ในวันที่ท้องฟ้ามืดมัว สภาพอากาศแปรปรวน ชวนให้คิดถึงชีวิตที่ไม่เป็นดั่งใจอะไรสักอย่าง ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมสิ่งที่ฝันมันมักไม่ค่อยเป็นใจ วันไหนที่คิดและวางแผนทุกอย่างไว้อย่างดี สุดท้ายมันไม่เคยเป็นตามแผนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ต่อให้ไม่ต้องตั้งใจจับตาหาจุดผิดมันก็แสดงผลขึ้นมาโดยที่เราไม่ได้รับเชิญอยู่ดี
ซึ่งสุดท้ายมันก็มักจะมาจบที่คำว่า “ชีวิตก็เป็นแบบนี้”
จนบางครั้งก็แอบคิดนะว่าทำไมเราต้องมายอมรับอะไรที่ไม่เป็นดั่งใจทุกครั้งด้วย เมื่อเราไม่พอใจอะไรบางอย่างเราต้องแสดงออกเพื่อที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่หรือ จะมาให้ยอมรับกับทุกเรื่องมันคงจะไม่ใช่แนวทางของชีวิตหรือเปล่า?
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย…
เชื่อว่าทุกคนไม่ว่าจะวัยไหนหรือทำอะไรอยู่ก็ตาม น่าจะมีวันที่ชอบที่สุดในตลอดหนึ่งสัปดาห์ อาทิเช่น บางคนชอบวันศุกร์ เพราะเป็นวันสิ้นสัปดาห์เตรียมฉลองสังสรรค์อย่างเต็มที่ตอบแทนที่เหนื่อยมาตั้งงหลายวัน หรือบางคนอาจจะชอบวันพุธ เพราะทำให้รู้ว่าเดินทางมาถึงครึ่งสัปดาห์แล้ว
สำหรับผม วันที่ชอบที่สุดก็นึกไม่ออกเหมือนกัน แต่วันที่ไม่ชอบที่สุดน่าจะเป็นวันพฤหัสบดี ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ให้คำตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม แต่ถ้าให้ลองวิเคราะห์แบบเร็ว ๆ คิดว่าน่าจะเพราะมันให้ความรู้สึกครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบถ้ามองย้อนกลับไปก็รู้สึกว่าเราเดินทางมาไกลแล้ว น่าจะถึงเวลาพักสักที แต่เมื่อมองไปข้างหน้าก็มีอีกตั้ง 1 วันที่คอยขวางทางความสุขอยู่ ทำให้ท้อใจบ้าง
อีกเหตุผลหนึ่งคือเพราะว่าวันนี้มักชอบเกิดเรื่องไม่คาดฝันหรือความผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นเหตุการณ์ที่หลายคนน่าจะเคยเจอ ประมาณว่าเราตั้งใจตื่นเช้ามาทำงานให้ไวขึ้นกว่าเดิม แต่เมื่อออกจากบ้านฝนกลับมาตกหนัก เกิดการตัดสินใจขึ้นว่าถ้าลุยออกไปยังไงสภาพก็ต้องมอมแมมแน่นอน แต่หากรอฝนหยุดก็เกรงว่าสุดท้ายจะมาสายเช่นเดิม หรือ วันนี้ตั้งใจจะไปซื้อขนมร้านอร่อยที่รอคอยมานาน พอมาถึงกลับพบว่าร้านปิดในวันนี้เสียอย่างนั้น (แล้วต้องมาปิดวันนี้พอดีด้วยนะ)
เหตุการณ์ประมาณนี้ก็น่าจะเป็นส่วนประกอบให้วันเหล่านั้นเป็นภาพจำที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่สำหรับผม และมั่นใจอย่างยิ่งว่าทุกคนต้องเคยเจอเรื่องราวพาเซ็งแบบนี้เสมอ แต่เมื่อผ่านไปมันก็จะกลายเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่งที่นำมาเล่าทีไรก็จะหัวเราะและสนุกไปกับมันทุกที
แต่เรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดคือเหตุการณ์ที่เล็กน้อยมาก เลยทำให้เกิดข้อสงสัยอีกอย่างหนึ่งว่าแล้วผู้คนที่เขาเจอเรื่องที่หนักกว่านี้ เข้มข้นกว่านี้ พวกเขามีวิธีอย่างไรในการรับมือกับปัญหาต่าง ๆ นั้นอย่างไร บางคนที่รับมือได้ไม่ดีก็คงแสดงออกในทิศทางที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่
ส่วนคนที่รับมือได้อย่างยอดเยี่ยม เขาคงต้องมีคู่มือของตัวเองที่พาผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากพวกนั้นมาได้ ก่อนที่จะกลายมาเป็นเขาหรือเธอในวันนี้
ถึงตรงนี้อยากชวนทุกคนมาตอบคำถามสั้น ๆ ข้อหนึ่งกันก่อน
“คุณว่าวันที่กลุ่มผู้สูงอายุมีความสุขมากที่สุดคือวันไหน” คำตอบคือ วันหยุดยังไงล่ะ
ถามว่าทำไมพวกเขาถึงต้องชอบวันหยุด ในเมื่อกลุ่มวัยนี้ส่วนใหญ่ก็น่าจะได้หยุดทุกวันอยู่แล้วหรือเปล่า นั่นหมายความว่าทุกวันก็คงเป็นวันหยุดของเขา ไม่ว่าจะวันไหนความรู้สึกก็น่าจะไม่ต่างกัน
แต่เพราะพวกเขาไม่ได้คิดเหมือนกับคนรุ่นใหม่ไง เมื่อถึงวันหยุดเหล่าหนุ่มสาวทั้งหลายมักจะมองหาสถานที่ท่องเที่ยวไว้เช็คอินกันอย่างสนุก ค้นหากิจกรรมนอกบ้านเพื่อใช้เวลาพักผ่อนอย่างคุ้มค่าที่สุด โดยที่เวลาเดียวกันพวกเขากำลังหลงลืมอะไรบางอย่างไป
มีอีกหลายชีวิตที่รอคอยการกลับมาของใครบางคน แต่ก็มักจะผิดหวังไปเป็นส่วนใหญ่ วันแล้ววันเล่า ถามว่าลึก ๆ อาจมีน้อยใจตัดพ้อบ้าง แต่พวกเขาเข้าใจดีเพราะมันคือการเติบโตในแต่ละช่วงอายุ และไม่มีเอ่ยปากบ่นออกไปสักคำ
ซึ่งสิ่งที่พวกเขาต้องการไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก ขอแค่เพียงทุกคนในบ้านกลับมากินข้าวพร้อมกันก็เท่านั้น มันก็ทำให้การผิดหวังมาทั้งวันหมดความหมายในทันที
เคยสังเกตไหมว่าความอดทนของแต่ละช่วงวัยมักไม่ค่อยเหมือนกัน ความเข้าใจที่ว่าผู้ใหญ่ส่วนมากมักควบคุมความรู้สึกได้เก่งกว่าวัยอื่น เพราะพวกเขาได้เรียนรู้ผ่านวัยเด็กมาแล้วว่าถ้าหากไม่อดทน ผลจะเป็นอย่างไร ซึ่งนำมาสู่ปัญหามากมายที่ตามมาภายหลัง
มันก็ทำให้นึกอะไรบางอย่างออกเหมือนกันว่า ชีวิตที่สมบูรณ์บางครั้งก็ต้องยอมผิดหวังบ้าง เพื่อที่จะให้คนอื่นได้สมหวัง เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า เราเคยทำให้ใครผิดหวังมาบ้าง นี่อาจเป็นการตอบแทนเล็กน้อยจากคนในวัยอย่างเรา
แต่ผู้ใหญ่บางคนก็อาจทำได้ไม่ดีเท่ากับเด็กบางคนด้วยซ้ำ มันคงจะดีมากถ้าทุกช่วงวัยจะหันหน้ามาแชร์ประสบการณ์ความคิดซึ่งกันและกัน และอยู่อย่างเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งขึ้น
เพราะความผิดหวังคือสิ่งที่ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว ครั้นจะให้รอการมาของความสมหวังอยู่ตลอดมันก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ อีกทั้งจะให้เข้าใจในทันทีก็ดูจะน่าขัดใจไม่ใช่น้อย
ฉะนั้น สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือให้เวลาสักระยะ การผิดหวังก็ไม่ได้หมายความว่าล้มเหลวสักหน่อย หรือความสมหวังก็ไม่ได้ถึงความสำเร็จทีเดียว ที่สำคัญคือผลที่ตามมาว่าเราจะมองเห็นเรื่องดีหรือเรื่องแย่ได้ก่อนกัน เพราะนั่นคือสิ่งที่วัดว่าเรากำลังสนใจกับอะไรอยู่จริง ๆ และสิ่งนั้นก็มักจะแสดงผลออกมาตามแบบฉบับที่เราคิดเอาไว้เสมอ
แล้วคุณ จะเลือกมองในแบบไหนกัน?
…
เรียบเรียงโดย: กฤตเมธ อันสมัคร
กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels