คนเราใช้เวลาค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบหรือสิ่งที่ถนัดนานแค่ไหน?
บางคนค้นพบสิ่งที่ตนเองถนัดตั้งแต่การเปิดหนังสือหน้าแรก บางคนเพิ่งจะหาตัวตนของตัวเองเจอก็ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยและได้เข้าชมรมที่ชอบ หรือบางคนที่ผ่านการเรียนรู้มาทั้งชีวิต ผ่านการเปิดหน้าหนังสือเรียนมาเป็นร้อย ๆ เล่มก็ยังหาไม่เจออยู่ดีว่าอะไรที่มันคลิกกับการใช้ชีวิตของตัวเอง
แต่ถ้าไม่เรียนแล้วจะรู้อะไร…
นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงยังดั้นด้นที่จะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าตัวเขาเองจะยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าแท้จริงแล้วต้องการอะไร ความหวังที่จะค้นหาตัวตนของตัวเองเจอจากหนังสือสักเล่มอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าเป็นการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดหมายเพียงเพราะว่าการมีความรู้ไว้บ้างก็ดีกว่าการไม่รู้อะไรเลยแบบนั้นหรือเปล่า?
รู้อะไรไหม…เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณใช้ชีวิตอย่างไม่มีเป้าหมายคนอื่นก็จะจ้างคุณไปทำตามความฝันของเขา
บางครั้งคนเราก็มักจะยึดติดกับคำพูดที่ว่า “เรียนจบมาแล้วต้องทำงานให้ตรงสาย” ซึ่งหากมองให้ลึกแล้วช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะหลายคนก็เรียนจบมาพร้อมกับความสับสนในตัวเองว่า “เรียนจบแล้วจะทำอะไรต่อ” ในเมื่อสิ่งที่เรียนมานั้นช่างไม่ตอบโจทย์เอาเสียเลย แต่ถ้าจะหันไปเอาดีในสายงานอื่นก็ยังติดอยู่ตรงที่ว่าไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือถนัดอะไรเป็นพิเศษ สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ต้องยกความรู้ที่เรียนมาทั้งหมดให้กับการทำงานบนเป้าหมายและแผนสูงสุด….ของคนอื่น
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการค้นหาตัวตนของตัวเองก็ไม่ได้ถูกวาดไว้ว่าจะต้องอยู่ในตำราสักเล่มหรือหนังสักเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับการใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมายเพราะบางครั้งสิ่งที่เคยตามหามาตลอดอาจจะมาพร้อมกับความล้มเหลวหรือจุดผิดพลาดในชีวิตก็ได้
มันมีด้วยเหรอคนที่หาความชอบของตัวเองได้แม้ในช่วงชีวิตที่ตกต่ำ?
ว่ากันว่าโอกาสนั้นลอยอยู่เต็มอากาศ ขึ้นอยู่กับว่าจะมีใครคว้าเอาไว้บ้างก็เท่านั้น เช่นเดียวกับคุณเล็ก…ใครจะรู้ล่ะว่าการที่เขาเอาบ้านเข้าจำนองขายฝากกับแหล่งเงินทุนจะเป็นจุดเริ่มต้นให้รู้จักอาชีพนายหน้าขายฝากจนเกิดความคิดที่จะขึ้นไปอยู่ในจุด ๆ นั้นและวันหนึ่งเขาก็ทำมันได้ด้วยพรแสวงทั้งหมดที่มี และเส้นทางนั้นก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์มือสองที่ได้รับการยอมรับจากทั้งกลุ่มนักลงทุนด้วยกันเองและความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้า ภายใต้การการันตีในชื่อเจ้าของเพจ “อสังหามือสอง”
แน่นอนว่าเมื่อมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แล้วก็ต้องมีคนตั้งคำถามว่า…
ทำได้ยังไง? มีเคล็ดลับอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า? หรือว่าเรียนจบทางด้านการออกแบบมาใช่ไหม?
ซึ่งคำตอบของคำถามที่กล่าวมาข้างต้นคือ…ไม่ใช่เลยสักอย่าง
คุณเล็กมักจะบอกเสมอว่าเขาไม่ใช่คนที่เก่งหรือมีฝีมือมาก่อนเพราะหากอิงจากประสบการณ์การใช้ชีวิตที่คุณเล็กเคยเล่าเอาไว้คือเขาเป็นเด็กเกเรหลังห้องที่หวุดหวิดจะถูกรีไทร์แถมยังจบช้ากว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกันเกือบ 3 ปีเสียด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตก็คืออาชีพของการเป็นนายหน้าที่ไม่ได้อยู่ในหลักสูตรการเรียนรู้เลยตลอดทั้งชีวิตที่เคยผ่านมาและไม่ได้เฉียดเข้าไปใกล้คำว่าความชอบของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว
“ผมทำอสังหาฯ แบบไม่มีความรู้แต่มีความอยากรู้” นี่คือสิ่งที่คุณเล็กได้กล่าวเอาไว้ จนทำให้หลายคนได้ตั้งคำถามขึ้นมาอีกว่า…
อ้าว…ไม่รู้ก็ทำได้เหรอ?
หากลองย้อนกลับไปในตอนเริ่มต้นก็คงตอบได้อย่างชัดเจนว่าการเป็นนายหน้าหรือการทำบ้านมือสองนั้นไม่ใช่ทั้งความชอบและความถนัดของคุณเล็กเลย และที่สำคัญคือความไม่รู้ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในตอนนั้นเสียด้วย แต่แล้วอะไรล่ะที่เป็นตัวผลักดันให้คนคนหนึ่งที่ไม่มีต้นทุนเลยเลือกที่จะก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในกำลังพลของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คำตอบก็คือ…ความตั้งใจและการวางเป้าหมายในแบบของตัวเอง
อยากเป็นนายหน้าขายฝาก
อยากเป็นนักลงทุนบ้านมือสอง
สำหรับการเริ่มต้นในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมีความรู้มาก่อนคงไม่มีใครพูดได้อย่างเต็มปากหรอกว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ชอบหรือน่าสนใจ เพราะในขณะเดียวกันนั้นการเรียนรู้หรือแม้แต่การลองผิดลองถูกจะเป็นตัวบีบบังคับให้ต้องทำทั้งสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ไม่ชอบไปพร้อม ๆ กันอยู่ดี
อาจจะเป็นคนที่ไม่ชอบงานจุกจิกแต่คงเลี่ยงการพบปะกับผู้รับเหมาไม่ได้
อาจจะไม่ชอบเรื่องของตัวเลขแต่เมื่อก้าวเข้ามาทำอสังหาฯ ก็หนีไม่พ้นเรื่องบัญชีและภาษีอีกอยู่ดี
คนเราจะรู้ว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเหมาะกับตัวเองหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีความรู้สึกหรือทัศคติอย่างไรกับงานเหล่านั้นเป็นครั้งแรก แต่เป็นการลงมือทำทั้งแบบที่ถูกใจ แบบที่ขัดใจ อะไรที่ถนัดหรือไม่ถนัดก็คงต้องหยิบมาลองให้หมดแล้วค่อยชั่งใจดูว่าผลลัพธ์ในแบบของตัวเองเป็นที่น่าพึงพอใจมากที่สุดหรือยัง?
ถ้าความรู้สึกบอกว่าใช่…ก็แปลว่ามาถูกทาง
แต่ถ้ายังไม่ใช่ก็แค่ปรับแล้วลองใหม่จนกว่าจะเจอผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในแบบของตัวเอง
ฉะนั้นแล้วการค้นหาเส้นทางที่ใช่อาจจะไม่ได้เริ่มจากสิ่งที่ชอบหรือความถนัดเสมอไป อาจจะเป็นความขัดแย้งในชีวิตที่อยากจะสลัดทิ้งมานานหรือการก้าวเดินเข้าไปในเส้นทางที่ยังไม่เคยมีใครเดินเข้าไป ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะไม่ได้ออกมาในรูปแบบของสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ควรจะเป็น แต่มันจะเป็นตัวคุณในแบบที่เป็นตัวเองมากที่สุดอย่างแน่นอน
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik