“ความลับ” ความสำเร็จ 4 ข้อนี้ คุณรู้หรือยัง?
คุณเคยรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวบ้างไหม?
คุณยังแบมือขอเงินพ่อแม่…ในบางจังหวะอยู่ไหม?
แล้วเพื่อนเก่าของคุณล่ะ ทำงานอะไร ได้เงินเดือนเท่าไร มีบ้านหรือยัง ซื้อรถรุ่นไหน?
บางคนเป็นนักธุรกิจร่ำรวย เงินเดือนไม่ต่ำกว่าแสน ซื้อบ้านด้วยเงินสด ผ่อนรถหรูจนหมดแล้ว
แล้วคุณล่ะ ไปถึงไหนแล้ว?

ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio จาก Pexels
คุณเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าทำไมคุณถึงไม่ประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่นเขาบ้าง ทำไมคุณต้องพยายามอย่างหนักกว่าคนอื่นกว่าเพื่อที่จะก้าวไปถึงเป้าหมายของคุณ จนบางครั้งคุณก็รู้สึกท้อ รู้สึกว่าตัวเองโง่ ไม่เก่ง น้อยใจในโชคชะตา และพาลเกลียดตัวเอง ทั้งที่คุณพยายาม ๆ ๆ ๆ จนถึงที่สุดแล้วก็ไม่วายที่จะตกลงมาเจ็บตัว
ว่าแต่คุณพยายามได้พอแล้วหรือ
แล้วพยายามด้วยวิธีใดกัน?
Tony Dzung ประธานบริษัท HBR Holdings ได้กล่าวถึงทฤษฎีแห่งความสำเร็จที่ว่าด้วย “ยิ่งคุณรู้สึกถึงตัวเองมากเท่าไหร่ อนาคตคุณก็ยิ่งก้าวหน้ามากเท่านั้น” ประกอบไปด้วย 4 วิธี ที่คุณสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อความสำเร็จของคุณได้ด้วยตัวเอง ดังนี้

Tony Dzung ประธานบริษัท HBR Holdings
1. ผู้ที่มีความเข้มแข็ง มักเป็นผู้ที่รู้จักตนเองอยู่เสมอ
การเจรจาที่เมืองฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1945 หลังจากเจียง ไคเช็ก (Chiang Kaishek) อดีตประธานาธิบดีแห่งไต้หวัน พบกับเหมา เจ๋อตุง (Mao Zedong) อดีตประธานาธิบดีแห่งคอมมิวนิสต์จีน เขาเคยพูดกับเลขาส่วนตัวของเขาว่า “เราไม่สามารถดูถูกคนอย่างเหมา เจ๋อตุง ได้เลย เขาเป็นคนที่สูบบุหรี่จัดมาก แต่หลังจากที่เขารู้ว่าผมไม่สูบบุหรี่ ในขณะที่เราสนทนากัน เขาก็ไม่ได้หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นจงอย่าดูถูกความมุ่งมั่นและจิตใจอันแข็งแกร่งของเขาเด็ดขาด”
Tony Dzung ยังกล่าวอีกว่า “เมื่อก่อนผมคิดบ่อย ๆ ว่าชีวิตนั้นสั้น ดังนั้นผมจึงพยายามที่จะใช้ชีวิตให้สนุกสนานอย่างเต็มที่ แต่หลังจากนั้นผมค่อ ยๆ เรียนรู้ตนเองและค้นพบว่า พฤติกรรมที่ไม่มีวินัยในตัวเองจะนําพาซึ่งความทุกข์มาให้ ดังนั้นอย่าให้ตนเองตกเป็นทาสของความต้องการมากเกินไป นั่นจะทําให้เราสามารถมีชีวิตที่เหนือกว่าคนอื่นได้”
2. ทําไมเราถึงต้องรู้สึกผิดกับตัวเอง?
อย่าคิดว่าความเก่งของคนอื่น เกิดขึ้นจากความมั่นใจในรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ความมั่นใจเกิดขึ้นได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง ไม่ใช่เพราะเงิน แต่คือความพยายามอย่างหนักเพื่อให้สามารถบรรลุความสําเร็จ
หากคุณใช้ชีวิตหรือทำงานโดยไม่คิดที่จะใช้ความพยายาม อาจดูเหมือนว่าคุณมีอิสระมาก แต่คุณจะค้นพบด้วยตัวของคุณเองว่านับวันคุณยิ่งใช้ชีวิตอย่างสูญเสียอิสรภาพ
โดยสิ่งที่เรียกว่าอิสรภาพในที่นี้ ไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากจะทำอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ แต่เป็นการให้คุณรู้จักตนเอง ยิ่งคุณรู้จักตนเองมากเท่าใด ก็ยิ่งมีอิสระในการแสดงออกมากเท่านั้น แต่ทั้งนี้ความพยายามและความสําเร็จควรมีสัดส่วนเท่ากัน การเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ควรมีความพอเหมาะพอดีด้วย
ยิ่งผู้คนรู้จักตัวเองมากเท่าใด พวกเขาก็จะเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริงมากเท่านั้น ดังนั้นอย่าเสียเวลาและพลังไปกับเรื่องไร้สาระ ตรงกันข้ามควรใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สําหรับตัวเองเพื่อให้ตัวเองมีความพยายามที่จะต่อสู้และลุกขึ้นมาอีกครั้ง

ภาพถ่ายโดย Brett Jordan จาก Pexels
3. เบื้องหลังของความสำเร็จคือความทรมานตัวเองเสมอ
มีหลายคนที่บอกว่าเราต้องรู้จักตนเอง แต่มีไม่กี่คนที่สามารถรู้จักตนเองได้จริง ๆ เหมือนกับการปีนภูเขาสูงที่ยิ่งเกือบถึงยอด แต่น้อยคนนักที่จะกัดฟันอดทนได้จนถึงจุดสูงสุด ความพยายามก็เช่นกัน
Theodore Roosevelt อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเคยกล่าวไว้ว่า “มีสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยทำให้เราสามารถมีชีวิตที่งดงามได้ สิ่งนั้นไม่ใช่พรสวรรค์ ไม่ใช่การศึกษา และไม่ใช่ IQ แต่เป็นการกระทํา”
ความเก่งและความสําเร็จทั้งหลายในโลกนี้ถูกแลกมาด้วยความพยายามอย่างหนัก
ความสําเร็จ 99% ในโลกนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เบื้องหลังของความสำเร็จคือความพยายามอย่างสม่ำเสมอโดยไม่สิ้นสุด
หลายคนอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนกันแต่มักจะอ้างเหตุผลว่าตัวเองยุ่งมากจนไม่มีเวลา แต่จริง ๆ แล้วที่ไม่มีเวลาเพราะต้องทำงาน รวมทั้งกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ เช่น กิน นอน และเล่น แต่ลองมาดูคนที่ประสบความสําเร็จทั้งหลายที่เราชื่นชม หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าทั้งวันพวกเขาไม่ได้เพียงแต่นั่งนับเงินอยู่ในสํานักงานเหมือนที่หลายคนยังจินตนาการอยู่?
Howard Schultz ผู้ก่อตั้ง Starbucks ตื่นตั้งแต่ตี 4 ครึ่งของทุกวันเพื่อรับประทานอาหารเช้าและอ่านหนังสือพิมพ์ จากนั้นจึงไปถึงสํานักงานเวลา 6:00 น.
Steve Jobs ตื่นนอนตอนตี 4 ทุกวันมาตั้งแต่เด็กและเริ่มทํางานเมื่อเวลา 9 โมงครึ่ง
Li Ka Shing นักธุรกิจชาวฮ่องกง ซึ่งมีอายุมากกว่า 80 ปี ตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าของทุกวัน เดินทางไปถึงที่สำนักงานเวลา 8 โมงเช้า นอกจากนี้เขายังมีนิสัยการอ่านหนังสือก่อนนอนอยู่เสมอ
Murakami Haruki นักเขียนนักเขียนชาวญี่ปุ่น เริ่มต้นอาชีพนักเขียนในวัย 30 ตลอดระยะเวลา 40 ปี ในการทำงานของเขา มีผลงานเขียนออกมาเป็นจํานวนมาก ด้วยเขามีนิสัยที่ต้องเขียนหนังสือวันละ 4,000 คํา หน้าละ 400 ตัวอักษร เขียนด้วยกระดาษทั้งหมด 10 แผ่นต่อวันจึงจะหยุด นอกจากนี้ทุกวันเขาใช้เวลาไปกับการวิ่ง ช่วยให้เขามีสุขภาพและจิตใจที่ดีพอที่จะเขียนผลงานที่ดีออกมา
4. รู้สึกดีกับตัวเองให้มากขึ้น
“สาเหตุของความเกียจคร้านเกิดจากข้อจํากัดในการรับรู้” เพราะยิ่งเรารู้สึกมีความสามารถในการรับรู้มากขึ้นเท่าใด ช่องว่างระหว่างตนเองกับคนอื่นก็กว้างมากขึ้นเท่านั้น
คนที่มีอิสระ เห็นความความเป็นไปได้ของทุกอย่างได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จะเป็นตัวกําหนดระดับของชีวิตและอาชีพของคนคนนั้น

ภาพถ่ายโดย Dennis Magati จาก Pexels
ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกใช้ชีวิตของตนเอง บางคนคิดว่าชีวิตนั้นสั้น ดังนั้นควรคิดบวกเข้าไว้ นั่นไม่เป็นไรเลย ชีวิตของคนที่อารมณ์ดีมักจะมีชีวิตที่ดีเสมอ เพราะเมื่อคุณรู้จักตนเอง คุณจะรู้ว่าตัวคุณต้องการอะไร อยากไปที่ไหน และเมื่อคุณพยายามอย่างหนักและสม่ำเสมอ โลกทั้งใบจะชื่นชมยินดีและมอบหนทางให้แก่คุณ
คนที่ประสบความสำเร็จ บินได้สูง ได้บินไกล คือคนที่อดทนและพยายามอยู่เสมอ
และยิ่งคุณจักตนเองมากเท่าใด คุณก็ยิ่งเป็นอิสระ
แล้วคุณก็จะประสบความสำเร็จมากเท่านั้น
มัวรออะไรอยู่เล่า เหลือเวลาไม่มากแล้ว ลงมือทำกันเลย!
บทความโดย: กองบรรณาธิการ
สำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels