บรรดานักลงทุนหรือนักขายทั้งหลายต่างก็ต้องเคยพบเจอกับปัญหาคู่แข่งทางการตลาด นี่ถือว่าเป็นปัญหาระดับชาติของเหล่านักลงทุนเลยก็ว่าได้ เป็นเรื่องดีที่ในช่วงแรกเริ่มทำธุรกิจของหลายๆ คนมักจะรุ่งโรจน์ ขายดิบขายดีแบบที่ไม่ต้องทำการโปรโมตอะไรมากมายด้วยซ้ำ อาจเพราะเป็นเจ้าแรกๆ ที่ทำหรือขายสินค้า/บริการนั้นๆ แต่เมื่อถึงวันหนึ่งที่ธุรกิจแบบคุณดันผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดอีกจำนวนมากมายล่ะ จากที่ลูกค้าเคยวิ่งเข้าหาคุณที่มีเพียงเจ้าเดียว กลับกลายเป็นวิ่งเข้าหาเจ้าใหม่ๆ ที่อาจจะมีทางเลือกบางอย่างที่น่าสนใจกว่า แต่ก็ยังคงได้สินค้าที่เหมือนๆ กันกับแบรนด์ของคุณ
มันน่าเศร้ามากเลยสินะ…
เราเรียกเหตุการณ์แบบนี้ว่า “Choice crisis” เป็นวิกฤตที่เหล่านักขายทั้งหลายต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออฟไลน์หรือออนไลน์ก็ตาม โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่เอื้อและง่ายต่อการทำเริ่มต้นทำธุรกิจสักอย่างมากๆ ใครๆ ก็สามารถขายของจากที่ไหนก็บนโลกใบนี้ แต่เพราะมันง่ายนี่แหละ เลยเกิด Choice crisis ได้ง่ายเหมือนกัน
อธิบายแบบง่ายๆ Choice crisis มันก็คือการที่กลุ่มเป้าหมายมีทางเลือกในการเลือกซื้อสินค้าหรือบริการมากขึ้นนั่นแหละ เป็นเรื่องดีในมุมของกลุ่มลูกค้าแต่แน่นอนว่าเป็นฝันร้ายสำหรับบรรดานักอย่างขายที่สุด
ก็ใครมันจะอยากมีคู่แข่งกันล่ะ จริงไหม…
แต่ในเมื่อโลกมันเคลื่อนไปข้างหน้าเรื่อยๆ แบบนี้ อะไรก็มาฉุดรั้งไม่อยู่ ดังนั้นสิ่งที่เหล่านักขายจะทำได้เพื่อชนะใจลูกค้าก็คือการสร้างความแตกต่างในแบรนด์คุณให้มันโดดเด่นขึ้นมา
ในแง่มุมของธุรกิจแบบออนไลน์ ปัญหาที่อยู่ติดข้างๆ กับจำนวนคู่แข่งทางการค้าเลยก็คือการสร้างคอนเทนต์เพื่อทำการตลาดในแบรนด์ของตัวเอง ที่บอกว่าขายของออนไลน์มันง่ายนั้นก็จริง แต่ก็ไม่ง่ายไปซะทีเดียวเพราะเมื่อถึงจุดจุดหนึ่งทุกคนมักจะเจอกับทางตันในแง่ไอเดีย คิดคอนเทนต์ไม่ออก เจอทางตัน จนท้ายที่สุดเลิกทำไปเลยก็มี
แต่รู้อะไรว่าจริงๆ ที่คุณมัวเสียเวลาไปคิดหรือหาคอนเทนต์มาทำน่ะ มันไม่ต่างกับการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเลย สุดท้ายมันก็คือการขายของแบบตรงๆ
(อย่าลืมนะว่าลูกค้าจะไม่ปลื้มวิธีการขายของตรงๆ แบบซึ้งๆ หน้า)
ดังนั้น คุณควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ นั่นก็คือ “ตัวคุณ” นั่นแหละ
- ปรับ Mindset/ เปลี่ยนจุดศูนย์กลางใหม่
ให้คิดว่าแก่นหลักของการทำธุรกิจไม่ใช่การขายของ แต่มันคือการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย/ลูกค้า อย่ามัวไปโฟกัสว่าคุณขายอะไรเพราะนั่นคือการตอบโจทย์ให้ตัวเอง กลับกันถ้าเราศึกษาความต้องการของคนในตลาด เริ่มต้นด้วยการลองมองในมุมของลูกค้า เขาต้องการอะไร ติดปัญหาตรงไหน แล้วเราจัดการตอบโจทย์ แก้ปัญหา หรือสามารถ Educate ตลาดได้ ก็จะทำให้คุณมีโอกาสมากกว่า
- ศึกษาปัญหาของเป้าหมาย
ปัญหามันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน ดังนั้นให้มองหาปัญหาที่เป้าหมายเจอ บางทีประเด็นเดียว แต่มีคนเจอปัญหาที่ต่างกันกว่าสิบหรือร้อยเรื่อง ซึ่งปัญหาเหล่านั้นคือคอนเทนต์ที่ดีสำหรับคุณ
- ลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์ของคอนเทนต์
ถ้าคุณมีฐานลูกค้าเก่าอยู่แล้วจะยิ่งสบายและง่ายขึ้นสำหรับการหาไอเดียของการสร้างคอนเทนต์ เพราะลูกค้าเก่าที่เคยติดปัญหา แล้วคุณสามารถแก้ไขให้ได้สำเร็จ ก็สามารถหยิบยกประเด็นตรงนั้นมาสร้างเป็นคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์ให้ลูกค้าใหม่ได้
- แวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนทำธุรกิจคือตัวช่วยที่ดี
ในมุมของคนทำธุรกิจประเภทเดียวกัน คุณจะได้รู้ข้อมูลและปัญหาเชิงลึกได้ ส่วนในมุมของธุรกิจอื่นๆ ข้อดีของคุณจะได้เห็นมุมมองที่ต่างและกว้างกว่าเดิม ก็จะทำให้คุณได้ไอเดีย มุมมอง และสามารถเอามา Adapt ใช้ในคอนเทนต์ของคุณได้
- ให้ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำเพจแบบยุคใหม่
เพจที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อขายออย่างเดียว แต่เป็นเพจที่มีฐานแฟน ซึ่งตรงนี้จะช่วยยกระดับการทำคอนเทนต์ของคุณให้ดีขึ้นไปอีกขั้น เพราะเมื่อคุณมีฐานแฟนเป็นของตัวเอง คุณก็จะสามารถหาคอนเทนต์ได้จากกลุ่มฐานแฟนที่มี อาจจะถามไปเลยตรงๆ ว่าตอนนี้มีใครติดปัญหาหรือต้องการรู้ในเรื่องอะไรในธุรกิจของคุณไหม แล้วก็เอาคำตอบนั้นมาสร้างเป็นคอนเทนต์ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปเสาะแสวงหาประเด็นจากที่ไหนให้เหนื่อยเลย
ลูกค้าสามารถแก้ปัญหาได้ส่วนคุณก็ได้คอนเทนต์
วินวินทั้งคู่
…
อ้างอิง:
- 5 วิธีทำ Content ให้ไม่มีทางตันอีกเลยตลอดชีวิต จากเพจ Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing (https://bit.ly/3LQ9gTz)
หมายเหตุ: เป็นการเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ฐานิต
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: Pexels และ freepik