บางครั้งคนเรามักจะต้องเจอกับสถานการณ์ที่เข้าใกล้ความสำเร็จแบบสุดๆ ชนิดที่อีกก้าวเดียวเท่านั้นสิ่งที่ต้องการก็จะเป็นจริง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับล้มเหลวไปต่อหน้าต่อตา กลายเป็นสายลมลอยผ่านไปอย่างน่าเสียดาย นี่คือเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน
ความผิดหวัง ล้มเหลว ท้อแท้ หมดกำลังใจ ทุกอย่างประดังเข้ามาในช่วงเวลาต่อจากนั้นอย่างไม่หยุด ในหัวคงมีแต่ภาพเหตุการณ์เดิมฉายซ้ำวนอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหนสักที
มีคนมากมายที่ยังออกจากวงโคจรความรู้สึกแบบนั้นไม่ได้ บางคนใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะออกจากความผิดหวัง บางคนเป็นปีก็มี หรือบางคนใช้เวลาตลอดชีวิตก็ยังออกมาไม่ได้ ก็เห็นถมไป
พวกเขาคงเสียใจที่อีกเอื้อมมือก็จะคว้าความสำเร็จได้ แต่เรื่องทำให้รู้สึกแย่ที่สุด คงเป็นการเริ่มต้นใหม่ เพราะตลอดระยะทางที่ผ่านมา ต้องใช้ความอดทนสารพัด กว่าจะเข้าใกล้ความสำเร็จ ซึ่งพอผลออกมาเป็นแบบนี้ แปลว่าต้องเริ่มพยายามกันใหม่ และใครก็รู้ว่าการเริ่มต้นไม่เคยง่ายสักครั้ง
จะเริ่มต้นใหม่ทั้งทีต้องใช้ปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะเวลา และนี่คือกระดูกชิ้นโตที่ทำให้ต้องล้มเลิกความตั้งใจออกไป เพราะพวกเขามักไม่ชอบการรอคอยของเวลา ต้องการความสำเร็จแบบจับต้องได้ในเร็ววัน หากต้องรอก็จะหาแนวทางใหม่อยู่เสมอ
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า…ทำไมคนเราถึงต้องมีความดื้ออยู่ในตัวเอง
ในสมัยเด็กผู้ใหญ่มักพูดกับลูกหลานอยู่เรื่อยๆว่า “โตขึ้นมา อย่าดื้อนะลูก” เพื่อต้องการให้เชื่อฟังและทำตามคำสั่งอย่างว่านอนสอนง่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะผู้ใหญ่จะใช้ประสบการณ์มาคอยประคองไม่ให้เด็กเดินในทางที่ผิด และมีเส้นทางที่สดใสในอนาคต
จนบางครั้งการตัดสินใจของผู้ใหญ่บางคนก็ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด ทำให้เด็กหลายคนก็ใช้ความดื้อมาเป็นแรงผลักดันให้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้อย่างเติบโต
คิดว่านักลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคน เขาลงทุนเพียงครั้งเดียวแล้วเปลี่ยนชีวิตได้เลยเหรอ ไม่มีทางหรอก พวกเขาผ่านสมรภูมิมาไม่รู้เท่าไหร่ กว่าจะเจอแนวทางที่ใช่ ต้องล้มเหลวขาดทุนจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้ว คู่มือสำคัญที่พามาถึงจุดนี้ได้คือ ‘ความดื้อ’
ก่อนจะลงทุนนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนทุกครั้ง นี่คือหลักเบื้องต้นก่อนจะเข้าสู่ตลาด แต่ถ้าทุกคนศึกษามาในตำราเดียวกัน ก็ไม่ได้หมายความว่ากำไรจะเท่ากัน มีขาดทุนบ้างกำไรบ้าง ต่างกันไป จุดน่าสนใจคือความตื้อของแต่ละคน คือกุญแจพาไปสู่สิ่งที่คาดไม่ถึง
มีนักลงทุนหน้าใหม่มากมายที่เข้ามาในตลาด พอขาดทุนก็ทยอยหนีกลับกันไปอย่างรวดเร็ว เพราะคิดว่ายิ่งฝืนต่อไปจะมีแต่เสียกับเสีย เห็นไหมว่าแค่ความคิด ก็แพ้ตั้งแต่เพิ่งเริ่มต้นแล้ว มัวแต่มองกำไรตรงปลายทาง ไม่คิดว่ามันจะอยู่ระหว่างทางกันบ้างหรือไร
เรื่องราวของ ปีเตอร์ ลินซ์ ชื่อนี้การันตีความยอดเยี่ยม หลายคนต้องคุ้นชื่อจากที่ใดสักแห่ง เจ้าของตำแหน่งตำนานนักลงทุนคนหนึ่งแห่งวงการ ผู้จัดการกองทุนรวมที่ชื่อว่า กองทุนมาเจลลัน ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงสุดแห่งหนึ่งถึงระดับ 30% เลยทีเดียว
ความโลภคือบ่อเกิดหายนะ ทุกคนที่ลงทุนก็หวังจะคว้าเอากำไรในระดับมหาศาลกลับไปทั้งนั้น แต่สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนมาอย่างยาวนานหลายสิบปี มุมที่เขามองคือไม่จำเป็นต้องกำไรมากมาย ขอแค่พอมีนิดหน่อย แต่เรื่อยๆก็ยินดีมากแล้ว และที่สำคัญต้องศึกษาให้ดีก่อนด้วย
นับตั้งแต่เริ่มต้นเรื่อยมา สิ่งที่มืออาชีพเขาทำกันคือการคงไว้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก ความสนุกตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพราะเหล่านี้จะช่วยให้มองข้ามเรื่องราวร้าย ๆ ไปได้ และยังมองเห็นเสน่ห์ของสิ่งที่กำลังโฟกัส เพื่อหวังให้เป้าหมายยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
ถึงวันไหนที่ล้มบ้าง เจ็บตัวบ้าง แต่ก็ยังจะมองแต่มุมสนุก และเข้าใจในสถานการณ์ ก็ถือเป็นการใช้ความดื้อรั้นได้อย่างมีชั้นเชิง ประกอบรวมกับเหตุผลได้อย่างมีน้ำหนักมากขึ้น
สิ่งสำคัญที่ไม่ว่าจะอาชีพไหนแต่คนวัยเก๋าทั้งหลายจะเลือกนำมาใช้กับงานคือต้องรู้ให้ได้มากที่สุด เข้าใจเป็นอย่างดี ก็จะไปถึงจุดที่ต้องการได้ เหมือนกันในตลาดหุ้น ถ้าศึกษามาเป็นอย่างดี มั่นใจอย่างรอบด้าน ต่อให้ใครมาค้านก็เถียงกลับด้วยความถูกต้องที่เราศึกษามาได้อย่างน่าภูมิใจ
การจะเลือกลงทุนกับหุ้นสักตัว ต้องขึ้นอยู่กับกำไรด้วย เมื่อลองมาวิเคราะห์แล้วคนส่วนใหญ่บอกว่าทิศทางเติบโตได้ยาก แต่สำหรับคุณเมื่อลองดูดีดีจะพบว่าต่อให้ยากก็ยังพอมีหนทาง ลงมือในสิ่งที่คนหมู่มากหันหน้าหนี สุดท้ายมักจะได้ผลเสมอเมื่อทำต่างจากคนอื่น
ก่อนจะลงทุนแล้วคิดว่ากำไรจะได้เท่าไหร่ ก้มมามองในกระเป๋าตังค์ดูก่อนว่ามีงบเพียงพอแค่ไหน ถ้าหากดื้อฝืนไปก็ดูจะไม่เข้าท่า ต้องดื้อในทางที่ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์นั้นด้วย ถ้าใจเย็นให้เป็นและใจร้อนอย่างถูกจังหวะ ระยะยาวความสำเร็จก็จะอยู่ในมือไม่เปลี่ยนแปลง
เห็นไหมว่า ความดื้อ ก็มีประโยชน์เหมือนกัน ทุกคนมีมุมมองของตัวเอง และทุกคนต้องเคยเห็นต่าง แต่อยู่ที่ว่าจะแสดงออกมากน้อยกว่ากัน
นั่นทำให้คิดได้ว่า ทุกเรื่องร้ายที่เกิดขึ้น มันยังคงแทรกซึมด้วยพลังงานบวกบางอย่าง ในสถานการณ์ที่สั่นคลอนทุกคนกำลังวิตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น นั้นจึงทำให้เรื่องราวดีดีที่เก็บซ่อนไว้ตามมุมมืดที่ยากจะหาเจอ ผู้คนจึงคิดว่ามันไม่มี แต่อย่างว่าใครไม่เจอกับตัวคงไม่เข้าใจ
หนทางความสำเร็จ เราต่างหาแนวทางที่ถูกต้องเพื่อจะพาไปยังจุดนั้น บางครั้งถ้ามองหาในทางที่ผิดบ้าง ก็คงจะเจอทางลัดบางอย่างที่ไปถึงได้เหมือนกัน บางเส้นทางไม่ได้เหมาะกับรถทุกคันเสมอไป บางครั้งทางลัดหรือทางด่วนก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่จะสร้างฝันให้เป็นจริงได้ในอนาคต
…
เรียบเรียงโดย : กฤตเมธ อันสมัคร
กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: Pexels