บางที…การส่องกระจกดูบ้างก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ ทำให้เห็นว่าคนที่อยู่ในนั้นเป็นยังไงบ้าง ทั้งสภาพหน้าผมรวมไปถึงความคิดความอ่านโตไปไกลแค่ไหนแล้ว
หลายคนมักพูดอยู่เสมอว่า “โตไปให้เป็นเจ้าคนนายคน” ว่าแต่…การจะเป็นเจ้าคนนายคนที่ว่า จะต้องเป็นแบบไหนกัน ในเมื่อทุกวันนี้ บางคนต่อให้เป็นนายคนแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับการยอมรับจากทุกคนเสมอไป
เพราะไม่ใช่ว่าใครจะเป็นผู้นำกันได้ทั้งนั้น องค์ประกอบหลายอย่างมีส่วนกับการทำหน้าที่ตรงนี้อย่างดี บุญพาวาสนาส่ง หรือความสามารถที่เหลือล้น บางครั้งก็อาจไม่พอ
ต้องมีบารมี ความน่าเชื่อถือ จนเป็นที่ยอมรับแก่คนหมู่มากให้ได้ เพราะการได้ผลลัพธ์ในรูปแบบของเงินทองหรือชื่อเสียง ก็ไม่เท่าการได้ผลลัพธ์จากการเอาชนะใจคน
ซึ่งวิธีการมีมากมาย เพียงแต่จะมีสักกี่คนที่เลือกปรับตัวเองให้เข้ากับคนอื่นได้ดี ยิ่งด้วยตำแหน่งศักดิ์ศรีที่ค้ำคอ ก็ยากเกินจะยอมเปลี่ยนแปลงเพื่อคนอื่น
แต่ไม่เชื่อหรอกนะว่าทุกคนที่เป็นผู้นำจะต้องเป็นแบบนั้นเสมอ ยังคงพอมีคนที่อยากปรับปรุงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลาแหละ แต่คนเหล่านี้อาจไม่ได้อยู่ในน้าสปอทไลท์มากที่ควร
ส่วนสำหรับคนที่กำลังจะได้ขึ้นเป็นเจ้าคนนายคน หากอ่านมาถึงตรงนี้ แสดงว่าคงมีความรู้สึกกำลังอยากพัฒนาตัวเองอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง อยากจะบอกว่ามาถูกทางแล้ว เพราะต่อจากนี้ คือเคล็ดลับที่ใครต่อใครก็ยึดนำทางเสมอ
กำลังจะพูดถึง “คุณสมบัติของการเป็นผู้นำที่ดี” จะขึ้นเป็นผู้นำนั้นไม่ยาก แต่จะให้ดีต้องเป็นผู้นำในแบบที่คนอื่นเคารพและให้การยอมรับอย่างใจจริงด้วย
สิ่งสำคัญคือต้องมีคนรู้ใจอยู่ข้างกาย ไม่ใช่หมายถึงสามีหรือภรรยาเสมอไป แต่คือสหายที่พร้อมจะซัพพอร์ตอยู่ตลอดเวลา คนที่คอยแก้ปัญหาในยามที่เจออุปสรรคคับขัน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ผู้นำในประเทศที่ขึ้นชื่อว่าอิทธิพลมากที่สุดในโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และอีกมากมาย ยังต้องมีคนข้างกายที่รู้ใจ
คนที่ถูกเรียกว่าเป็น “มือขวา” คนนั้นมีชื่อว่า รอน เคลน เขาคือหัวหน้าทีมงานเจ้าหน้าที่ ณ ทำเนียบขาว โดยรอนคือคนที่คุ้นเคยอย่างดีกับทำเนียบขาว เพราะสมัยที่ บารัค โอบามา ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาก็เคยทำงานในทีมนั้นมาแล้ว
เป็นที่รู้กันดีว่า รอน เคลน มีความเชี่ยวชาญในด้านกฏหมายการค้าระหว่างประเทศ โดยที่ชื่อเสียงของเขาเริ่มมีบทบาทตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ด้วยซ้ำไป
การเข้ามาทำงานร่วมกันของ โจ ไบเดน กับ รอน เคลน นั้นช่วยให้ทั้งคู่ได้แลกเปลี่ยนและหารืออยู่เสมอ ยิ่งในยุคที่หลายอย่างถูกมองว่าเป็นปัญหาก็เปลี่ยนไปจนหาทางออกที่ดีอยู่ร่ำไป
จนหนึ่งในสุนทรพจน์ที่ โจ ไบเดน กล่าวในวันแต่งตั้งให้รอน มารับหน้าที่เป็นทางการว่า
“ผมกับรอน เราผ่านอะไรมามากมายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ วิกฤตหลักทางการเมือง แม้แต่วิกฤตด้านสุขภาพทั้งหลาย หลายสิ่งถูกแก้ไขได้ดีขึ้นด้วยประสบการณ์ของรอน ซึ่งส่งผลดีแก่ประเทศของเรา ช่วยเหลือให้ผ่านพ้นอุปสรรคตรงหน้า และจัดการกับสิ่งต่างๆให้ออกมาได้ดีเสมอ”
จะเห็นว่า แม้แต่ผู้นำระดับโลกยังต้องการมือขวาคู่ใจเพื่อจะทำให้ภาระหน้าที่ต่างๆ ได้มีคนช่วยคิด เพราะแต่ละวันคงมีเรื่องเข้ามามากมาย จะให้คิดคนเดียวต่อให้อัจฉริยะ คงต้องยอม
และเชื่อได้เลยว่า การที่ทั้งคู่จะทำงานอย่างลงตัวได้ดี ต้องมาจากการรักษาความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยม ไม่อย่างนั้นหากไม่ได้รับการยอมรับ คงออกมาได้ไม่ดีเท่านี้อย่างแน่นอน
ส่วนในมุมของ รอน เคลน เมื่อได้รับการให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน ก็ง่ายที่จะให้ใจในการทำงาน จากหน้าที่ก็กลายเป็นการช่วยเหลือ เพื่อส่งผลถึงผลลัพธ์ในวงกว้าง
ฉะนั้น ไม่ว่าต่อให้เป็นใคร อย่าลืมว่าทุกคนมีหน้าที่และความถนัดไม่เหมือนกัน ถึงบางทีจะบริหารได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าไม่มีการจัดการที่ดี ก็จะทำให้คนเก่งกลายเป็นคนธรรมดาได้
แต่ถ้ารู้ว่าใครถนัดอะไร แจกจ่ายหน้าที่ให้ถูกตำแหน่งและเวลา นอกจากจะแบ่งเบาภาระได้แล้ว ยังมั่นใจได้เลยว่าจะได้คุณภาพงานที่เพิ่มขึ้นแน่ เพราะมาจากผู้ที่เชี่ยวชาญจริงๆ
โลกใบนี้มันกว้างเหลือเกิน มีอะไรอีกมากมายที่รอเราทุกคนออกไปเจอ ออกไปสร้างสรรค์สิ่งต่างๆออกมาในแบบของเรา คงเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกใจทุกคน แต่เมื่อเป้าหมายคือคนหมู่มาก ที่ไม่ใช่ตัวเอง ความตั้งใจตรงนั้นก็จะพาไปในทางที่ถูกอยู่เสมอ
ต่อให้วันนี้คิดว่าเราอยู่ในจุดที่สูงแล้ว แต่เมื่อมองดีดีจะพบว่ายังมีขั้นกว่าเราเสมอ ถึงจะเป็นเจ้านาย ก็ยังจะมีเจ้านายกว่าเราอีกอยู่ดี ชีวิตไม่เคยสิ้นสุดหรอก ทุกวันเป็นแค่การเริ่มต้นสิ่งใหม่
ซึ่งถ้าหากคิดว่าเป้าหมายคงต้องเป็นการสร้างอะไรบางอย่างให้ตัวเองหรือเพื่อสังคมก็ตาม ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทอง ชื่อเสียงโด่งดัง แค่ทำให้คนรอบข้างสบายใจเมื่ออยู่กับเรา เท่านี้ก็อาจเป็นการเริ่มต้นที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดอย่างหนึ่งแล้ว
ดังนั้น ไม่ว่าวันนี้เราจะเป็นใคร บทบาทเจ้านายหรือลูกน้อง ก็ต่างล้วนให้ความประทับใจและความรู้สึกดีๆแก่กันได้ ถ้าคิดไม่ออกว่าจะเริ่มอย่างไร แค่รอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้าของเรา ก็อาจทำให้ส่งไปถึงคนอื่นได้เหมือนกัน
แล้วการจะเป็นผู้นำที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกเลย เพราะสุดท้ายต่อให้ไม่ต้องเป็นเจ้านายใคร เราก็เป็นเจ้านายของตัวเอง ทำทุกวันให้ยอดเยี่ยม เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในวันพรุ่งนี้เสมอ…
…
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ภาพประกอบจาก : Pexel