การจะตัดสินว่าใครชนะหรือแพ้ แน่นอนว่าอยู่ที่ผลการแข่งขัน ใครทำคะแนนได้มากกว่าก็เป็นฝ่ายเอาชัยชนะไปครอง ส่วนใครที่ทำได้น้อยกว่า ก็ต้องก้มหน้ารับความผิดหวังกลับบ้านไป นั่นคือสถานการณ์ในเกมที่ต้องยอมรับ แต่ไม่ใช่ว่าผลออกมาไม่ดี แล้ววิธีการจะต้องผิดไปด้วย
เคยได้ยินไหม “เกมแพ้ คนไม่แพ้”
เมื่อช่วงสายของเช้าวันนี้ สื่อหลายสำนักได้นำเสนอข่าวของ นักกีฬาหญิงคิกบ็อกซิ่งชาวไทยคนหนึ่ง เธอได้ลงทำการแข่งขันรอบตัดเชือกในมหกรรมกีฬาระดับภูมิภาค ตลอดการแข่งขัน เธอโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โจมตีคู่แข่งในหลายรูปแบบ ทำเอาคู่แข่งไปไม่เป็น
ช่วงท้ายทั้งสองฝ่ายต่างเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ สถานการณ์ดูเธอจะได้เปรียบกว่าคู่แข่ง เพราะทั้งทำให้อีกฝ่ายโดนนับ แถมสะบักสะบอมพอสมควร ใครหลายคนก็คงคิดว่าเธอคงจะเอาชนะไปได้ไม่ยากในแมตช์นี้ เพียงแค่รอเสียงระฆังเท่านั้น
แต่ผลปรากฎว่า สุดท้ายเธอต้องแพ้คะแนนให้กับคู่แข่งชาวอินโดนีเซีย อย่างเหลือเชื่อ ท่ามกลางความมึนงง แม้ว่าสตาฟทางฝั่งไทยจะไปขอประท้วง ก็ไม่เป็นผลอยู่ดี
ทำเอาเธอถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บใจ เพราะอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นจะได้เข้าชิงเหรียญทองอยู่แล้วเชียว ถึงแม้จะได้เหรียญทองแดงไปครอบครอง แต่มันก็น่าเสียดายสำหรับเธออยู่ดี
เชื่อได้เลยว่าแม้ตอนนี้การแข่งขันจะจบไปแล้ว แต่ในใจเธอคงมีคำถามมากมาย ความสงสัยทั้งหลายก็คงไม่ถูกคลี่คลายภายในวันเดียว เวลาคงเป็นกำลังใจที่ดีในตอนนี้
ทั้งนี้ ความคิดเห็นในโลกโซเชียลก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ค้านสายตา แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อถูกตัดสินไปแล้วก็ต้องจบ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นเหตุการณ์แบบนี้
ก่อนหน้านี้ในอดีตมีหลากหลายเรื่องราวจากหลายวงการที่ถูกมองว่าเป็นความไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ เพียงแต่วงการกีฬาจะเห็นได้ชัดที่สุด เพราะมีการแสดงผลอย่างชัดเจน แต่ถึงจะชัดเจนและพิสูจน์ได้แค่ไหนก็ตรวจสอบไม่ได้อยู่ดีว่าที่มานั้นเป็นไปด้วยความเที่ยงตรง
จะมีให้เห็นจนเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกครั้งที่มีการแข่งขันจะต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้ในเกม ซึ่งหลังเสียงสัญญาณเวลาทุกคนก็ต่างเป็นเพียงนักกีฬาเหมือนกันอยู่ดี ที่แม้จะแพ้ครั้งนี้ แต่ครั้งหน้าก็ยังมีโอกาสให้แก้ตัวในครั้งต่อไปเสมอ หากยังไม่เลิกความตั้งใจ
ลิโอเนล เมสซี่ คือบทเรียนชั้นดีที่หากใครกำลังท้อ จนหาโอกาสของตัวเองไม่เจอ ก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ทุกย่างก้าวของความเจ็บปวด ถูกหลอมรวมมาเป็นตัวเขาตั้งแต่ในวัยเด็ก คำดูถูกและความไม่เป็นธรรมซูเปอร์สตาร์คนนี้ก็เจอมาไม่น้อยกว่าคนทั่วไปเลย
ตั้งแต่เด็ก เมสซี่ พบว่าตัวเองชื่นชอบฟุตบอลมาตลอด ทักษะ ความสามารถของเขาพุ่งออกมาเหนือเด็กคนอื่นในช่วงอายุเดียวกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณหมอตรวจพบเขามีความบกพร่องทางด้านร่างกายบางอย่าง ส่งผลให้การเจริญเติบโตทางร่างกายจะช้ากว่าปกติ
และสำหรับกีฬาฟุตบอลที่ต้องใช้แรงปะทะ ความแข็งแกร่ง ก็แทบจะเป็นอนาคตที่มองไม่เห็นของเขาเลย เพราะต่อให้ไปฝึกกับสโมสรไหนก็ไม่มีใครรับ ด้วยเหตุผลตัวเล็กเกินไป
หลายต่อหลายที่เห็นความสามารถแล้วก็สนใจ แต่ก็จะกลั้นใจเซ็นสัญญาไว้ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าการลงทุนครั้งนี้จะทำกำไรได้จริงเหรอ ทำให้เขาต้องผิดหวังซ้ำหลายหน
น้ำตาของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการทำตามความฝันด้วยการเป็นนักฟุตบอล โชคชะตาไม่เป็นใจราวกับเขียนบทเอาไว้ให้เขาต้องสิ้นหวัง ด้วยครอบครัวที่แข็งแรงก็พาเขาผ่านจุดนั้นมาได้
จนสุดท้ายเป็นศูนย์ฝึกของบาร์เซโลน่าที่ตัดสินใจชุบเลี้ยงและสานฝัน “ลิโอ” ให้เป็นจริง สโมสรพาเขาเข้ารับการรักษาและพัฒนาร่างกายอย่างดี จนเติบโตขึ้นมาได้อย่างมีคุณภาพ ก่อนที่จากเด็กน้อยตัวเล็กคนนั้น ก็ตอบแทนสโมสรด้วยมูลค่ามหาศาล
เขากลายเป็นระดับโลกในเวลาต่อมา ฝีมือก็พัฒนาขึ้นทุกวัน ความสามารถไร้ขีดจำกัด มีทรัพย์สินมหาศาล พร้อมกับมีมูลค่าตัวเองที่สูงเกินใครจะเอื้อมถึงได้
แม้เส้นทางอาชีพเขากำลังไปได้สวย แต่ในด้านทีมชาติเขาคือ มิสเตอร์แห่งพระรอง ผลงานส่วนตัวได้รางวัลมากมาย ขัดกับความสำเร็จระดับชาติที่ยังหาไม่เจอ จนถึงขั้นประกาศเลิกเล่นทีมชาติในปี 2016 ด้วยน้ำตา เพราะไม่สามารถพาทีมได้แชมป์แม้จะไปถึงนัดชิงชนะเลิศ
สิ่งที่เขายังคงสานต่อคือไม่หยุดพัฒนาตัวเอง จนในปี 2021 ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าตัวประกาศกลับมาเล่นทีมชาติอีกครั้ง ก็ถึงวันที่รอคอยเมื่อเขาล้างคำสาปด้วยการคว้าแชมป์แรกในระดับทีมชาติมาครองด้วยความภาคภูมิใจ ปลดล็อคทุกสิ่งในใจเป็นที่เรียบร้อย
น้ำตาจากเด็กน้อยที่ผิดหวังวันนั้น สู่น้ำตาลูกผู้ชายที่ปลาบปลื้มใจในวันนี้ อาจถึงขั้นบอกได้ว่าน้ำตาในวันนั้นทำให้เขามีในวันนี้ก็คงจะไม่มีใครเถียงลงได้
การตัดสินใจไม่ยอมแพ้ สามารถเปลี่ยนชีวิตคนหนึ่งได้ขนาดนี้เลยเชียวเหรอ ถ้าหากวันนั้นเขาเลือกเส้นทางอีกแบบ ทุกวันนี้ก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าอาจประสบผลสำเร็จในทางที่เลือกไว้ หรือเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ คงเป็นผลของคนที่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง
เราทุกคนต่างเคยเสียน้ำตากันมานับไม่ถ้วน แต่ล้วนมาจากสาเหตุที่ไม่เหมือนกัน ดีใจ หรือ เสียใจ ก็ผลิตน้ำตาได้เช่นเดียวกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่เสียน้ำตา แปลว่าชีวิตคุณปลดล็อคความรู้สึกบางอย่างแล้ว ยังมีอะไรอีกมากที่รอการเปิดผนึกจากตัวเราเอง บางทีร้องไห้บ้างก็ได้ เพราะหลังจากเช็ดน้ำตา ตัวเราก็คงแข็งแรงขึ้นกว่าวันนี้ ต่อไปจะได้ไม่ต้องมาเสียใจกับเรื่องเดิมอีกครั้ง..
…
เรียบเรียงโดย : กฤตเมธ อันสมัคร
กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: Pexel