ผ่านพ้นไปอีกครั้งกับเทศกาลวันหยุดยาว หลายคนเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยความว่างเปล่า บางคนนั่งทำงานพร้อมกับฮัมเพลงที่ฟังเมื่อตอนออกเดินทาง บางคนก็ปล่อยใจล่องลอยไปไหนต่อไหน หรือแม้แต่บางคนขาดสมาธิจนหลุดโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ากันอย่างถ้วนหน้า
หากมีเจ้านายของใครสักคนได้ผ่านเข้ามาอ่านคงไม่พอใจพลางโกรธอยู่แน่นอน ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าภูมิใจสักเท่าไหร่ เพราะว่ากันตามตรงนี่คือช่วงเวลาที่จะเกิดความผิดพลาดได้สูงพอสมควรแต่ก็อยู่บนพื้นฐานในการเข้าใจได้ เพราะว่ากันว่านี่คือภาวะที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่จำเป็นต้องหยุดยาว แค่หยุดสุดสัปดาห์ทุกคนก็สามารถเกิดความรู้สึกนี้ขึ้นมาได้
Post-Vacation Blues คำนี้ถูกหยิบยกมาพูดถึงได้เสมอเมื่อผ่านพ้นทุกวันหยุดยาวของทุกปี เพราะนี่คือข้อมูลยอดฮิตของเหล่าผู้คนที่ต้องออกมาใช้ชีวิตภายนอกไม่ว่าจะเรียนหรือทำงานก็ตามที โดยที่ข้อมูลเบื้องต้นบอกในทิศทางเดียวกันว่าเป็นภาวะที่เกิดขึ้นหลังจากสนุกอย่างเต็มที่ในวันหยุด
อันเป็นสาเหตุจากปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายที่ส่งผลก่อให้เกิดความเครียด เพราะสภาพแวดล้อมเปลี่ยนหรือสิ่งที่ทำประจำวันเปลี่ยนไป เพราะเช่นนั้นไม่แปลกที่เวลาวันหยุดยาวเทศกาลหรือหากใครพักร้อนนาน ๆ เมื่อกลับมาทำงานก็มักจะบ่นไปตาม ๆ กัน
เจ้าความรู้สึกคิดถึงวันหยุดแบบนี้ มันเกิดขึ้นมาได้เอง และมันก็หายคืนกลับได้เอง แต่ขึ้นอยู่วิถีชีวิตของแต่ละคนด้วย บางคนจมปลักกับอดีตเฝ้าแต่คิดถึงความรู้สึกตอนนั้นมันดีอย่างนี้ จนเสียการงานก็หลายคน แย่ไปกว่านั้นถ้ายังจมอยู่กับเรื่องเดิมก็จะกลายเป็นความขี้เกียจที่เกาะตัวแน่นขึ้น
และทุกคนคงรู้สรรพคุณของความขี้เกียจดีอยู่แล้ว หากเราขี้เกียจมากเข้าก็คงเป็นสัญญาณไม่ดีของการดำเนินชีวิต จะทำอะไรก็คงออกมาไม่ดั่งใจทุกครั้งจนไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
การแยกแยะคือกุญแจสำคัญของเรื่องนี้ ก่อนจะรู้วิธีแก้ไขปัญหา บางทีเราอาจต้องรู้ก่อนว่าผลเสียของปัญหานั้นเป็นแบบไหน เพราะนั่นคือเป้าหมายที่จะทำให้เราอยู่ในเส้นทางมากขึ้น
ซึ่งผลเสียหลักที่ทำให้หลายคนอยากก้าวออกไปจากความรู้สึกบ้า ๆ แบบนี้ คือลดความทะเยอทะยานลงอย่างเห็นได้ชัด สังเกตไหมว่าก่อนจะหยุดยาวเรามักจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มกำลัง เพื่อเฝ้ารอในวันหยุดที่กำลังเดินทางมาถึงโดยที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยด้วยซ้ำไป
เมื่อถึงวันหยุดที่ทุกคนให้นิยามว่า ‘ไปชาร์จแบตเตอรี่ให้ตัวเอง’ หมายความว่าต้องเติมพลังชีวิตให้มากขึ้น แต่ทำไมถึงเป็นการดูดพลังออกไปมากกว่าเดิมอีกล่ะ
แล้วเมื่อความขี้เกียจเข้าครอบงำมากเท่าไหร่ จากเป้าหมายที่ชัดเจนก็จะค่อยเบลอลงเรื่อยมา ซึ่งเป็นการยากที่จะไปถึงเป้าหมายได้เหมือนเดิม ขณะเดียวกันข้อเสียก็จะปรากฏชัดเจนขึ้น
ถ้าเป็นแบบนั้น จะแก้ไขได้อย่างไรดี? นี่คงเป็นคำถามที่ทุกคนอยากรู้คำตอบของสมการข้อนี้
การเริ่มต้นด้วยการเติมพลังให้ตัวเองหลังจากใช้วันหยุดอย่างเต็มที่ การพูดคุยแชร์ประสบการณ์ระหว่างพักเที่ยงก็ดูจะน่าสนใจ ลองเปิดประโยคด้วยการถามว่าคนอื่นไปที่ไหนกันบ้าง พร้อมกับแทรกประสบการณ์ของตัวเองก็ทำให้มีเรื่องราวจะคุยกันอีกมากมายแล้ว
เพลงปลุกใจก็อาจจะพอช่วยได้ดีระดับหนึ่ง ให้ท่วงทำนองในจิตใจได้ปลดปล่อยตามสิ่งที่พบเจอมา จากนั้นก็ได้เวลาสวิตช์โหมดกลับสู่ความเป็นจริง ต้องกระตุ้นตัวเองเสมอว่าวันหยุดได้ผ่านไปแล้ว ได้เวลาทำงานเพื่อชดใช้สิ่งที่เสียไปนั่นคือ เงิน สักที
อีกวิธีที่น่ามาลองใช้คือตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าวันหยุดคราวหน้าเราจะไปไหนดี เพราะอย่างที่บอกไปให้จดจำช่วงเวลาก่อนถึงวันหยุดให้ดี ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่มีความสุขมากที่สุด การรอคอยที่ยิ่งใหญ่และคุ้มค่ากำลังเดินทางเข้ามา จงใช้ความรู้สึกเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้ถึงที่สุด
และเมื่อทุกคนสละความขี้เกียจออกจากตัวไปได้แล้ว ยังไม่หมดหน้าที่เท่านั้น
สิ่งที่ตามมาคือพลังบางอย่าง ต้องจุดให้มันติดดั่งไฟที่โชติช่วงอยู่เสมอ หมั่นเติมฟืนหรือเศษใบไม้แห้งเพื่อให้เชื้อเพลิงยังคงร้อนแรงและไม่มอดดับไป
ได้เวลารักษาความขยันเอาไว้ให้อยู่เสถียรและถาวรมากที่สุด ช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้มากันง่าย ๆ ใช้เวลาบิวต์ขึ้นมาพอสมควร ฉะนั้นใช้มันให้คุ้มค่าต่อยอดให้ออกไปได้ไกลกว่าเดิม
อาจเปรียบได้เหมือนกับการลงทุนที่เมื่อได้กำไรมาต้องต่อทุนออกไป ไม่อย่างนั้นกำไรที่ได้มาก็จะสูญหายและกลายคืนสภาพเดิมไม่มีประโยชน์อะไร
ส่วนสำคัญอยู่ตรงที่คุณสามารถพาตัวเองมาอยู่ในจุดหมายเดิมได้โดยใช้เวลาเท่าไหร่กัน ยิ่งกลับมาเร็วก็ล่นระยะเวลาได้มาก แต่หากรู้ตัวเมื่อสายไปก็มีแต่จะทำให้เสียเวลาเปล่า ๆ
เมื่อรู้แบบนั้นแล้วก็ควรเซ็ตระบบของการทำงานและเป้าหมายเอาไว้เสมอ เพื่อที่วันหยุดครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึงจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งปรับจูนกันใหม่ พร้อมสานต่อได้เลย
แต่จะว่าไปก็ไม่แปลกที่เมื่อเราขี้เกียจก็อยากจะขอเวลาพักสักเดี๋ยว แล้วค่อยกลับมาลุยต่อได้ แต่อย่านานนักเชียวละเพราะทันทีที่ปล่อยเวลาไหลตามอารมณ์ ก็เท่ากับว่าเวลาที่อยากทำเพื่อบรรลุเป้าหมายก็น้อยลงไปในเวลาเดียวกัน
ทางที่ดีที่สุดควรมองหาประโยชน์ของสิ่งที่จะทำให้เจอ คุ้มค่ากับการลงทุนลงแรงหรือไม่อย่างไร เมื่อเจอแล้วจดจำเอาไว้เพื่อก้าวไปให้ถึงปลายทางได้อย่างจดจ่อ
เหมือนกับปลายทางชีวิตทุกคนก็อาจจะหวังว่ามีเงินสักก้อนและไปใช้ชีวิตในที่สงบสักแห่ง อากาศถ่ายเท อุดมสมบูรณ์ สุขภาพชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม แต่สิ่งที่ทำทุกวันนี้เรายอมสละความขี้เกียจออกไปไกลและนำความขยันเข้ามาเพิ่มในสมองหรือยัง ถ้ายังก็คงต้องปล่อยเป็นเพียงฝันต่อไป..
..
เรียบเรียงโดย: กฤตเมธ อันสมัคร
กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik