ถ้าคุณไม่สามารถออกไปข้างนอกได้จะทำอย่างไร
คำถามที่พบบ่อยที่สุดในช่วงนี้คือ “ถ้าคุณไม่สามารถออกไปข้างนอกได้จะทำอย่างไร”
“ก็เข้าไปอยู่ ไปทำความรู้จักกับโลก กับความคิดด้านในของตัวเอง” – ผมคิดจะตอบแบบนี้แต่ก็เงียบไว้ เพราะยังไง ๆ การออกไปข้างนอกมันง่ายกว่าเยอะ
ผมกลับจากพะงันเข้ากรุงเทพฯ ก่อนวันที่เขาประกาศให้ผู้ที่กลับจากสุราษฎร์ธานีต้องกักตัว
ต่อให้เขาไม่ประกาศ ผมก็กัก หนึ่งคือรับผิดชอบ สองก็คือลูก ๆ บังคับ
ทั้งหมดนั้นกลับเป็นผลดีที่ได้อยู่บ้าน
บ้านผมไม่ใหญ่นัก ก็รื้อของ ทำความสะอาดทีละมุม ๆ ตั้งแต่สวนหินเล็ก ๆ จนเข้ามาถึงแต่ละห้องในบ้าน
ผมยังมีเครื่องเล่นดีวีดี ยังมีทีวี และลำโพง มันยังใช้ได้
ผมเป็นพ่อที่สอนลูกผ่านหนังสือ ผ่านเพลง ผ่านหนังที่ผมเลือก
ผมมีซีรี่ส์หนังที่เน้นเรื่องความสัมพันธ์ ซีรีส์การ์ตูนดิสนี่ย์ที่แฝงคุณธรรม ซีรีส์หนังแนวธุรกิจ และซีรีส์หนังแนว “จิตวิญญาณผู้กล้า”
ช่วงปลาย ๆ ของยุคซามูไร ญี่ปุ่นเริ่มอ่อนแอจากภัยคุกคามจากชาติตะวันตก การเมืองภายในยุ่งเหยิง คนดีต้องออกจากระบบ ขณะที่ผู้มุ่งหวังในอำนาจก็พยายามที่จะครอบงำจักรพรรดิ์ผู้ซึ่งยังเยาว์
คนที่ถูกบีบจนต้องออกจากระบบ ต้องหนีไปอยู่ในชนบท แต่ความที่เป็นคนดีมีคุณธรรมจึงมีคนตามไปอยู่ด้วยจำนวนมาก ท้ายที่สุดก็ถูกขุนนางใส่ความว่ากำลังซ่องสุมกำลังเพื่อก่อการกบฏ
Nathan (ทอม ครูซ) เป็นนายทหารที่มาจากอเมริกา ถูกส่งมาพร้อมอาวุธปืนสมัยใหม่เพื่อช่วยญี่ปุ่นปราบกบฏ
คราวที่ปะทะกัน เขาถูกจับ ถูกพาไปขังไว้ในชุมชนที่ถูกเรียกว่า กบฏ
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ Katsumoto (ที่เคยเป็นครูของจักรพรรดิที่ถูกขับออกมา)
รวมถึงกับครอบครัวในชุมชนเริ่มดีขึ้น เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความปรารถนาดีที่มีต่อชาติบ้านเมือง
ใจใช่ สัมผัสกันถึง ความซาบซึ้งในคุณธรรมน้ำมิตรจึงบังเกิด
Nathan จึงร่วมรบ และเคียงข้างกับพวกพ้องที่ฝ่ายผู้มีอำนาจเรียกว่า “กบฏ”
ฝ่ายผู้มีอำนาจพ่ายแพ้ครั้งเล่า ขณะที่ฝ่ายกบฏแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน
ฝ่ายผู้มีอำนาจจึงขออาวุธปืนสมัยใหม่จำนวนมหาศาลจากชาติตะวันตก (แน่นอนว่า ต้องแลกกับหลายสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการ)
เมื่อกองทัพฝ่ายราชวงศ์ได้รับการติดตั้งอาวุธใหม่ บวกกับกำลังพลนับแสน จึงมีความพร้อมที่จะบดขยี้ฝ่ายกบฏให้สูญพันธุ์ในคราวเดียว
นั่นคือสมรภูมิใหญ่ใน The Last Samurai
หลังจากวางแผน ประชุมกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อสู้ Katsumoto (ซามูไรคนสุดท้าย) หันมามอง
ทั้งคู่จึงเดินไปที่มุมสูง ที่สามารถมองเห็นกองทัพฝ่ายตรงข้ามขนาดมหึมาอยู่ลิบ ๆ
Nathan เล่าเรื่องราวของนักรบ 300 คนใน Spartan ใน Thermopylae ให้ Katsumoto ฟัง
ทําไม Nathan ถึงเล่าเรื่องนั้นให้ Katsumoto ฟัง? เพราะสถานการณ์ของพวกเขาในตอนนั้นไม่ต่างอะไรกับคราวที่กองทัพของราชา Leonidas ยกไพร่พลชาวเปอร์เซียนับแสนเพื่อมาบดขยี้นักรบชาวสปาร์ตันที่มีเพียง 300 คน
นักสู้ผู้มีเพียงดาบคู่กาย แต่มันกลับเป็นอาวุธที่ทรงพลังมากที่สุด เมื่อดาบนั้นอยู่ในมือผู้หวงแหนเผ่าพันธุ์ของตนเอง
สามร้อยคนที่มีเพียงดาบ ต่อสู้กับกองกำลังนับแสน
ถ้าคิดในฐานะนักยุทธศาสตร์คือ “หนี”
แต่คนที่มีศักดิ์ศรี คิดอย่างเดียวคือสู้ จิตวิญญาณของพวกเขาคือตายอย่างมีคุณค่า ดีกว่าอยู่อย่างไร้ค่าไร้ศักดิ์ศรี
Katsumoto ถาม Nathan ว่า:
“เกิดอะไรขึ้นกับนักรบใน Thermopylae?”
“ตายเรียบ”

Photo: David James Copyright: © Warner Bros. Pictures 2003.
ฉากการต่อสู้ใน The Last Samurai ฉากนี้ แมสเสจสำคัญคือ นักรบของกองทัพจากราชวงศ์ (ที่ถูกครอบงำ) ต่างพากันคุกเข่าคารวะ Katsumoto ขณะที่เขาตะเกียกตะกายจากพื้น ชันเข่าเพื่อนั่ง แล้วใช้ดาบนั้น คว้านท้องตนเอง
ก่อนตายเขาขอให้ Nathan มอบดาบของเขาให้กับ จักรพรรดิ (ผู้เคยเป็นลูกศิษย์) เขาหวังว่าการกระทํานั้นช่วยให้จักรพรรดิพระองค์นี้ตื่นตัวและตัดสินใจที่จะรักษาประเพณีซามูไรอันยาวนานให้กับญี่ปุ่น
ความตายล้วนเกิดขึ้นจริง
แต่เราจะตายแบบไหน
ศัตรูแข็งแกร่ง คู่แข่งแข็งแกร่งกว่ามากและเราจะต้องล้มลงอย่างแน่นอน
แต่อย่าลืมว่า
การล้มลงแบบไหนที่สามารถส่งผลกระทบต่อโชคชะตาในภายหลัง
เล่าเรื่องนี้เพียงเพื่อจะบอกว่า
อย่าให้ความกลัวของคุณที่มีต่อโรคระบาด มาบดบังแสงสว่างภายในตัวคุณเอง
บทความโดย: วิชาอาแปะ สอนรวย
ครูพี่ม้อค ธวัชชัย พืชผล
สำนักพิมพ์ 7D Book & Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels