ในสังคมสมัยใหม่ นอกจากความฉลาดแล้ว ทักษะชีวิตเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จ และที่ชาวยิวเป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก ฉลาดที่สุดในโลก ร่ำรวยที่สุดในโลกได้ ก็เพราะว่าพวกเขารู้ทักษะชีวิตนี้มากว่า 3,000 ปีแล้ว
ทักษะชีวิตของชาวยิวมีอะไรบ้าง เราไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลย

Thomas Edison (www.thoughtco.com)
1. ความคิดของเอดิสัน: ความล้มเหลวคือต้นกำเนิดของความสำเร็จ
โธมัส เอดิสัน (Thomas Edison) นักประดิษฐ์ชื่อดังระดับโลก เขามีความคิดที่ว่าการทดลองที่ล้มเหลวแต่ละครั้งเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างหนึ่ง เพราะอย่างน้อยเขาก็พิสูจน์ได้ว่าวัสดุหรือวิธีการทดลองนั้นเป็นไปไม่ได้
ดังนั้นการประดิษฐ์ไส้หลอดไฟของเขาต้องผ่านการทดลองมามากกว่า 6,000 ครั้งจึงจะประสบความสำเร็จ ชาวยิวที่เริ่มต้นจากศูนย์มักจะเข้มแข็งอยู่เสมอและมีเจตนารมณ์อันแรงกล้า ไม่ว่าพวกเขาจะพบกับความพ่ายแพ้กี่ครั้ง พวกเขาจะก็คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ที่สำคัญต่อการประสบความสำเร็จของพวกเขา

ภาพถ่ายโดย August de Richelieu จาก Pexels
2. The Matthew Effects: ต้องเป็นผู้นำให้ได้
คนแรกที่นำแนวคิดนี้มาใช้คือ โรเบิร์ต เค. เมอร์ตัน (Robert K. Merton) นักสังคมศาสตร์ชาวอเมริกัน แนวคิดนี้กล่าวว่า ถ้าคุณต้องการเป็นผู้นำในด้านใดด้านหนึ่ง คุณจะต้องเป็นผู้นำในด้านนั้นให้เร็วที่สุด เมื่อคุณเป็นผู้นำแล้ว คุณก็จะได้ผลประโยชน์มากกว่าคนที่ด้อยกว่าคุณ
ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เมื่อชาวยิวได้เปรียบในด้านใดด้านหนึ่ง พวกเขาจะรีบฝ่าฟันอุปสรรคไปอย่างเข้มแข็งทันที เมื่อคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งปรากฏตัว พวกเขาจะพยายามมองหาลู่ทางอื่น ๆ และค้นหาว่าจุดอ่อนของคู่ต่อสู้คืออะไรและจุดแข็งของพวกเขาเองคืออะไร
3. มีดโกนของออคคัม (Occam’s razor Law): ง่ายเข้าไว้
กฎมีดโกนของออคคัม กล่าวไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างควร “เรียบง่ายที่สุด”
ชาวยิวต้องการอะไรที่เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกเขาจะพยายามเข้าใจด้วยวิธีพื้นฐานที่สุด จัดการกับสิ่งที่เป็นสาระสำคัญ ไม่ชอบที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ ซับซ้อน เพราะจะทำให้พวกเขาจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ

ภาพถ่ายโดย Pixabay จาก Pexels
4. กฎนาฬิกา (Law of Clocks): คนคนเดียวไม่สามารถมีหัวหน้าสองคนได้
นาฬิกาสามารถบอกเวลาได้ก็จริง แต่การใช้นาฬิกาสองเรือนพร้อมกันไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนได้
การทำงานในองค์กร ชาวยิวเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีหัวหน้าสองคนในเวลาเดียวกัน หรือตั้งเป้าหมายที่แตกต่างกันสองอย่างในเวลาเดียวกัน
คนคนเดียวไม่สามารถปล่อยให้คนสองคนเป็นผู้นำในเวลาเดียวกันได้ และแต่ละคนก็ไม่สามารถมีความคิดสองอย่างในเวลาเดียวกันได้เช่นกัน

ภาพถ่ายโดย fauxels จาก Pexels
5. กฎของถังไม้ (Law of Wooden Crates): ไม้ที่สั้นที่สุดจะเป็นตัวกำหนดปริมาณน้ำในถังไม้
ทุกธุรกิจย่อมมีจุดอ่อน ถ้าบุคคลากรในองค์กรว่างงานเป็นจำนวนมาก จะทำให้เกิดช่องโหว่ทางธุรกิจ เกิดความสิ้นเปลือง และไม่ส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ
6. กฎของไวน์และน้ำสกปรก: กำจัดองค์ประกอบเชิงลบทันที
ไวน์แก้วหนึ่งสกปรกได้เพราะน้ำสกปรกเพียงหยดเดียว แต่น้ำสะอาดเพียงหยดเดียวกลับไม่สามารถทำให้ไวน์แก้วหนึ่งสะอาดขึ้นมาได้ ชาวยิวจะไม่ยอมให้มีผู้มาทำลายธุรกิจของพวกเขา พวกเขาจะจัดการกับคนเหล่านี้ทันที

ภาพถ่ายโดย Daniel Reche จาก Pexels
7. Horsefly Effects: ไม่ว่าม้าขี้เกียจแค่ไหน แค่ถูกแมลงวันตอม ม้าก็จะรีบวิ่งทันที
ม้าที่ถูกแมลงวันตอมสามารถวิ่งได้เร็วกว่าไม่ว่าจะขี้เกียจแค่ไหนก็ตาม มนุษย์เราก็เช่นกัน
ในการทำธุรกิจ ชาวยิวเชื่อว่าเมื่อมีคู่แข่งไล่ตามพวกเขา พวกเขาจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาดและรู้ว่าจะต้องสู้อย่างไร ดังนั้น เราควรจะขอบคุณคู่แข่งของเรา เพราะพวกเขาเป็นแรงผลักดันให้เรามีความกระตือรือร้นและก้าวไปข้างหน้า
8. แนวคิดของฟลอเรนซ์: เป้าหมายก็เหมือนกับประภาคาร ต้องสว่างมากพอที่จะนำทางเรือแห่งชีวิต
เป้าหมายต้อง “มองเห็นได้” ชีวิตที่ไม่มีเป้าหมายจะทำให้เราสูญเสียทิศทางที่จะก้าวไปข้างหน้า ต่อให้คุณมีพลังและสติปัญญามากแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์
ชาวยิวมักให้ความสำคัญกับการวางเป้าหมายที่แน่นอนและชัดเจน จากนั้นก็ดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป

ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
9. แนวคิดเชิงสัมพันธภาพ: ไม่มีสิ่งใดสามารถดำรงอยู่ได้โดยอิสระ
ในการทำธุรกิจ ชาวยิวมักเชื่อเสมอว่า “ไม่มีโชคหล่นลงมาจากฟ้า” แม้ว่าพวกเขาจะได้รับผลประโยชน์อะไรบางอย่าง แต่ชาวยิวจะคิดอยู่เสมอว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีการแลกเปลี่ยนเสมอ และพวกเขาก็ไม่เชื่อเรื่องโชคนักด้วย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะได้มาอยู่ที่การลงมือทำทั้งสิ้น
ความรู้เป็นกุญแจที่เปิดโอกาสและความสำเร็จมากมายให้คุณได้เสมอ ภูมิปัญญาและแนวคิดของชาวยิวได้รับการชื่นชมจากคนทั้งโลกมาโดยตลอดและยังคงสามารถใช้มาจนถึงทุกวันนี้ คุณเองก็สามารถนำแนวคิดของพวกเขาไปใช้ได้เช่นกัน
อ้างอิง: Theo Trí thức trẻ (ผู้เขียน)
https://www.facebook.com/862355040459578/posts/4886957734665935/
. . .
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลและเรียบเรียงโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels