นิสัยเหล่านี้ทำให้คนไม่ชอบขี้หน้าคุณ
คนส่วนใหญ่คิดว่าเรื่องความเป็นคนน่าคบหาและเสน่ห์เป็นรูปแบบหนึ่งของการครอบงำผู้คน การพยายามทำตัวให้เป็นที่ชื่นชอบหมายความว่าคุณต้องการควบคุมและอยู่เหนือคนรอบข้าง
ความจริงก็คือการทำตัวให้เป็นที่ชื่นชอบหมายความว่าคุณสามารถสร้างสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ดีขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้นำไปสู่เป้าหมายแบบผิวเผิน เช่น รายได้หรือสถานะทางสังคม
คุณสมบัติ เช่น ความจริงใจ ความโปร่งใส และความเข้าใจที่ทำให้ใครบางคนเป็นที่ชื่นชอบอย่างแท้จริงไม่ใช่รูปลักษณ์ ฐานะ หรือความเฉลียวฉลาด
ข่าวดีก็คือ การวิจัยพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเรียนรู้วิธีการมีความเห็นอกเห็นใจกันและเรียนรูเความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น ด้วยเหตุนี้ ผู้ใหญ่จึงเป็นที่ชื่นชอบมากขึ้น และหากพิจารณาอย่างจริงจังแล้ว ระดับความเห็นอกเห็นใจของเราสามารถหล่อหลอมความสัมพันธ์ส่วนตัวและความสัมพันธ์เพื่อการประกอบวิชาชีพได้

ภาพถ่ายโดย Zhaocan Li จาก Pexels
นั่นส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสามารถของเราในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นช่วยให้เราจัดการกับความยากลำบากของพวกเขาได้ดีขึ้น ช่วยเหลือได้มากขึ้น และเป็นที่ชื่นชอบมากขึ้น
อย่างไรก็ตามความยากก็คือสิ่งที่ค่อนข้างจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง นั่นคือพฤติกรรมที่มีเล่ห์เหลี่ยมและขาดสติของเราซึ่งทำให้เราไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบและขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
การทำนิสัยต่อไปนี้ซ้ำ ๆ โดยไม่รู้ตัว มันอาจกลายเป็นฆาตกรตัวฉกาจที่เชือดเฉือนความเป็นคนน่าคบหาของคุณทิ้ง จงระมัดระวังให้มากขึ้นและหลีกเลี่ยงมันเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อย่างแท้จริง
คุยมากกว่าลงมือ
Henry Ford นักธุรกิจชื่อดังเคยกล่าวไว้ว่า คุณไม่สามารถสร้างชื่อเสียงในสิ่งที่คุณกำลังจะทำได้

ภาพถ่ายโดย katemangostar จาก freepik
นั่นคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่พยายามจะทำกัน พวกเขาพูดถึงสิ่งต่างๆ แต่ไม่เคยลงมือทำมันเลย
- สัญญากับคนรักว่าจะเข้าใจและห่วงใยกันมากขึ้น แต่ไม่สามารถหาเวลาเพื่อมาเดทกันได้
- พูดถึงแนวคิดทางธุรกิจ แต่ไม่เคยเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดูน่าเชื่อถือ
- พูดถึงการลดน้ำหนัก แต่ท้ายที่สุดด้วยการสั่งพิซซ่าขนาดยักษ์พร้อมชีสพิเศษและโค้กไดเอท
การพูดคุยเป็นเรื่องง่าย การลงมือทำนั้นยาก แต่ปัญหาคือการฟังคนที่พูดถึงเรื่องใหญ่ต่อไปโดยที่ไม่เคยขยับแม้แต่นิ้วเลยก็น่าเหนื่อยเหมือนกัน
การแบ่งปันความคิดและความทะเยอทะยานของคุณเพื่อรับคำติชมและกำลังใจเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่ามากเกินไป
บางครั้งการรักษาความกระตือรือร้นของคุณไว้กับตัวเองและแบ่งปันสิ่งที่คุณลงมือทำจริง ๆ จะดีกว่า
แสดงความคิดเห็นของคุณให้เหนือความเชี่ยวชาญของคนอื่น
บางครั้งความเป็นคนน่าคบหาก็เป็นเรื่องของการปิดปากและรับฟัง แทนที่จะแบ่งปันสองสลึงของคุณเองในหัวข้อที่กำลังสนทนากันอยู่
คนส่วนใหญ่กลัวคำพูดที่ว่า ฉันไม่รู้ เพราะพวกเขาคิดว่ามันคือความอ่อนแอ
ความจริงก็คือคุณไม่สามารถที่จะรู้เรื่องไปซะทุกอย่างได้ และการยอมรับว่าคุณไม่ได้เก่งที่สุดในทุกสิ่งก็เป็นสัญญาณของความเฉลียวฉลาด เพราะช่วยให้คุณประหยัดคำพูดได้
คุณไม่สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกเรื่องได้ และคุณไม่จำเป็นต้องมีความเห็นในทุกเรื่องหรอกนะ
บางครั้งความคิดเห็นของคุณก็ไม่ได้สำคัญอะไรนักหรอก และควรประหยัดเวลา พลังงาน และความพยายามในสิ่งที่คุณสามารถทำได้ดีกว่า
คุณไม่สามารถทำทุกสิ่งได้ดี ดังนั้นอย่าพยายามเสแสร้งเลย หลีกทางให้ผู้เชี่ยวชาญฉายแสงบนเวทีดีกว่า และกลับมาให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณทำได้ดีจริง ๆ เถอะนะ

ภาพถ่ายโดย August de Richelieu จาก Pexels
อยู่ดี ๆ ก็อวดอ้างความสำเร็จ
คนส่วนใหญ่ชอบฟังเรื่องราวความสำเร็จที่แท้จริง แต่เราทุกคนต่างก็เกลียดการคุยโม้
หลายคนไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างการภูมิใจในตัวเองกับการทำตัวน่ารำคาญ
และความจริงก็คือคนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจคุณมากนักหรอก พวกเขาสนใจแต่ตัวเองเท่านั้นแหละ
ดังนั้นในการสนทนาส่วนใหญ่ จะดีกว่าถ้าคุณถามคู่สนทนาของคุณเกี่ยวกับชัยชนะและการต่อสู้ของพวกเขาแทนที่จะอวดเหรียญรางวัลทั้งหมดของคุณให้เขาเห็น

ภาพถ่ายโดย nappy จาก Pexels
แน่นอนว่าการสนทนาควรเป็นแบบสองด้านเสมอ และแน่นอน คุณสามารถแบ่งปันประสบการณ์ของคุณ รวมถึงเรื่องราวความสำเร็จของคุณได้
กระนั้น การสนทนาที่น่าพึงพอใจที่สุดเกิดขึ้นเมื่อคู่สนทนาของเราเชื่อมโยงกันได้ ไม่ใช่ความซาบซึ้ง
หากคุณต้องการกระชับความสัมพันธ์ให้มากขึ้น ให้ถามคำถามเพิ่มเติม ถ่อมตัวเกี่ยวกับความสำเร็จของคุณ และให้คนอื่นรู้สึกว่าคุณห่วงใยพวกเขาอย่างแท้จริง
อย่าเปลี่ยนทุกการสนทนาให้เป็นการนำเสนอเกี่ยวกับตัวคุณเอง แต่มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์สองด้านและคุณค่าที่คุณสามารถมอบให้กับคู่สนทนาของคุณได้
“คุณสามารถหาเพื่อนได้มากขึ้นภายใน 2 เดือนโดยการสนใจคนอื่น มากกว่าที่คุณพยายามทำให้คนอื่นสนใจคุณใน 2 ปี” – เดลคาร์เนกี
สาย
เราชอบคนที่เราไว้ใจได้ ในการสร้างความไว้วางใจนั้น การตรงต่อเวลาเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ก็ถูกมองข้ามมากที่สุด
ถ้ามีคนมาประชุมไม่ได้ ฉันจะวางใจได้อย่างไรว่าพวกเขาจะรักษาคำสัญญาอื่น ๆ ที่สำคัญยิ่งกว่าได้
เวลาของเราเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดอย่างหนึ่ง และการมาสายบ่งบอกว่าคุณไม่ให้ความสำคัญกับเวลาของคนอื่น ๆ เลย
หากเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น จะดีกว่าถ้าคุณมาเร็ว 15 นาทีแทนที่จะช้าไป 5 นาที

ภาพถ่ายโดย Ono Kosuki จาก Pexels
แตะเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น
ผู้คนส่วนใหญ่เบื่อหน่ายกับการพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ และการสนทนาแบบผิวเผินเกี่ยวกับสภาพอากาศหรือการหมูหมากาไก่ พวกเขาอยากพูดคุยในเชิงลึกมากกว่า
พวกเขาต้องการบทสนทนาที่ลึกซึ้ง จริงใจ และน่าตื่นเต้นที่ให้ความรู้สึกว่ามีคุณค่า
และเราต้องการความสัมพันธ์ที่น่าเชื่อถือ – ทั้งในธุรกิจและชีวิตส่วนตัวของเรา
การแตะเพียงแค่ผิวเผินและพูดถึงเรื่องเดิม ๆ ไม่ได้ทำให้คุณน่าสนใจ แต่น่าเบื่อซะมากกว่า
สิ่งที่คุณควรทำแทน คือ การถามคำถามที่น่าสนใจ สบตา และแสดงให้คู่สนทนาของคุณเห็นว่าคุณกำลังสนใจเรื่องที่พวกเขากำลังพูดอย่างแท้จริง

ภาพถ่ายโดย fauxels จาก Pexels
ดังที่ Heidi Grant Halvorson แบ่งปันในหนังสือ No One Understands You And What To Do About It ของเธอว่า
“ผู้คนอยากรู้สึกว่าได้รับการรับฟัง แม้ว่าคุณจะไม่สามารถให้สิ่งที่พวกเขาร้องขอหรือไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษได้ก็ตาม”
การให้ความสนใจ เช่น การสบตา เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
สุดท้ายนี้ การพยายามทำตัวให้เป็นที่ชื่นชอบมากขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับการแสร้งทำ แต่เป็นการสยบฆาตกร (ที่เชือดเฉือนความเป็นคนน่าคบหาของคุณ) ในตัวคุณเพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับคนรอบข้างได้ดีขึ้นและสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงได้
ชีวิตทั้งหมดของเราตั้งอยู่บนพื้นฐานของการสร้างความสัมพันธ์อย่างมีมนุษยธรรม ดังนั้นมันจึงดีกว่าหากเราในการเอาใจใส่คู่สนทนา พ่อแม่ เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนของเราเองนะ
แปลบทความจาก 5 Common Habits That Make You Less Likeable (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ คลิก)
หมายเหตุ : เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลบทความโดย: กุลนิภา บุตรลุน
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels