ถ้าการที่ปลาว่ายทวนน้ำเรียกว่าปลาที่แข็งแรง
สำหรับคนที่ทำอะไรสวนกระแสก็คงจะแข็งแรงไม่ต่างกัน
พูดถึงอาหารยอดนิยมในยุคสมัยแบบนี้ หนึ่งในใต้หล้าต้องยกให้ แซลมอน ที่ไม่ใช่แค่นิยมในบางประเทศ แต่ดังไกลไปถึงทั่วโลก สินค้าขึ้นชื่อจากต่างแดน คือวัตถุดิบชั้นเลิศของอาหาร
ที่ฮอกไกโดราว ๆ ช่วงตุลาคมถึงพฤศจิกายน นักท่องเที่ยวมักไปชมปลาแซลมอนว่ายทวนน้ำที่แม่น้ำโทโยฮิระ และแม่น้ำโคโตะนิฮัซซามุ ถือเป็นกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ทีเดียว
ความพิเศษของปลาแซลมอนยังมีให้พูดถึงอีกมาก กว่าที่จะกลายมาเป็นอาหารยอดนิยมที่มีมูลค่าสูง อาจคงเหมือนกับเรื่องราวของ Salmon House ที่มีอะไรน่าสนใจอีกมากกับการสร้างคอนเทนต์ที่โดนใจผู้ชม ด้วยความสนุกที่ไม่เหมือนใคร
Salmon House คือ Production House ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของคนสร้าง Content บนหน้าหนังสือ หันมาผลิตงานรูปแบบ Motion Content อย่างเต็มตัว เพื่อเปิดมุมมองใหม่
ภายใต้คอนเซปต์สุดเก๋อย่าง “Intellectual Badass”
ถ้าจุดเริ่มต้นของปลาที่สมบูรณ์ คือคุณภาพน้ำที่ใสสะอาด และธรรมชาติที่ปลอดภัย จุดเริ่มต้นของ Salmon House ก็มาจากรากฐานที่แข็งแรงอย่าง Salmon Books ที่คอยสนับสนุนเป็นเบื้องหลังที่มั่นคงมาโดยตลอด
ถึงจะเป็นการต่อยอดจากงานสำนักพิมพ์ แต่การจะสร้างสรรค์ให้ออกมาในรูปแบบใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องถนัดที่สุดเหมือนกัน
ต้องปรับแปรสารจากตัวหนังสือให้ออกมาเป็นสื่อในช่องทางอื่นไม่ง่าย โชคยังดีที่สุดท้ายคำว่า Content ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในวงการนี้เสมอ เพราะต่อให้วิธีการนำเสนอจะใหม่สักเท่าไหร่ หากข้อมูลที่จะสื่อไปยอดเยี่ยม ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว
คล้ายกับการต้องมานั่งวางระบบทำงานกันใหม่ ต้องเริ่มวางสตอรี่บอร์ด ขยายส่วนต่อจากงานรูปแบบหนังสือ ให้เป็นไวรัลที่ดูง่าย และคงคอนเซปต์สนุกอย่างมีสไตล์ของตัวเอง
เนื้อหาในพื้นที่ออนไลน์ถูกแบ่งออกเป็นสองช่องทางหลัก คือ หนึ่ง แฟนเพจของ Salmon House กับสอง ยูทูปแชนแนลของSalmon โดยตรง นี่คือพื้นที่หลักที่ไว้เผยแพร่ชิ้นงานสู่สังคม
สำหรับโปรดัคชั่นเฮาส์ที่มุ่งผลิตงานที่มีสาระความรู้แถมสอดแทรกด้วยความบันเทิง ก็ดูจะธรรมดาทั่วไป แต่ความต่างของ Salmon House คือการนำเสนอในรูปแบบที่สวนกระแสจากเดิม ใช้ความเรียลเข้ามาเป็นสื่อให้คนเชื่อถือ
ยกตัวอย่างหนึ่งผลงาน เป็นโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง หากเป็นภาพแรกที่นึกถึงคงต้องให้หนุ่มสาวมาแต่งตัวจัดเต็ม แล้วรีวิวเครื่องสำอางเพื่อเสริมความมั่นใจให้กับผู้ใช้
แนวทางการทำงานที่นี่ไม่ใช่แบบนั้น
สุดท้าย เขานำเสนอในอีกมุมหนึ่ง เลือกหยิบประเด็นการเสริมความงามในช่วงวัยเรียนมาดำเนินเรื่อง ผ่านการถ่ายทอดอย่างเรียบง่ายทันยุคสมัย และยังคงไม่ลืมใส่ความสนุกลงไป
ก่อนที่สุดท้ายจะทิ้งด้วยไพ่ตาย คือคำคมที่ตีแผ่สะท้อนสังคมให้แง่คิดต่างๆ ถึงการเข้าใจในความสวยงามของแต่ละคนที่ต่างกัน
จึงทำให้หลายคนมองว่าเป็นการโฆษณาที่อินดี้ ดูมีสตอรี่ที่ลึกซึ้งมากกว่าจะโชว์สินค้าแล้วประกาศขายกันโต้งๆ อาจเรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดแนวใหม่ที่เข้ากับคนรุ่นปัจจุบันที่เมื่อทำอะไรจำเป็นต้องอาศัยเรื่องราวในการตัดสินใจ
ทางฝั่งลูกค้าที่เข้ามาจ้างก็คงจะต้องชอบในความกล้าทำอะไรที่แตกต่าง เพื่อดึงจุดเด่นที่ชัดเจนออกมา จนบางครั้งแค่ดูคลิปสั้นๆก็สามารถรู้ได้เลยว่านี้คือผลงานจาก Salmon House
เป็นอีกแนวทางหนึ่งของวงการโฆษณาที่มีชั้นเชิงกว่าการเล่าเรื่องแบบปกติ ดึงดูดความสนใจในทันทีที่เข้าไปดูได้เลย
ถึงแม้จะเป็นการเล่าเรื่องผ่านวิดีโอ อาจจะต่างจากตัวหนังสือ ใส่อารมณ์ความรู้สึกได้มากขึ้น จุดน่าสังเกตคือแต่ละคลิปจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง!
สามารถสื่อสารได้อย่างตรงประเด็นโดยมีเรื่องราวสอดแทรกอยู่ด้วย ผู้ชมก็รู้ดีว่านี่คือการขายของ ด้วยเหตุผลทางด้านเวลาก็ดีหรือความครีเอทีฟก็ดี ทำให้มัดใจคนดูได้สบายมาก
และอย่างที่ว่าไป รายได้ก็มาจากสปอนเซอร์ที่เข้ามาซื้อโฆษณา สำคัญอยู่ตรงเมื่อรับงาน ได้มีการคิดและนำเสนอในรูปแบบใหม่ จุดนี้ทำให้หลายสินค้าที่อาจจะเกาะกลุ่มวัยรุ่นจนถึงวัยกลางคนเลือกใช้เป็นสื่อกลางส่งสารในรูปแบบที่น่าสนใจ
ถามว่ากำไรมหาศาลจนเป็นเบอร์หนึ่งของวงการนี้เลยไหม ก็อาจจะไม่ ด้วยความที่เป็นหนึ่งในเครือขององค์กร เส้นทางหลักคงต้องเป็นสำนักพิมพ์ หนังสือ ต่างๆ
คงเป็นเรื่องของการสร้างฐานที่มั่นคง ถึงจะไม่ใช่เป้าหมายหลักแต่ถือเป็นส่วนต่อขยายที่แข็งแรง จนวันนี้ต้องยอมรับว่า งานแต่ละชิ้นที่ออกไป เป็นที่จับตามองของกลุ่มคนมากขึ้นในทุกครั้ง
เป้าหมายที่แท้จริง อาจจะยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งของวงการโฆษณาในเวลานี้ แต่หากเทียบกับองค์กรที่ใกล้เคียงกัน ก็ถือเป็นทีมที่มีแขนขาที่มั่นคงในแนวทางจากตลาดพอสมควร
เมื่อปัญหาเข้ามากระทบ หลายองค์กรก็ต้องหาทางเอาตัวรอดจากวิกฤตครั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบนำเสนอคือสิ่งที่ Salmon เลือกใช้ การสร้างชุมชนทางด้านคอนเทนต์ให้แข็งแรง จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่พาผู้คนให้เข้ามารู้จักกับที่นี่มากขึ้น จนเป็นองค์กรที่แข็งแรงแบบทุกวันนี้
เรื่องนี้ทำให้คิดได้ว่า การจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์แย่ๆ ไม่ใช่การหนีปัญหาแล้วเริ่มต้นกับทางใหม่เสมอ
แต่อาจเป็นการปรับตัวเข้ากับปัญหา และหาช่องทางที่สอดรับกับปัจจุบันมากที่สุดมากกว่า..
…
เรียบเรียงโดย : กฤตเมธ อันสมัคร
กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: Pexel