เอาชนะอุปสรรคในการเปลี่ยนเส้นทางอาชีพหลังอายุ 30
นับตั้งแต่อายุ 30 การเปลี่ยนเส้นทางอาชีพเป็นการตัดสินใจที่ยากมากและเสี่ยงมาก อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่างบางครั้งเราก็ถูกบังคับให้เลือกทิศทางใหม่ ๆ แม้ว่าตัวเราเองจะมีความคิดติดกับงานและวิธีทำงานแบบเก่าๆ แล้วคุณจะทําอย่างไรเพื่อให้คุณสามารถเดินบนเส้นทางอาชีพที่แปลกใหม่ได้อย่างมั่นคง โดยไม่ต้องเผชิญกับสิ่งกีดขวางมากเกินไป? นี่คือคําตอบ!

ภาพถ่ายโดย Karolina Grabowska จาก Pexels
1. เปลี่ยนอาชีพอย่างไรให้สอดคล้องกับลักษณะและองค์ประกอบของแต่ละบุคคล
ลักษณะขององค์ประกอบแต่ละบุคคลถือว่าเป็นรากฐานเพื่อให้คุณเข้าถึงงานใหม่ได้ ดังนั้นเมื่อคุณเปลี่ยนงาน คุณจะพบกับข้อเสียที่ใหญ่มากคือคุณรู้ไม่รอบ ทักษะที่มีในวันนี้ใช้กับงานในอนาคตไม่ไดั ดังนั้นคุณจําเป็นต้องใช้ประโยชน์จากการทำ SWOT ตัวเองด้วยการระบุจุดแข็งจุดอ่อนของคุณให้ละเอียดที่สุด แล้วหางานที่แม้ว่าความรู้ของคุณจะไม่สมบูรณ์ แต่ข้อดีที่คุณมีมันสามารถช่วยยันไว้ได้ คุณจะปรับตัวกับงานใหม่นั้นได้ง่าย
ยกตัวอย่างเช่นคุณเป็นคนที่มีความสามารถในการแสดงออก มีทักษะทรงการสื่อสารที่ดีมีความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร และมีวิธีคิดที่ลึกซึ้ง คุณสามารถเปลี่ยนไปรับบทบาทของใหม่ในฐานะนักเขียนหรือเป็นครีเอเตอร์ในโลกดิจิตัล แม้ว่าก่อนหน้านี้คุณจะเป็นนักบัญชีมาก็ตาม

ภาพถ่ายโดย fauxels จาก Pexels
2. มีทักษะที่จําเป็นเต็มรูปแบบ
อาชีพที่แม้ว่าจะแตกต่างกัน 180 องศา แต่ระหว่างงานแต่ละอย่างก็ยังมีความคล้ายคลึงกัน นั่นคือการอยากจะทํางานให้ดีคุณต้องเป็นเจ้าของทักษะบางอย่าง จริง ๆ แล้วคนที่มีทักษะมักจะมีโอกาสเป็นพนักงานที่ดี และปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนร่วมงานในบริษัทมากกว่าคนที่เก่งแต่ด้านวิชาการ
นอกจากนี้นายจ้างยังให้ความชื่นชอบมากขึ้นหากผู้สมัครของเขาเป็นมีทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์ มีความรักต่องานที่พวกเขาสมัคร หากใครมีทักษะที่จําเป็นต่องาน และตัวเองมีทัศนคติที่ดีต่องาน หนทางสู่ความสําเร็จจะมีอุปสรรคน้อยลงมาก
3. มุ่งเน้นสร้างแบรนด์ของตัวเอง
จากการสํารวจ นายจ้างส่วนใหญ่คิดว่ามีโอกาสน้อยมากสําหรับคนอายุ 30 ปี ที่จะเข้ามาทํางานในบริษัทที่มีตําแหน่งงานระดับเริ่มต้น ดังนั้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตัวเองเมื่อสมัครงาน คุณต้องรู้จักทําให้ตัวเองแตกต่างในทิศทางบวก
วิธีการสร้างแบรนด์ของตัวเองมีหลายวิธี ในยุคนี้มีวิธีการที่ง่ายแต่ให้ผลสูงคือการใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลน์ คุณรู้ไหมว่านายจ้างเกือบจะทุกคนจะ ′′ส่อง′′ โปรไฟล์ของคุณอย่างน้อยหนึ่งรอบเพื่อทําความรู้จักคุณให้มากขึ้นผ่านเทรนด์การใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ดังนั้นจงมั่นใจว่าโปรไฟล์ของคุณ ′′ดีพอ′′ ที่จะสะท้อนภาพลักษณ์ที่สวยงามความเป็นมืออาชีพในแบบที่คุณต้องการ

ภาพถ่ายโดย Polina Tankilevitch จาก Pexels
4. เรียนรู้ไม่หยุดสะสมความรู้
ความกลัวที่ใหญ่ที่สุดของคนส่วนใหญ่ที่มีความตั้งใจที่จะทํางานที่ไม่ตรงกับสายงานที่ร่ำเรียนมา คือตัวคุณเองที่ขาดความชํานาญไม่รู้ว่าคุณจะจัดการกับการทํางานอย่างไรทั้งปริมาณความรู้ที่คุณมีเกี่ยวกับมันนับได้แค่ปลายนิ้ว ..
อย่างไรก็ตามในวันนี้ด้วยการพัฒนาอินเทอร์เน็ตที่แข็งแกร่งคุณสามารถเรียนรู้ความรู้พื้นฐานได้ด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์ ช่อง youtube,… ฯลฯ จากนั้นอ้างอิงเพิ่มเติมจากผู้มีประสบการณ์ ขยันอ่านเพิ่มเติม มีเอกสารมีความรู้มากมายให้เรียนรู้ในโซเชี่ยล หากมีเวลาก็สามารถเข้าร่วมการอบรมระยะสั้น,… เมื่อคุณทําได้ข้างต้นคุณจะสะสมความรู้พื้นฐานเพื่อก้าวเข้าสู่อาชีพโดยไม่ต้องกลัวเรื่องปมด้อยอีกต่อไป..

ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
5. วางแผนรับมือหากมีความเสี่ยงและเตรียม ′′ค่าใช้จ่ายสํารอง′′ ให้เพียงพอ
อัตราความเสี่ยงในการเปลี่ยนเส้นทางอาชีพที่แท้จริงมีไม่ใช่น้อย ดังนั้นก่อนจะทํามันคุณต้องมีทางเลือกในการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ในกรณีที่หลังจากความพยายามและความพยายามมานานคุณอาจยังไม่สำเร็จ และยิ่งนาน รายได้ที่สะสมก็ทยอยหมด
เงินยิ่งหมดยิ่งขาดความมั่นใจ
ถ้าต้องการเปลี่ยนงาน คุณจึงต้องมีเงินสำรองที่จะเลี้ยงตัวเองได้อย่างน้อย 1 ปี
เมื่อพิจารณาแล้วแม้ว่าจะลาออกจากงานเก่าๆเพื่อ ′′สร้างชีวิตใหม่′′ ในวัยหลัง 30 เป็นการทดสอบที่ใหญ่มากแต่ “อยู่ผิดที่ผิดเวลามันไร้ค่ามาก”, หากคุณมีความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่ก้าวไปข้างหน้า จะต้องมีวันของคุณ!
. . .
ขอบคุณภาพประกอบจาก www.pexels.com
กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ 7D Book & Digital