คนที่มีที่ดินในมือคงกำลังหาวิธีใช้ประโยชน์กันให้วุ่นหลังจากมีมติจากกระทรวงการคลังที่ออกมาแถลงว่าจะมีการยกเลิกการปรับลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหลังจาก 2 ปีที่ผ่านมาต้องเสียรายได้จากภาษีท้องถิ่นไปกว่า 3 หมื่นล้านบาทเพราะมาตรการปรับลดภาษี 90% เพื่อลดภาระภาษีของประชาชนในช่วงการระบาดของ COVID-19
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคือภาษีที่เรียกเก็บโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มาจากการประกาศใช้กฎหมายพระราชบัญญัติที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นมาแทนภาษีโรงเรือนและบำรุงท้องที่เพื่อปรับโครงสร้างภาษีให้ทันสมัยเนื่องจากการเรียกเก็บภาษีในรูปแบบเดิมมีความซ้ำซ้อนระหว่างภาษีโรงเรือนกับภาษีเงินได้ และการใช้ราคาปานกลางของที่ดินในกรณีของภาษีบำรุงท้องที่
ใครมีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษี คือเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้ที่ถือครองที่ดินและทรัพย์สินนั้นทั้งในรูปแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยจะมีการชำระภาษีในวันที่ 1 ม.ค. ของแต่ละปี หากที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันหลายคนให้แบ่งเฉลี่ยเสียภาษีตามสัดส่วนการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์นั้น
ระวังการเข้าใจผิดระหว่างเจ้าบ้านและเจ้าของกรรมสิทธิ์
เจ้าบ้านคือผู้ที่มีหน้าที่แจ้งเกี่ยวกับกฎหมายทะเบียนราษฎร เช่น การแจ้งเกิดหรือแจ้งตาย การย้ายเข้าทะเบียนบ้านหรือย้ายออกเท่านั้น อาจจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ด้วยหรือไม่ก็ได้ ส่วนเจ้าของกรรมสิทธิ์คือผู้ที่มีสิทธิ์ถือครองทรัพย์สินหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นถูกต้องตามกฎหมาย
ถ้ามีทรัพย์สิน 3 ประเภทนี้ต้องเสียภาษี
- ที่ดิน ในส่วนที่ถือครองทั้งหมดรวมทั้งพื้นที่ที่เป็นภูเขาและแหล่งน้ำ
- สิ่งปลูกสร้าง ประกอบด้วยอาคาร โรงเรือน ตึก หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นที่เข้าอยู่อาศัยหรือใช้สอยได้
- ห้องชุด ประเภทคอนโดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
การคำนวณภาษีต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง
สำหรับการคำนวณภาษีนี้จำเป็นต้องใช้ข้อมูล 3 ส่วน คือ ราคาประเมินทุนทรัพย์ มูลค่ายกเว้น และอัตราภาษี โดยใช้สูตรในการคำนวณดังนี้
(ราคาประเมินทุน – มูลค่ายกเว้น) X อัตราภาษี = ภาษี
ในส่วนมูลค่ายกเว้นให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและอัตราภาษีจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่ดับการใช้สอยประโยชน์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวด้วย โดยกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดประเภทของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้ทั้งหมด 4 ประเภท คือ เกษตร (อัตราภาษี 0.15%) ที่อยู่อาศัย (อัตราภาษี 0.30%) อื่น ๆ (อัตราภาษี 1.2%) รกร้าง (อัตราภาษี 1.2%)
การใช้ประโยชน์จากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิจารณาจากอะไรบ้าง
- การใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรม คือ การใช้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างเพื่อการเกษตรโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริโภค จำหน่าย หรือทำฟาร์ม ซึ่งการใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรมจะไม่รวมการประมงและทอผ้าเข้าไปด้วย
- การใช้ประโยชน์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย คือ ใช้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยรวมถึงการเปิดให้เช่าหรือเป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ด้วย ยกเว้นการประกอบกิจการอย่างชัดเจนอย่าง โรงแรม ธุรกิจจัดสรรที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่รอการขายของธนาคาร หากการใช้ประโยชน์เป็นที่พักอาศัยทับซ้อนกับการใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรให้ถือว่าเป็นการใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม ซึ่งหมายความว่าการใช้ประโยชน์ในรูปแบบนี้จะได้เสียภาษีในอัตราที่ลดลง
- การไม่ใช่ประโยชน์ (รกร้าง) คือ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ถูกทิ้งให้ว่างเปล่าโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์
- การใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่น ๆ คือ การใช้ประโยชน์นอกเหนือจากด้านเกษตรกรรม เป็นที่อยู่อาศัย และไม่ได้ถูกทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า ซึ่งก็คือการใช้ในเชิงพาณิชย์และประกอบธุรกิจนั่นเอง
เจ้าของทรัพย์สินจะได้รับการดูแลผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีนี้อย่างไรบ้าง
- ยกเว้น
สำหรับที่ดินบางประเภท คือ ทรัพย์สินของรัฐ ทรัพย์สินของเอกชนที่ใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ พื้นที่ส่วนกลลางของนิติบุคคลอาคารชุด และกรณีบุคคลธรรมดาใช้ที่ดินทำเกษตรกรรมและใช้เป็นที่อยู่อาศัย
- ลดหย่อน
ลดจำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระให้ 90% สำหรับที่ดินโครงการบ้านจัดสรร-คอนโดที่ได้รับการอนุญาตไม่เกิน 3 ปีนับจากวันที่ได้รับอนุมัติให้ก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่รอการขายของธนาคารที่ได้รับมาไม่เกิน 5 ปี รวมถึงที่ดินของสถาบันการศึกษาและสิ่งปลูกสร้างเพื่อใช้ประโยชน์อื่น ๆ
ลดจำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระให้ 50% สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับมาเป็นมรดกและจดทะเบียนทรัพย์สินแล้วก่อนวันที่ 13 มีนาคม 2562
- ผ่อนปรน
กรณีนี้จะมีผลใน 3 ปีแรกของการจัดเก็บภาษีเท่านั้น โดยผู้เสียภาษีจะได้รับการผ่อนปรนก็ต่อเมื่อคำนวณภาษีออกมาได้อัตราสูงกว่าภาษีโรงเรือนหรือบำรุงท้องที่ที่เคยเสียไว้ก่อนหน้านี้
- ลดหรือยกเว้น (ด้วยอำนาจผู้บริหารท้องถิ่น)
กรณีการลดหรือยกเว้นนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการประจำจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในกรณีฉุกเฉิน เช่น ภัยพิบัติในพื้นที่หรือทรัพย์สินเสียหายและถูกทำลายเท่านั้น
ในปี 2563 และ 2564 ที่ผ่านมาได้มีการปรับลดภาษีให้ถึง 90% จากยอดภาษีที่ต้องจ่ายจริงซึ่งเป็นการลดภาระในเรื่องของการจ่ายภาษีของเจ้าของที่ดิน แต่ในปี 2565 กระทรวงการคลังได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะไม่มีการปรับลดภาษี 90% อีก ดังนั้นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างจะต้องชำระภาษี 100% ตามจำนวนที่คำนวณได้นั่นเอง
อ้างอิง:
สรุป ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2565 ใครต้องจ่ายเท่าไหร่ จาก https://workpointtoday.com/property-tax-2/
พิษโอมิครอนรัฐเก็บภาษีที่ดิน 100% “แลนด์ลอร์ด-เจ้าสัว” แห่ปลูกมะม่วง-มะนาว จาก https://www.prachachat.net/property/news-847606
ภาษีที่ดิน ป่วน! สภาหอการค้า กระทุ้งคลังลด 90% ปี 65 ชาวบ้านอ่วมหนักพิษโควิด จาก https://www.thansettakij.com/property/509500
อัพเดท ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2565: สรุปทุกอย่างที่ต้องรู้ จาก taxbugnoms.co
หมายเหตุ: เป็นการเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik