ในหนึ่งสัปดาห์ จะมีอย่างน้อยหนึ่งวันที่เป็นวันพักผ่อนของใครหลายคน เป็นวัน…ที่ได้หยุดจากหลายสิ่ง ละทิ้งจากภาระและความกดดันต่างๆ เพื่อผ่อนคลาย
สิ่งนี้ทำให้หลายคนถึงตกหลุมรักกับเทศกาลวันหยุดต่างๆ เพราะจะได้เป็นโอกาสอันดีที่จะพาตัวเองรวมถึงครอบครัว ออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในการใช้ชีวิต
ทันทีที่ออกเดินทาง ทุกคนต่างคาดเข็มขัดพร้อม และจิตใจตั้งมั่นอยู่กับเป้าหมายอย่างแน่วแน่ เสียงเพลงบนรถระหว่างเดินทางในวันนี้ ดูน่าฟังกว่าวันไหนๆ
ความรู้สึกที่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่ได้นั่งมองวิวจากสองข้างทาง ก็เพลิดเพลินจนใจลอยไปไหนต่อไหนแล้ว
หลังจากขับรถมาได้สักระยะ ลืมบอกไปว่า ปลายทางของการเดินทางครั้งนี้คือ จ.ชลบุรี และนั่นคือหมุดหมายสำคัญและเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่อจากนี้
เมื่อใกล้ถึงที่พักที่ได้จองล่วงหน้าเอาไว้เป็นสัปดาห์แล้ว ตึกสูงสีขาวตั้งโดดเด่นดึงดูดสายตากว่าที่พักอื่นในระแวกเดียวกัน ยอดตึกสูงนั้นมีป้ายชื่อโรงแรมติดอยู่อย่างชัดเจน
หลังจากสืบไปสืบมาก็พบว่านี่คือโรงแรมระดับ 4 ดาวที่คนแถวนั้นพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุ้มค่ากับราคามากที่สุดแล้ว เพราะจุดเด่นคือราคาที่ไม่แพง และมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเกินคุ้ม
ขณะที่จะเลี้ยวเข้าที่จอดรถของโรงแรม ก็มีผู้ชายวัยกลางคนมาช่วยโบกรถเข้าซองให้ ก่อนที่เขาจะวิ่งไปโบกให้กับคันต่อไปที่อยู่ไม่ไกล จากการแต่งกายก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคือพนักงานของที่นี่
วันนั้นเราทั้งครอบครัวเดินทางมากันนับสิบคน แน่นอนว่าสัมภาระจะต้องมหาศาล แค่กระเป๋าเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวก็คนละหนึ่งใบ ไหนจะข้าวของอาหารที่เตรียมจากบ้านอีกสารพัด
ลำพังจะให้แบกกันไปเองอาจจะหลังแอ่นได้ ไหนจะมีทั้งเด็กและผู้หญิงอีก แทบเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นการมีตัวช่วยคงดีที่สุด
เมื่อพนักงานคนนั้นโบกรถให้อีกคันเสร็จเรียบร้อย เขาก็หันมามองที่สัมภาระกองโตจากกระบะท้ายรถเรา แล้วรีบเคลื่อนตัวเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนจะวิ่งไปหารถเข็นมาให้
ไม่พูดพร่ำทำเพลง หลังจากได้รับอนุญาตเขาก็ก้มหน้าก้มตายกของใส่รถเข็นจนเต็ม และค่อยๆเข็นไปตัวคนเดียวถึงหน้าล็อบบี้ เขาทำอย่างนี้ถึงสามรอบกว่าของจะหมดเกลี้ยง
ว่าตามตรงคือรู้สึกเหนื่อยแทน แต่ด้วยการเดินทางไกลทำให้เหนื่อยกันมาก เราจึงรีบเข้าห้องพักแบบไม่สนใจอะไรเท่าไหร่
เช้าวันถัดมา ทุกคนคุยกันว่าจะไปเดินเล่นที่ชายหาด แต่เมื่อดูแผนที่ก็ไกลเกินกว่าจะเดินไป และจะให้ขับรถไปก็ขี้เกียจกัน เพราะถนนหน้าโรงแรมรถติดชนิดที่ว่าไม่อยากแม้แต่จะมอง
จึงตัดสินใจกันว่าจะไปด้วยการเหมารถรับจ้าง ระหว่างยืนตกลงกันหน้าโรงแรม แดดก็ร้อน พนักงานคนเดิมก็เดินเข้ามาถามว่า “จะไปที่ไหนกันเหรอครับ” พอบอกไปเท่านั้น เขารีบโทรหาใครสักคนทันที พร้อมกับบอกให้เราไปรอตรงร่มๆสักครู่
ไม่นานรถสองแถวคันหนึ่งก็เข้ามาจอดข้างหน้าเรา พนักงานคนนั้นโบกมือให้เราขึ้นรถได้เลย แล้วบอกอีกว่า “คันนี้ไม่แพงพี่ เชื่อใจผมได้เลย” จากนั้นรถคันนี้ก็ไปส่งเราถึงหน้าชายหาด
กระทั่งช่วงเย็น ทุกคนกำลังจัดเตรียมปาร์ตี้ พบว่ามีหลายอย่างที่ยังขาดอยู่ ทั้งน้ำแข็ง ขนมขบเคี้ยว และของจิปาถะอีกนิดหน่อย จึงลงไปดูรอบๆก็ไม่มีร้านสะดวกซื้อเลย
พนักงานคนเดิมที่ดูเหมือนว่ากำลังจะเลิกงาน ก็เดินสวนกับเราแล้วถามว่า “ต้องการอะไรอีกหรือเปล่าครับ” จากนั้นเขาอาสาขับมอเตอร์ไซค์ไปซื้อของที่ร้านชำลับๆใกล้โรงแรมให้เอง
ของที่ได้มาไม่ครบทุกอย่างหรอก แต่ก็ดีที่สุดเท่าที่เวลานี้จะหาได้แล้ว เมื่อเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ทุกคนฟัง ทุกคนก็พูดชื่นชมพนักงานคนนี้ และทิ้งท้ายว่า “สงสัยต้องทิปหนักเสียแล้ว”
เช้ารุ่งขึ้นคือวันสุดท้ายที่จะต้องกลับ พอถอยรถเข้ามาหน้าโรงแรมเพื่อจะขนของ พนักงานคนนั้นก็เข้ามาช่วยอย่างไม่ทันได้เรียก โชคดีที่หลายอย่างเบาขึ้นทำให้ไม่หนักเหมือนตอนมา
ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะกล่าวขอบคุณกันและกัน พร้อมกับเราให้ทิปเป็นการตอบแทนจำนวนหนึ่ง อาจไม่ได้เยอะที่สุดเท่าที่เขาเคยได้รับมา แต่มากที่สุดเท่าที่เราเคยให้ใครมาก่อนแน่นอน
และทริปการพักผ่อนในครั้งนี้ก็ได้สิ้นสุดลง…
ระหว่างทางกลับบ้าน ไม่ว่าจะคุยเล่นเรื่องอะไรกันก็มักจะมีการกล่าวถึงพนักงานคนนี้อยู่เสมอ น่าเสียดายที่ไม่ได้ถามชื่อเขามา เพียงแต่สิ่งที่เขาทำมันน่าจดจำได้อย่างดี
เข้าใจว่านี่คือหน้าที่ปกติของเขา แต่ก็ทำให้คิดได้ว่า บางครั้งเรื่องธรรมดาทั่วไปก็สามารถเป็นอะไรที่น่าจดจำได้เหมือนกัน
เอาเข้าจริง ภาพน้ำทะเลและชายหาดที่สวยงาม มันก็สวยงามเหมือนเดิมตลอดมา เพียงแต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะเจอผู้คนที่น่าประทับใจแบบนี้ นั่นทำให้ภาพจำของทริปนี้ส่วนใหญ่คือการได้รับความช่วยเหลือจากพนักงานคนนั้น
อีกอย่างที่มองเห็นได้ชัดเจน คือคุณค่าของชัยชนะแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องแข่งกับใคร หรือยิ่งใหญ่แค่ไหน เพียงเรื่องเล็กๆ ก็สามารถพาไปพบกับชัยชนะได้แล้ว เพราะนั่นคือ การชนะใจ
การชนะใจคนได้ เป็นเรื่องง่ายที่ทำได้ยาก หากไม่เต็มใจจริง ก็จะถูกแสดงออกมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งนี่คือหัวใจหลักของการใช้ชีวิต คือการให้คุณค่ากับคนทุกคนเท่าเทียมกัน
หากจะบอกว่าสิ่งที่พนักงานคนนั้นทำมันคือเรื่องธรรมดาก็คงไม่ผิด แต่ในความธรรมดานั่นมีคุณค่าสูงมาก ที่เด่นที่สุดคือมันทำให้ครอบครัวเราประทับใจ และจะนึกถึงที่นี่เสมอถ้ามีโอกาส
ความทรงจำที่ดีมักเกิดในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างมีคุณค่าในตัวเอง เพียงแค่ตั้งใจในหน้าที่ที่ทำอยู่ ทุกคนก็สามารถสร้างความประทับใจดีๆให้กับใครหลายคนได้แล้ว
ซึ่งในท้ายที่สุด คุณค่าของการเป็นผู้ชนะ
ก็คือการชนะใจตัวเอง และไปชนะใจผู้อื่น อยู่ดี…
..
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ภาพประกอบจาก : Pexel