เงิน สั่นคลอนชีวิตรัก

เงิน สั่นคลอนชีวิตรัก

เมื่อไหร่ก็ตามที่พูดถึงเรื่องเงินกับความรัก
“มันมักจะละเอียดอ่อนกว่าที่นายจะเข้าใจ”

ความรัก กับ การเงิน

เงินซื้อความรักไม่ได้

ความรักแท้ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน

ถ้ามันใช่ แล้วทำไมเวลาปัจจัยขาดหลายครอบครัวถึงเกิดปัญหา

โลกใบนี้มันไม่ได้สวยงามอย่างที่เราปรารถนา แน่นอนว่า “ความรัก” คือสิ่งสำคัญ แต่ความรักที่ขาดปัจจัยเกื้อหนุนย่อมยืนยงได้ยาก เห็นมามากก็เพียงแค่อยากเล่าต่อ ไม่ได้บอกว่า “เงิน” คือที่สุด แต่ที่สุดในการใช้ชีวิตต้องมีเงิน เพราะโลกปัจจุบันนี้ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยความรักอีกต่อไปแล้ว

โลกปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยเงิน….

หรือไม่จริง

ภาพโดย Priscilla Du Preez จาก Unsplash

แค่คิดถึงจุดเริ่มต้นของความรักของใครสองคน ถ้าคุณมีเงิน 5,000 บาท แล้วดันไปหลงรักใครสักคนที่มีเงิน 50 ล้าน ความมั่นใจของคุณในการที่เข้าหาเขาหรือเธอคนนั้นจะด้อยลงโดยอัตโนมัติ และเขาหรือเธอจะเลือกคุณไหมก็ยังไม่รู้…

ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณมีเงิน 50 ล้าน แล้วไปหลงรักใครสักคนที่มีเงินในบัญชีอยู่เพียง 5,000 บาท คุณจะกล้าเข้าหาเขาหรือเธออย่างชัดเจน แต่ครั้นเวลาผ่านไป ความรู้สึกที่ต้องแบกความรับผิดชอบครอบครัวไว้บ่นบ่าตัวเองแต่เพียงผู้เดียวอาจมากขึ้น และเป็นไปได้สูงที่คุณจะเริ่มมองว่าเขาหรือเธอคนนั้นไม่คู่ควรกับคุณ

ทั้งสองแบบล้วนสั่นคลอนชีวิตความรักทั้งนั้น

มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

ความรัก กับ การเงิน

เงินซื้อความรักไม่ได้

ความรักแท้ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน

จริงหรือ…

รายได้ภายใต้มุมที่แตกต่างกันเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเกณฑ์ในการเลือกคู่ครอง ยิ่งคุณร่ำรวยมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีความมั่นใจและน่าดึงดูดมากขึ้นในเรื่องความรัก ในขณะที่คนที่เงินน้อย มักจะยอมแพ้เรื่องแบบนี้อย่างง่ายดาย

เพราะอะไร ก็ในเมื่อเงินซื้อความรักไม่ได้

คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อ E-Book

หลายคนอาจบอกว่าแค่นี้ก็พอแล้ว ความสุข ความรัก ความซื่อสัตย์ต่างหากที่สำคัญ ผู้เขียนไม่เถียงถ้าคำว่าพอมันพอจริง แต่จะพอได้มันก็ต้องมีพอใช่ไหม ถ้ามีไม่พอ ต่อให้บอกว่าพอ มันก็ไม่มีทางพอ

ความรักสำคัญกว่าเงิน

แต่ความรักจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าบัตรเครดิต ฯลฯ ไม่ได้

ความรักจ่ายค่าเทอม ค่ารักษาพยาบาลให้คนที่เรารักก็ไม่ได้

ความรักจ่ายบิลอะไรบนโลกใบนี้ได้บ้างนะ…

ในขณะที่บางคนบอกต่ออีกว่าถึงแม้เราจะมีน้อย แต่เราก็มีพลังวิเศษที่จะเคียงคู่และสู้ต่อไปด้วยกัน ก็อยากจะบอกว่าเป็นความคิดที่น่าชื่นชม แต่คนที่เขามีพอ เขาไม่จำเป็นต้องใช้พลังวิเศษอะไรแบบนี้เลยสักนิด