โอกาสมีอยู่ทุกหนแห่ง อยู่ที่ว่าใครจะคว้าและใช้ประโยชน์จากมันได้
หลายคนมีโอกาสหลายครั้ง หลายคนมีอยู่ไม่กี่ครั้ง หรือบางคนที่อาจจะได้โอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวแต่ก็สามารถเปลี่ยนมันให้กลายเป็นความทรงจำอันล้ำค่าไม่ว่าจะผ่านกาลเวลาไปยาวนานเพียงใดก็ยังมีคุณค่าเสมอ
แต่สิ่งที่ยากกว่าการได้โอกาสมาคือ ทำอย่างไรให้เราได้มันมา
ความทรงจำอันล้ำค่าอาจจะเกิดจากมือเล็กๆ ของชายคนหนึ่งปัดลูกบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูเข้าไปและเขาก็ตั้งชื่อให้มันว่า “Hand of God” จนกลายเป็นตำนาน
แม้แต่การเรียกทีมฟุตบอลระดับโลก 2 ทีม มาแข่งกันนอกประเทศบ้านเกิดของพวกเขาก็ทำให้เห็นแล้วว่าการที่เราจะได้สิ่งนั้นมาต้องใช้แรงกายแรงใจและความบ้าขนาดไหน ต่อให้มีเงินมากแค่ไหนก็ใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่าง
แล้วเราได้อะไรคืนมา?
สิ่งที่เราได้คืนมาอาจจะไม่ใช่เงิน แต่เป็นความสุขที่ได้โอกาสทำ ยิ่งถ้าสิ่งนั้นทำให้คนอื่นมีความสุขด้วยก็อาจจะคุ้มค่าแล้วก็ได้
ผมมีเล่าเรื่องของชายคนหนึ่งให้คุณฟัง
ย้อนกลับไปในปี 1973 ที่ปารีส ฝรั่งเศส มีชายคนหนึ่งชื่อ ฟิลิปป์ เปอตีต์ เขาเติบโตมาพร้อมกับความชอบในเรื่องมายากล ทำให้เลือกที่จะเป็นนักแสดงมายากลตามถนนหนทางในปารีสเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง
เอกลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนจดจำเขาได้คือ การสวมหมวก เสื้อเชิ้ต และรองเท้า เป็นสีดำทั้งหมด นอกจากเรื่องมายากล สิ่งที่เปอตีต์ชอบอีกอย่างคือ การเดินบนลวด หรือ การเดินไต่เชือก เขามักจะหาสถานที่เหมาะๆ ขึงเชือกแล้วเดินไปมาพร้อมเล่นมายากลไปด้วย
โชคไม่ดี วันหนึ่งเขาเล่นกลพลาดทำให้ปากบาดเจ็บต้องไปหาหมอฟันเพื่อรักษา ระหว่างนั่งรอคิวอยู่ก็หยิบนิตยสารขึ้นมาอ่านฆ่าเวลาไป ทันใดนั้นเปอตตีต์ไปสะดุดเข้ากับหน้าหนึ่งซึ่งเขียนเกี่ยวกับการก่อสร้างตึกแฝดชื่อว่า “เวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์” ความพิเศษของตึกนี้คือเมื่อสร้างเสร็จ มันจะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดโลก
เขามีความฝันแล้ว เพียงแต่มันไม่ใช่เรื่องที่คิดวันนี้แล้วพรุ่งนี้จะทำได้เลย
เปอต์ตีจำได้ว่าในวัยเด็ก เคยมีคณะละครสัตว์เดินทางมาแสดงที่ปารีสพร้อมกับการแสดงเดินไต่เชือก ดังนั้น ถ้าอยากได้คำแนะนำก็ต้องไปหาคนที่ทำเป็น เปอตีต์เลยเดินทางไปสถานที่แสดง เขาเจอกับคนที่ชื่อ ปาป้า รูดี้ ซึ่งเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของคณะละครสัตว์และยังเป็นยอดนักเดินไต่เชือกด้วย
แต่ปัญหาคือ รูดี้ เข้าใจว่าเปอตีต์อยากมาเป็นนักแสดงคนใหม่เลยสอนวิธีการเคารพและการเอาใจคนดูต่างๆ ให้ ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เปอตีต์ต้องการ เขาเล่นกลได้ก็จริงแต่ไม่ได้อยากเป็นนักแสดง รูดี้ โมโหจัดก็เลยไล่เขากลับบ้านไป
ถามว่าที่บ้านเป็นอย่างไร เปอตีต์ทะเลาะกับคุณพ่ออย่างหนัก เพราะคุณพ่อซึ่งเป็นนักบินมองว่าการเดินไต่เชือกไม่ใช่อาชีพที่จะเอามาหาเลี้ยงตัวเองได้ เปอตีต์โกรธจัดถึงขนาดเก็บข้าวของหนีออกจากบ้าน
ความฝันของเขาแตกสลายไป
.
จนกระทั่ง…
เขาได้เจอกับแอนนี่ เธอเป็นนักดนตรีเปิดหมวก คืนวันหนึ่งเปอตีต์ชวนแอนนี่ไปกินข้าวด้วยและเล่าความฝันของเขาให้ฟัง แอนนี่เข้าใจสิ่งที่เปอตีต์พูด จากนั้นเธอกลายเป็นผู้ช่วยคนแรกของเขา
แอนนี่ยอมให้เปอตีต์ไปขึงเชือกเดินฝึกอยู่ในสวนที่โรงเรียนสอนศิลปะของเธอ ต่อมามีนักข่าวชื่อ ฌ็อง หลุยส์ เดินทางมาถ่ายรูปเขา ทั้งคู่คุยกันได้สักพักก็ตกลงร่วมงานกัน ฌ็อง หลุยส์ รับปากจะถ่ายรูปให้เปอตีต์
เปอตีต์ยังต้องการรู้วิธีขึงเชือกในที่สูง แน่นอนว่าที่ที่นั้นต้องสูงกว่าต้นไม้ และทางเดียวที่จะรู้คือ กลับไปหารูดี้ ครั้งนี้ รูดี้ยอมสอนวิธีการขึงเชือกให้
จากนั้น สมาชิกทั้ง 4 คน ได้แก่ เปอตีต์ แอนนี่ ฌ็อง หลุยส์ และ รูดี้ ก็รู้จักกัน เปอตีต์ได้โอกาสฝึกตามสถานที่ต่างๆ ที่รูดี้แนะนำ ในไม่ช้าโอกาสที่จะได้แสดงครั้งแรกมาถึง เปอตีต์แอบเข้าไปขึงเชือกเหนือวิหารนอเทรอดาม และทำการแสดงตอนเช้า เขาทำสำเร็จโดยไม่มี
กาลเวลาผ่านไป ข่าวของ ตึกเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ ที่สร้างเสร็จเกือบสมบูรณ์ถูกเผยแพร่ ความฝันที่เคยแตกสลายไปก็กลับมาเป็นรูปเป็นร่างอีกครั้ง เปอตีต์และแอนนี่เดินทางไปที่นิวยอร์กทันที
ภาพตึกระฟ้าสูงเสียดฟ้าที่อยู่ต่อหน้าเปอตีต์ ทำให้เขาทึ่งกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน
หลังจากที่แอบเข้าไปในตึกมา ฌ็อง หลุยส์ ที่รู้รายละเอียด คัดค้านสิ่งที่เปอตีต์จะทำ เพราะตึกมีขนาดใหญ่กว่าที่พวกเขารู้จัก หนำซ้ำยังมีคนงานเดินเข้า-ออก ตลอด 24 ชม. จะเข้าทั้งทีก็ต้องมีบัตรคนงาน ไหนจะระยะห่างระหว่างตึกที่ยังไม่มีใครรู้ และแรงลมอีก
พวกเขาเดินทางไปมาระหว่างฝรั่งเศส-อเมริกา อยู่หลายเที่ยว
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคของเปอตีต์ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะการเดินบนความสูงจากพื้นเป็นร้อยเมตร รูดี้แนะนำให้เขาใช้เชือกเซฟตี้ผูกติดเอาไว้ แต่เปอตีต์ไม่เอา ต่อให้รู้ว่ามันอันตรายแต่เขาไม่ต้องการให้ความคิดแบบนักแสดงของรูดี้เข้ามาทำลายแผนของเขา
รูดี้ในฐานะนักแสดงที่ไม่อาจเข้าใจถึงความต้องที่แท้จริงของเปอตีต์ สิ่งที่เขาช่วยได้คือคำแนะนำและเงินจำนวนหนึ่งเท่านั้น ก่อนเขาจะขอถอนตัว แต่โชคดีสำหรับเปอตีต์ เขาได้ครูสอนคณิตศาสตร์ชื่อ เจฟฟ์ เข้ามาเป็นผู้ช่วยคนใหม่ จากการแนะนำของ ฌ็อง หลุยส์
พวกเขาใช้เวลาเตรียมตัว เปอตีต์ได้ขีดเส้นตายวันที่เขาจะเข้าไปเตรียมตัวในวันที่ 6 สิงหาคม 1974
ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ของเขาได้เริ่มขึ้น เปอตีต์ปลอมตัวเป็นพนักงานเข้าไปสอดส่องความเคลื่อนไหวทุกอย่างภายในตึก กระทั่งเขาได้รู้จักกับ แบร์รี่ กรีนเฮาส์ ตัวแทนขายประกันที่ทำงานอยู่ในในตึกโดยบังเอิญ ซึ่งเคยดูการแสดงของเปอตีต์ที่นอเทรอดาม และตกลงที่จะช่วยเปอตีต์อีกคน
ยิ่งได้คนช่วยเยอะก็ยิ่งดี ต่อมาเปอตีต์รู้จักกับ ฌ็อง ปิแอร์ ชาวฝรั่งเศสที่มาอยู่ในนิวยอร์กซึ่งมีพรรคพวกมาช่วยอีก เพื่อเป้าหมายเดียวนั่นคือ การทำความฝันของเปอตีต์ให้เป็นจริง
เวลาการแสดงเริ่มใกล้เข้ามาทุกที การเตรียมตัวเพียงชั่วข้ามคืนดำเนินขึ้น
จนเวลาของการแสดงมาถึงในช่วงเช้าของ วันที่ 7 สิงหาคม 1974
สายตาของชาวนิวยอร์กมองขึ้นไปบนยอดตึกเพื่อเอาใจช่วยให้เปอตีต์บันทึกประวัติศาสตร์ลงไปหัวใจของชาวโลก
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ The Walk ผลงานการกำกับของ โรเบิร์ต เซเมคคิส (Robert Zemeckis) ที่ดัดแปลงเนื้อเรื่องมาจากหนังสือ “To Reach The Clouds” ผลงานการเขียนของ ฟิลิปป์ เปอตีต์ (Philippe Petit) นักเดินไต่เชือกตัวจริงผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์การเดินไต่เชือกครั้งประวัติศาสตร์และเป็นที่จดจำไปทั่วโลก
ในส่วนของนักแสดงนั้น นำมาโดย โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ ในบท ฟิลิปป์ เปอตีต์, ชาร์ล็อตต์ เลอ บง ในบท แอนนี่, เบ็น คิงส์ลีย์ ในบท รูดี้ และ คลีมองต์ ซีโบนี ในบท ปิแอร์ หลุยส์
และต่อจากนี้คือ 3 ข้อสำคัญที่เราได้จาก The Walk
- ไม่มีใครสมบูรณ์ตั้งแต่เริ่ม
เปอตีต์มีโอกาสได้เห็นคุณพ่อของเขาเดินไต่เชือกในคณะละครสัตว์ตั้งแต่เด็กจนเป็นแรงผลักดันให้เขาอยากทำได้บ้างและเริ่มต้นฝึกฝนตั้งแต่นั้น
ชีวิตของเราก็เช่นกัน การลงมือทำอะไรบางอย่างอาจจะไม่ได้มาจากความชอบเสมอไปแต่มาจากการได้เห็นคนอื่นทำจนเป็นความท้าทายอยากทำให้ได้เหมือนคนอื่นบ้างซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เราเริ่มฝึกฝนตัวเองตเรื่อยมาจนเกิดความชำราญ
- การเตรียมการที่ดีช่วยให้เราทำงานได้สะดวก
นับจากวินาทีที่เปอตีต์เห็นภาพโฆษณาในแมกาซีน เขาก็เริ่มวางแผนทันทีว่าเขาต้องรู้อะไรและต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ตัวเองขึ้นไปเดินบนตึกเวิงด์ เทรด เซ็นเตอร์ ได้ เปอตีต์ใช้เวลาศึกษาวิธีการเข้าไปในตึก การฝึกซ้อมครั้งแล้วครั้งเล่า
นี่คือวิธีเรานำไปใช้ได้ง่ายๆ พรุ่งนี้มีงานอะไรที่เราต้องจัดการ มีการบ้านอะไรที่เราต้องทำก่อนเริ่มต้นวันใหม่ ลองนึกดูให้ดีว่าคุณเตรียมตัวแล้วหรือยัง
- ขับเคลื่อนเป้าหมายด้วยความฝันของเรา
เปอตีต์คือ ศิลปิน เช่นเดียวกับศิลปินในสาขาอื่นๆ ผลงานของพวกเขาใช้เวลาในการสร้างสรรค์นับเดือนหรืออาจจะเป็นปี สิ่งนี้เป็นตัวบอกว่าเป้าหมายของแต่ละคนนอกจากจะมีความแตกต่างแล้วยังต้องใช้เวลาในการผลิตชิ้นงานออกมาด้วย
ดังนั้น ถ้าคุณมีความฝันอะไรก็ตามก็ขอให้คุณใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จจงได้
.
ผลสุดท้ายแม้ว่าเปอตีต์จะถูกจับ แต่เสียงปรบมือของผู้คนที่มองดูการแสดงของเขา รวมถึงการได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ก็ทำให้เข้าใจมีความสุขที่จะได้ทำในสิ่งที่คนคิดว่าเป็นไปไม่ได้
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เขาเองไม่คิดว่าตัวเขาจะได้มาทำหน้าที่สอนการเดินไต่เชือกให้ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ อีกครั้งเป็นเวลา 8 วันเต็ม เพื่อให้โจเซฟรู้วิธีการเดินไต่เชือกและถ่ายทอดความรู้สึก ณ วินาทีนั้น ออกมาสู่สายผู้ชมให้ดีที่สุด
The Walk ไต่ขอบฟ้าท้านรก
ที่มา
https://en.wikipedia.org/wiki/Philippe_Petit
https://www.hownot2.com/post/ancient-greek-and-roman-rope-walkers-the-history-of-slack
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: Twitter: The Walk Movie