ทุกวันนี้มีผู้คนมากมายหันมาให้ความสนใจกับการหารายได้ด้วยการทำธุรกิจส่วนตัวอย่างการขายของกันมากขึ้น ยิ่งสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบันเดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องก็ยิ่งไปกระตุ้นระบบการซื้อขายผ่านออนไลน์ให้พัฒนาไปได้ไกลมากขึ้นด้วย ก็เลยยิ่งเป็นการกระตุ้นให้คนหันมาขายของออนไลน์กันมากขึ้นเพราะด้วยความสะดวกและง่าย ไม่มีต้องหมดเงินลงทุนไปกับค่าเช่าที่ตั้ง ออกแบบดีไซน์ร้าน รวมไปถึงลงทุนสั่งสินค้าที่จะขายมาตุนสต็อกที่ไม่รู้จะขายได้มากน้อยแค่ไหน เผลอๆ สินค้าบางอย่างมีข้อจำกัดในเรื่องอายุการใช้งาน นั่นอาจทำให้การขายของของคุณไม่ได้กำไรแถมยังขาดทุนอีก
ไม่ว่าจะเป็นยุคนี้หรือช่วงเวลาที่ผ่านมา ในวงการการซื้อขายของออนไลน์ของหลายๆ คนถ้าไม่ใช้วิธีการสต็อกสินค้าไว้ก็อาจจะใช้กลยุทธ์กันไว้ดีกว่าแก้ด้วยการขายสินค้าแบบพรีออเดอร์ ก็คือให้ลูกค้าสั่งสินค้ามาก่อนแล้วร้านค้าค่อยสั่งทำหรือสั่งซื้อสินค้าจากต้นทางมาส่งขายต่ออีกที ก็นับว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดแถมยังใช้ได้มาถึงทุกวันนี้ และเพราะความสะดวกสบายแบบนี้ก็มีส่วนทำให้หลายคนตัดสินใจผันตัวมาเป็นเหล่านักขายออนไลน์กันจ้าละหวั่น
แน่นอนว่าการที่พ่อค้าแม่ขายล้นตลาดขนาดนี้ก็จะต้องมีสินค้าที่ซ้ำซากจำเจเป็นเรื่องปกติ ร้านนั้นก็ขาย ร้านนี้ก็มี ซึ่งนั่นไม่ใช่เพียงแต่จะสร้างปัญหาให้กับเหล่านักช็อปที่ไม่รู้จะเลือกซื้อสินค้าจากร้านไหนดี แต่นี่ก็ถือเป็นปัญหาระดับชาติของเหล่านักขายด้วยเหมือนกัน
ทางฝั่งนักขายทั้งหลายอาจจะต้องรู้สึกปวดหัวจนนั่งกุมขมับ เมื่อสินค้าที่คุณขายดันมีมากมายอยู่ในตลาด ไม่ว่าจะโปรโมตยังไง จัดแคมเปญลดแลกแจกแถมมากแค่ไหน แต่ในบางครั้งกลยุทธ์ที่ว่าก็ยังใช้ไม่ได้ผลอยู่ดีเพราะปัญหาหลักๆ ที่มาจากความซ้ำซากของสินค้าในตลาดก็จริง แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากตัวของเหล่านักขายเองด้วย
บทความนี้จะพาเหล่านักขายไปรู้จักกับการสร้างตัวตนให้แบรนด์ของคุณที่แม้ว่าจะเป็นสินค้าที่มีอยู่เกลื่อนตลาดก็ตาม แต่คุณสามารถทำให้มันโดดเด่นจนเป็นที่หมายตาของเหล่านักช็อปมากกว่าร้านอื่นๆ ได้ แถมยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และตัวคุณเองได้ด้วยการทำ OEM
“OEM” หรือ Original Equipment Manufacturer คือการที่โรงงานผลิตสินค้าประเภทใดประเภทอยู่แล้ว จะรับผลิตสินค้าประเภทนั้นพร้อมกับติดแบรนด์ใส่สินค้าให้คุณด้วย เช่นว่าคุณต้องการขายกระบอกน้ำดื่มแบบพกพา เป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการของเหล่านักช็อปในปัจจุบันอย่างมาก ดังนั้นจึงมีสินค้าประเภทขายอยู่เต็มตลาดไปหมดและยังมีรูปแบบเหมือนหรือคล้ายกันอีกด้วย ซึ่งถ้าจะขายคุณก็จะต้องใช้กลยุทธ์บางอย่างเพื่อเพิ่มความโดดเด่นของสินค้าและกระตุ้นยอดขายของคุณแบรนด์คุณให้ดีกว่าร้านอื่น
คุณจะต้องหาโรงงานที่รับผลิตกระบอกน้ำที่สามารถทำ OEM ให้คุณได้ด้วย นั่นคือติดแบรนด์ของคุณลงไปบนตัวสินค้าให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น แน่นอนว่าตรงนี้ต้องอาศัยสกิลทางด้านการตลาดบวกกับความครีเอทในตัวคุณเอง คุณจะต้องศึกษาให้รู้ว่า ณ ตอนนั้นตลาดกำลังสนใจ Content แบบไหน Mood&Tone ประมาณไหน แล้วเอาข้อมูลตรงนั้นมาปรับใช้และสร้างแบรนด์ สมมติว่าสินค้าในร้านของคุณต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นวัยทำงาน คุณก็ต้องหา Mood&Tone ที่เข้ากันหรือเทรนด์ที่กำลังมาให้เข้ากับกลุ่มลูกค้า ที่อาจจะออกมาในรูปแบบโลโก โทนสีต่างๆ
เมื่อออกแบบมาได้แล้ว คุณก็สั่งทำกระบอกน้ำที่ติดโลโก้ตราแบรนด์คุณ เป็นการทำให้กระบอกน้ำธรรมดาที่แม้ว่าจะมีรูปแบบซ้ำๆ ในตลาด แต่ของคุณจะโดดเด่นขึ้นมาเพราะอีกเหตุผลของการทำ OEM คือมันสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นกับแบรนด์ของคุณได้ มันจะดูมีเอกลักษณ์และมีความเป็นทางการมากขึ้น ดูน่ารักบ้าง หรูหราบ้าง ดูเก๋มีสไตล์บ้าง ขึ้นอยู่กับการคิดออกแบบของคุณ แถมคุณยังสามารถอัปราคาสินค้าให้มีราคาสูงขึ้นได้ด้วย
แต่การทำ OEM ก็ต้องมาพร้อมกับการลงทุนเพิ่มเติมด้วย จากปกติที่คุณสั่งผลิตกระบอกน้ำ 100 ใบต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 100 บาท/ใบ แต่ถ้าทำ OEM คุณอาจจะต้องจ่ายเพิ่มเป็น 150 บาท/ใบ แน่นอนว่าเมื่อลงทุนเพิ่มก็ต้องมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา แต่เชื่อสิว่าความแตกต่างตรงนี้จะทำให้สินค้าของคุณเป็นที่สนใจมากกว่าร้านอื่นๆ ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณด้วย คุณจะต้องเริ่มต้นลงทุนด้วยการความจริงใจอย่างการหาโรงงานผลิตสินค้าที่ใช้วัสดุในการผลิตที่ดีมีคุณภาพ เลือกโรงงานที่มีมาตรฐานในการผลิตระดับสากล เป็นที่ยอมรับหรือรู้จักก็จะเป็นผลดีกับแบรนด์คุณเอง ซึ่งตรงนี้แหละจะเป็นจุดวัดระดับความน่าเชื่อถือให้ต่อตัวคุณเองและต่อแบรนด์ของคุณด้วย
หมายเหตุ: เป็นการเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ฐานิต
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: freepik