ถ้าวันหนึ่งเราเกิดสนใจเรื่องการตลาดขึ้นมา สิ่งใดคือสิ่งที่ควรจะต้องเลือกทำระหว่าง ตามหาผู้เชี่ยวชาญและเรียนรู้จากเขาผู้นั้น กับ หาข้อมูลและเรียนรู้มันด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ไม่มีผิดถูกทั้งสิ้น เพราะเหนือสิ่งอื่นใด แค่คิดจะสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นใหม่ ก็เป็นสิ่งที่ดีแล้ว ยิ่งถ้ามาจากเสียงในใจของตัวเองแล้วละก็ คงจะวิเศษมาก
แต่หากต้องเลือกจริงๆ เชื่อว่าคนส่วนมากจะต้องตัดสินใจเลือกที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองแน่นอน เพราะอยู่ดีๆจะให้ไปเชื่อข้อมูลจากใครคนหนึ่งก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันที่จะทำได้
กระนั้นจะเรียนรู้ด้วยตัวเองก็ไม่รู้จะเริ่มจับจุดจากตรงไหนก่อนดี เพราะไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สัมผัสได้ถึงความยากในสายนี้ สุดท้ายก็คงต้องให้ข้อมูลเป็นตัวช่วยอยู่ดี
และเมื่อพูดถึงข้อมูล นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดน่าอัศจรรย์ที่จะพัฒนาความรู้ในด้านการตลาดให้กลายเป็นมืออาชีพได้ จากแค่การใส่ใจในการใช้ข้อมูลให้เป็น
การตลาดวันละตอน เป็นแฟนเพจที่ว่าด้วยเรื่องของการตลาดอย่างน่าสนใจ ถึงแม้จุดมุ่งหมายหลักคือการเน้นย้ำไปที่ข้อมูล แต่อีกมุมหนึ่งก็กำลังจะบอกว่า การตลาดวนเวียนอยู่รอบตัวของทุกคนเสมอ อยู่ที่ใครจะมองออกก่อนกันเท่านั้นเอง
เป็นผลงานของ คุณหนุ่ย ณัฐพล ม่วงทำ ที่ปรึกษาให้องค์กรต่างๆในเรื่องการทำการตลาดด้วยข้อมูล และเป็นอาจารย์พิเศษวิชา Data Driven Communication และที่สำคัญเขาคือผู้ก่อตั้งและเจ้าของแฟนเพจ การตลาดวันละตอน
แฟนเพจที่ทำให้การตลาดที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องยาก กลับเข้าใจได้ภายในไม่กี่นาที ด้วยความรู้แล้วความเชี่ยวชาญที่มีทั้งหมด ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบน่าสนใจจนประสบความสำเร็จ ช่วยให้ทุกคนสะสมความรู้การตลาดไปในทุกวัน
สิ่งที่ขับเคลื่อนให้แฟนเพจเติบโตได้ดีคือการย้อนมาที่จุดเริ่มต้น หากถนัดเรื่องอะไรให้ศึกษาสิ่งนั้นเพิ่มเติมเข้าไปอีก ก่อนจะค่อยนำเสนอให้กับทุกคนอย่างเข้าใจง่าย
แม้จะเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ แต่ต้องยอมรับว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่คุณหนุ่ยอาจยังไม่รู้ ฉะนั้นการศึกษาเพิ่มเติม ลงลึกในรายละเอียด ก็จะยิ่งเพิ่มพูนความรู้ให้ทวีคูณมากขึ้นไปอีก
ส่วนสาเหตุที่บอกว่าข้อมูลนั้นคือสิ่งสำคัญในการทำการตลาด ก็เพราะว่าเมื่อเรามีข้อมูลมากในมือ เท่ากับว่ามีวัตถุดิบชั้นดี จะดำเนินการอะไรต่อก็ย่อมง่ายไปเสียหมด
ซึ่งหากมีข้อมูลอยู่ในมือ แต่ไม่รู้จักวิเคราะห์ให้เป็น สิ่งที่มีนั้นก็ไม่มีความสำคัญใดๆ ต้องมองปัญหาให้ออก แล้วใช้ประโยชน์กับข้อมูลที่มีให้มากที่สุด และสิ่งที่แสดงออกมาจะคุ้มค่าที่สุด
ที่สำคัญต้องสนุกกับข้อมูลที่มี ยิ่งให้ความสำคัญต่อการวิเคราะห์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าใจการตลาดได้ดีมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อว่าด้วยเรื่องของการตลาด แน่นอนว่าต้องมุ่งเน้นไปที่กลุ่มของวัยทำงาน เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่ได้ใช้ความรู้ในส่วนนี้มาปรับเข้าใช้กับงานหรือธุรกิจส่วนตัวได้ดีมากที่สุด
คอนเซ็ปต์ของแฟนเพจคือการหยิบจับทุกสิ่งรอบตัวมาวิเคราะห์และนำเสนอว่าทุกอย่างมีที่มาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณา ทำเลที่ตั้ง หรือการเคลื่อนไหวต่างๆ ทุกอย่างถูกเชื่อมโยงถึงกัน และยังถูกดีไซน์ให้เป็นไปในทิศทางที่ผ่านการคิดมาแล้วทั้งนั้น
ด้วยความที่เป็นเรื่องที่เข้าถึงคนง่ายแบบนี้ ทำให้ผู้ติดตามไม่รู้สึกถึงความยากสักเท่าไหร่ คือรู้ไว้ก็ดี แม้จะไม่ได้ใช้ประโยชน์โดยตรง อย่างน้อยก็เป็นการเพิ่มความรู้ในอีกส่วนหนึ่งให้สมอง
ก็ส่งผลต่อมาทำให้ยอดการเข้าถึงแต่ละโพสต์ในแฟนเพจเป็นไปอย่างเรียบง่าย อาจไม่ได้สูงมากและค่าเฉลี่ยเท่ากันในทุกโพสต์แต่หากผลงานชิ้นไหนที่ mass ยอดก็พุ่งสูงตามวาระนั้นๆ
นอกจากจะเป็นผู้ให้ความรู้ นักเล่าเรื่องในการตลาดแล้ว…
อีกหนึ่งบทบาทคือการเป็นนักเขียนเจ้าของหนังสือที่ถูกจำหน่ายในร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ ไม่พอเท่านั้นเพราะมีถึง 4 เล่มทีเดียว และทั้งหมดถูกตีพิมพ์มากกว่าหนึ่งครั้งทั้งนั้น
คงพูดได้แล้วว่าการตลาดไม่ใช่เรื่องของคนเฉพาะกลุ่มอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าใครก็เรียนรู้การตลาดได้ เพื่อที่สุดท้ายจะนำส่วนนี้ไปต่อยอดพัฒนากับสิ่งที่จะทำต่อในอนาคต เพราะไม่ว่าเรื่องใดก็ต้องอาศัยการตลาดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนอยู่ดี
การตั้งชื่อว่า การตลาดวันละตอน อาจดูเป็นการตั้งที่เหมือนไม่คิดอะไร แต่แท้ที่จริงคือการปักหลักจุดยืนว่าฉันจะพูดถึงเรื่องการตลาดนะ แต่เป็นการเล่าที่มุมมองต่างออกไป
ทำให้ธีมในการโพสต์มีทั้งบทความยาว คำคมสั้น หรือแม้แต่วิดีโอ เพื่อเพิ่มความหลากรสชาติในการนำเสนอเรื่องราวที่อาจดูทางการแต่ก็ยังแทรกด้วยอะไรที่เข้าถึงง่ายอยู่เสมอ
โทนสีที่ใช้ไม่ได้มีการกำหนดตายตัว แต่ไม่ว่าอินโฟรกราฟิกหรือรูปภาพต่างๆ แม้แต่ภาพหน้าปกของบทความ ก็จะอยู่ในลักษณะของสัญลักษณ์ให้ความรู้สึกที่เรียบง่าย ให้อารมณ์ของมินิมอล น้อยแต่มาก เรียบง่ายแต่ยังคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือ
โลโก้เริ่มมาจากภาพแม่ค้าคนหนึ่งในตลาดสด เพื่อแสดงให้เห็นว่าการตลาดไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่หรูหรา แม้แต่ในตลาดสดก็ต้องอาศัยการตลาดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะตะโกนเรียกลูกค้า ไปจนถึงจัดวางแผงขายสินค้าเป็นต้น
ยิ่งอะไรที่พยายามให้เข้าถึงคนได้ง่าย ก็ต้องยิ่งคิดให้ละเอียดรอบคอบกว่าปกติเป็นเท่าตัว เนื่องจากความรู้สึกเป็นเรื่องละเอียดอ่อนหากทำไปทั้งที่ไม่ตั้งใจ ผลงานก็จะถูกแสดงออกด้วยความไม่เต็มที่เช่นนั้นเหมือนกัน
ด้วยความที่พูดถึงเรื่องการตลาด ผู้ติดตามส่วนใหญ่ก็คงเป็นวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน เวลาที่กลุ่มเป้าหมายว่างก็จะเป็นในช่วงเช้า กลางวัน และเย็นก่อนนอน ทำให้ช่วงเวลาในการโพสต์เพจเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปจนถึง 5 ทุ่มโดยประมาณ
ทีนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าผู้ติดตามจะเห็นโพสต์หรือไม่ ด้วยความยืดหยุ่นก็ส่งผลให้ขยายกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็ว จนมีผู้ติดตามกว่า 1 แสนคนแบบในปัจจุบันนี้ไปแล้ว
ด้านผลงานนอกจากจะมีแฟนเพจที่นำเสนอข้อมูลในโลกการตลาดทุกวัน รวมถึงมีหนังสือจัดจำหน่ายทั่วประเทศ อย่างที่บอกไปว่าเขามักถูกเชิญไปตามเวทีต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการตลาดที่แปลกใหม่ พร้อมกับเหล่าผู้คนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ยิ่งเป็นการทำให้ไม่ว่ากิจกรรมทางการตลาดเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ชื่อของคุณหนุ่ย มักจะเป็นสิ่งแรกที่ใครก็นึกถึง
ทั้งหมดทั้งมวลที่ถูกนำเสนอในแฟนเพจ ไม่ใช่เพียงแค่การขายฝันแต่นี่คือการแบ่งปันความรู้ ความเข้าใจ และมั่นใจได้เลยว่าหากติดตามแฟนเพจนี้มาสักระยะหนึ่ง จะพบว่า…
มุมมองต่อสิ่งรอบข้างได้เปลี่ยนไป ข้อมูลทุกอย่างจะดูสนุกขึ้น เหลือเพียงแค่คุณจะหยิบจับมาใช้ได้มากน้อยเท่าไหร่ ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ความสามารถ แต่มันขึ้นอยู่กับความรู้ที่คุณมีต่างหาก.
…
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: Pexel