10 สิ่งที่คนรวยคิดต่างกับคนจน
บทความนี้ผมแปลมาทั้งดุ้น แต่ส่วนที่กวนโอ๊ย รู้ใช่ไหม ใครเติม
“ผมเคยรวยและเคยกลับมาจน ดังนั้นผมรู้มุมมองของทั้งสองด้านทั้งดีและระดับขี้แตกมาก่อน” เศรษฐีอเมริกา – Daniel Ally กล่าว
Daniel Ally เป็นวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในด้านธุรกิจระหว่างประเทศและผู้เขียนหนังสือขายดีระดับท็อปเท็นในสหรัฐอเมริกา เขาเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน Ally บอกกับตัวเองว่าต้องรวยให้ได้โว้ย
ในวัย 24 เขาทําเงินล้านดอลลาร์สหรัฐแรก วันนี้เขามาแชร์มุมมองของเขาเกี่ยวกับเกี่ยวกับว่าทำไมคนรวย รวย และคนจน จนไม่เลิก
ความมั่งคั่งเป็นตัวเลือกหนึ่ง Bill Gates เคยพูดว่า “เกิดมาจนไม่ใช่ความผิดของคุณ” แต่การตายและตายอย่างยากจนแม่มเป็นความผิดจริง ๆ
“ไม่มีเหตุผลใดที่คุณต้องจน ความมั่งคั่งข้างนอกนั้นกําลังรอคุณอยู่ แต่คุณจะต้องเป็นคนที่ตัดสินใจว่าจะอยากให้มันเกิดขึ้นในชีวิตหรือไม่” แดเนี่ยลพูด
เป็นเวลานานมาก ที่ผมดิ้นรนเพื่อความเชื่อว่าผมสามารถรวยได้ และมันจะเป็นจริงก็ต่อเมื่อผมตระหนักถึงความแตกต่างในความคิดและการกระทําของคนรวยและคนจน
นี่คือหัวข้อที่แดเนี่ยลสรุปไว้ครับ
1. คนจนมักสงสัย
มีเพื่อนร่วมงานเคยบอกว่า “คนพวกนั้นเพิ่งโกงเงินของเขาเมื่อเขาไม่สังเกต” เขาคิดว่าทุกคนต้องการเงินของเขาและสำหรับกับุคคลภายนอกทุกคน มันคือการต่อสู้ มันคือการตักเมื่อน้ำขึ้น
คนรวยมีความเชื่อเสมอ
ค่อนข้างแปลกใจที่คนรวยหลายคนเปิดประตูรถและประตูใจกับคนที่เขาคบ พวกเขามีแนวโน้มที่จะเชื่อใจคนที่พวกเขาพบเจอ (แน่นอนว่ามีเหตุผล) และให้โอกาสคนอื่นได้เป็นตัวของตัวเอง
2. คนจนค้นพบความผิดพลาดของคนอื่น
คนจนมักจะหาข้อผิดพลาดแทนวิธีแก้ปัญหา และกระบวนการนี้จะจบลงด้วยการที่พวกเขาโทษสิ่งแวดล้อม โทษสถานการณ์การทํางาน โทษสภาพอากาศ โทษรัฐบาล โทษแม่มทุกอย่าง และจะมีข้ออ้างเสมอว่าทําไมไม่ประสบความสําเร็จ
คนรวยมองหาความสําเร็จ
คนรวยเข้าใจว่าทุกอย่างมีเหตุผล พวกเขาจะไม่รอให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่จะเสนอตัวรับบทบาทที่ออกนําในการแก้ปัญหาด้วยการสร้างโปรเจคท์มันขึ้นมา พวกเขาจะใส่ข้ออ้างทั้งหมดไปไว้ในถังขยะ เพราะเขาต้องทําสิ่งที่สําคัญกว่า
3. คนจนมักจะสมมติเสมอ
ตัวอย่างเช่นหากต้องการเข้าถึงคนมีชื่อเสียงพวกเขาจะพูดว่า “พวกเขาไม่มีเวลาคุยกับฉันหรอก” นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ได้พยายามที่จะดูว่าฉันทําได้หรือไม่ ..
คนรวยจะตั้งคําถาม
พวกเขาจะนึกถึงสถานการณ์เช่น “แล้วถ้าฉันเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีแล้วเขาจะตอบว่าอย่างไรนะ?” เมื่อเริ่มถามพวกเขา คุณก็จะได้คำตอบที่สามารถช่วยสร้างความแตกต่าง ที่ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย – ความเข้มแข็งอยู่ในมือของผู้ที่รู้จักถามอย่างถูกต้อง คือคำที่ปราชญ์กล่าวไว้
4. คนจนพูดว่า “พวกเขา”
ในห้างสรรพสินค้าผู้หญิงที่แคชเชียร์พูดว่า ′′ พวกเขาไม่เคยมีพนักงานมากพอ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาผิดอะไร “. เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เอาตัวเองไปอยู่ในตําแหน่งที่เป็นเจ้าของงานและรับผิดชอบต่อมัน เธอแยกตัวออกจากงาน ทำงานไม่คุ้มกับบริษัทที่กําลังจ่ายเงินให้เธอ
คนรวยพูดว่า “เรา”
ที่ร้านอาหารโปรดที่ผมไปประจำ หนึ่งในพนักงานเสิร์ฟต้อนรับและแนะนําว่า : “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่คุณมา เราอบอุ่นมากค่ะ” ความภูมิใจ ที่เขาทักทายเหมือนกัว่าเราเป็นคนสำคัญของเขาทําให้ผมประทับใจมาก ๆ แน่ละ ความซึ้งใจจะนำมาซึ่งทิปค่อนข้างดี และแน่นอนว่าคุณจะรวยขึ้นหากคุณลงทุนกับสิ่งที่คุณเชื่อ เชื่อในคำว่าเรา
5. คนจนชอบของราคาถูกที่สุด
ผมเคยไปซื้อของกับเพื่อนที่ซื้อเฉพาะตอนเห็นของถูกที่สุด พวกเขาจะเร่งไปยังสถานที่ที่กําลังจัดโปรโมชันและตะกุยเลือกของที่ไม่ต้องการ พวกเขาซื้อเพียงเพราะมันถูก ท้ายที่สุดมันจะกลายเป็นสมบัติบ้า ที่น่าถามว่าพวกเขาซื้อมันทำไม (วะ)
คนรวยชอบสิ่งที่ดีที่สุด
คนรวยพร้อมจะไปไกลกว่านี้อีกนิด เสาะหาอีกหน่อย เพื่อหาของที่มีคุณภาพสูง พวกเขาไม่ได้ผูกมัดตัวเองไว้กับราคา คนรวยรักการบริการที่มีระเบียบและไม่มีวันสนใจกับสิ่งที่ไร้ค่าหรือใช้ไม่ได้
6. คนจนคิดว่าเงินสําคัญกว่าเวลา
ผู้คนนับล้านทั่วโลกกําลังแลกเวลาอันมีค่าของพวกเขาเพื่อรับเงิน คุณสามารถรับเงิน $500 กลับมาได้เสมอ แต่ไม่สามารถเอา 50 ชั่วโมงกลับมาได้
คนรวยรู้เวลาสําคัญกว่าเงิน
คนรวยไม่เคยเปลี่ยนเวลาเป็นเงิน พวกเขาจะแสวงหาประสบการณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาให้ได้ยืนอย่างแข็งแกร่ง อาชีพของพวกเขาให้ความสําคัญกับการทําสิ่งที่คุณรักและช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่าจะขยันหาเงิน
7. คนจนแข่งขันกัน
เมื่อคนจนเห็นโอกาสเขาจะค้นหาว่าคนอื่นทําอย่างไรและแข่งกับเขา บ่อยครั้งที่เขาจะไม่พิจารณาวิธีอื่น ๆ ที่จะทํามันใด้ดี สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาคือเลียนแบบ
คนรวยที่สร้างสรรค์
เพื่อนบ้านที่รวยโคตรผิดหวังมากที่เห็น Porsche ไม่มีสีเขียวแบบที่เขาต้องการ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะสร้างบริษัทใหม่ สร้างรถในแบบที่ยังไม่มีให้กับตัวเองด้วยรายละเอียดทางเทคนิคที่ไม่เคยมีมาก่อน แน่ละ เขาสร้างธุรกิจใหม่จากความต้องการของตลาด และตอบสนองช่องว่างทางการตลาด
8. คนจนบ่น บ่น บ่นและวิจารณ์ปัจจัยภายนอก
คนจนส่วนใหญ่มีความคิดที่ทำให้ยากจนทาง สมาชิกในครอบครัวของพวกเขาได้หว่านเมล็ดพันธ์ในหัวของพวกเขาว่าทุกอย่างผิดและไม่มีอะไรถูก
คนรวยรู้จักสรรเสริญและสนุก
คนรวยรู้ว่าพวกเขามีสิทธิพิเศษมากมาย เพราะพวกเขารู้ว่าจะชื่นชมสิ่งที่มีอยู่ และพวกเขามีโอกาสที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆได้มากกว่ามากกว่าที่เป็นอยู่
9. คนจนหาคําแนะนําจากมือสมัครเล่น
พวกเขามักจะฟังความคิดเห็นของคนที่เขารู้จัก เขาจะเชื่อในทุกสิ่งที่ได้ยินโดยไมคิดว่าเฮ้ย มันเป็นข้อเท็จจริงหรือเปล่า มันมีการทดสอบหรือพิสูจน์หรือยัง พวกเขามองว่าความคิดเห็นส่วนตัวเป็นความจริงและหยุดศึกษา หยุดค้นคว้าเมื่อพคงใจกับคําตอบที่ได้รับ
คนรวยมองหาคําแนะนําจากผู้เชี่ยวชาญ
คนรวยเรียนรู้วิธีคิดเองเสมอ ถ้าไม่สามารถคิดแก้ปัญหาได้พวกเขาจะไปหาผู้เชี่ยวชาญ โดยปกติแล้วพวกเขาจะต้องจ่ายค่าจ้างและมีตัวเลือกให้เลือกพอสมควร อย่างคนฉลาดเลือก
10. คนจนมีทีวีจอใหญ่ คนรวยมีห้องสมุดห้องใหญ่
จริงอย่างที่ Jim Rohn เคยพูดไว้คนจนใช้เวลาว่างเพื่อไม่ให้คิดและหาสิ่งที่เรียกว่า “ความบันเทิง” มาลดความเครียด ในขณะเดียวกันคนรวยก็ใส่ใจการศึกษาและอ่านหนังสือมากมายมหาศาล .. พวกเขาใช้ความรู้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง แทนที่จะเข้าร่วมกิจกรรม อย่างเช่น เข้าผับหรือเมาหัวราน้ำ พวกเขาต้องการเรียนรู้ เขาจึงรู้จักอยู่ในที่ควรอยู่
อ่านมาก หนังสือมาก พัฒนาตัวเองมาก รวยทุกคน
บทความโดย: วิชาอาแปะ สอนรวย
ครูพี่ม้อค ธวัชชัย พืชผล
สำนักพิมพ์ 7D Book & Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels