั้นตอนการปรับปรุงผลิตภัณฑ์การบริการจึงจําเป็นต้องมีการวางแผนและดําเนินการอย่างต่อเนื่องอย่างชัดเจน
3. สร้างวัฒนธรรม ′′ไม่โทษ′′
– คําขวัญ ′′ความผิดพลาดของฉันนำไปสู่ความสําเร็จของฉัน′′ ความรับผิดชอบที่ถูกต้องและเหมาะสมสําหรับแต่ละบุคคล บุคคลจะต้องรับผิดชอบในภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้น
– ไม่มีรายงานขอโทษด้วยเหตุผลที่ไม่ชอบธรรมเช่น: แดดออกฝนตกหรืออยู่ในสภาพที่มีข้อจำกัด
– ส่งเสริมความสามารถของสมาชิกแต่ละคนเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องร่วมกัน เติมเต็มความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้….นั่นคือการสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ เพื่อสินค้าและบริการมีจุดยืนในตลาดอย่างแข็งแกร่งและเติบโตต่อไป
4. ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง
– สร้างวัฒนธรรมองค์กรภายใต้หลักเกณฑ์ ′ธุรกิจคือการตอบสนองลูกค้า′
– สร้างสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง โดยไม่ตําหนิเจ้าหน้าที่กล้าที่จะมองตรงไปตรงมา กล้าชี้จุดอ่อน
– การสร้างระบบข้อมูลภายในที่ดี รวมถึงช่องข้อมูลที่ต้องการความร่วมมือที่ดีสําหรับทีม เพื่อแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน พนักงาน กับผู้นํา และในทางกลับกัน คือทุกคนในบริษัท
5. ส่งเสริมการทํางานเป็นทีม
– การสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพเป็นส่วนสําคัญในโครงสร้างของบริษัท
– แต่ละทีมต้องการการกําหนดอํานาจ: หัวหน้าทีมต้องการความชัดเจนในภารกิจที่ครอบคลุมการปฏิบัติหน้าที่
– ทีมต้องมีความสามารถในการรวบรวมข้อมูล สามารถประเมินและจัดระเบียบความเหมาะสมของความเป็นไปได้ในการดําเนินโครงการ สมาชิกต้องมีความพยายามในการประสานงานเพื่อให้ทีมมีประสิทธิภาพดีและมีประสิทธิภาพในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
– เคารพสมาชิกในทีมด้วยจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์
6. การบริหารโครงการที่ผสมผสานกับฟังก์ชันแยกย่อย
ในหลักการนี้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลจําเป็นต้องมีการจัดการทรัพยากรที่มีความสมเหตุสมผลด้วยการหลอมรวมจากส่วนต่าง ๆ แผนกในบริษัท รวมถึงใช้ทรัพยากรจากภายนอกในการทําโครงการ
7. ปลูกฝังกระบวนการความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง
– ไม่สร้างการเผชิญหน้าหรือมองคนอื่นว่าเป็นศัตรู
– การลงทุนในโครงการฝึกทักษะการสื่อสารสําหรับพนักงาน โดยเฉพาะการฝึกอบรมสําหรับผู้จัดการและการผู้นําเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูงสุด คือสิ่งที่ควรลงทุนเป็นลำดับต้น ๆ
8. การฝึกอบรมสติ สร้างวินัยในตนเอง:
– การปรับตัวอย่างเต็มใจกับกฎเกณฑ์
– เสียสละความเป็นตัวตนเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกับเพื่อนร่วมงาน
– พิจารณาตัวเองอยู่เสมอเพื่อยับยั้งความต้องการของตนเอง มีหลักคิดว่าประโยชน์ของงานต้องมาก่อน
9. ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ทุกคน
– ข้อมูลเป็นองค์ประกอบสําคัญอันดับต้น ๆ ในการผลิตธุรกิจที่ทันสมัย
– พนักงานไม่สามารถได้รับผลลัพธ์ที่โดดเด่นเกินความคาดหมายได้หากไม่มีความเข้าใจในหน้าที่ ค่านิยม สินค้า ผลลัพธ์ทางธุรกิจ บุคลากร และแผนการอื่น ๆ ของบริษัท
– การรักษาการแบ่งปันข้อมูลให้กับพนักงานทุกคนเป็นวิธีที่ยากลําบาก แต่เป็นความท้าทายของบริษัทสําหรับสมาชิกแต่ละคน
10. ส่งเสริมผลผลิตและประสิทธิภาพ
ผ่านการรวบรวมวิธีการฝึกอบรม
– การฝึกทักษะที่หลากหลาย
– กระตุ้นและสร้างทักษะ สร้างมาตรฐานในการทํางาน
– สร้างความรับผิดชอบต่อจิตวิญญาณในการทํางาน
– การมอบอำนาจมอบสิทธิ์เฉพาะ
– ส่งเสริมความสามารถเชิงรุกและการตัดสินใจด้วยตนเอง
– อํานวยความสะดวกในการเข้าถึงและใช้ทรัพยากรกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่แสดงความเห็น
– ย้ายงานและรางวัลให้ทันเวลา
บทความยาว เหมาะสำหรับมืออาชีพเท่านั้น
บทความโดย: กองบรรณาธิการ
สำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels