“ถ้าไม่เริ่มต้นวันนี้ จะไม่มีทางสำเร็จในวันพรุ่งนี้”
“เป้าหมายยิ่งชัด ยิ่งประหยัดเวลาเดินทาง”
“ความสำเร็จ มีไว้สำหรับคนที่ไม่หยุดเดิน”
ประโยคเหล่านี้ เชื่อได้เลยว่าหลายคนจะต้องเคยคิดว่านี่เป็นประโยคขายฝันเท่านั้น ไม่สามารถทำได้จริงหรอก เพียงแค่ตั้งขึ้นมาให้ดูดี ไว้พูดกันในวงเพื่อนประมาณนี้ใช่ไหม
ซึ่งเราก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น…
แต่เมื่อลองมาวิเคราะห์ สังเกตอีกที ดูเหมือนว่านี่มันก็เป็นประโยคธรรมดาที่ออกจะเมคเซ้นส์ด้วยซ้ำไป ทีนี้ก็ย้อนกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่า หรือสาเหตุว่าที่เราไม่เชื่อ นั่นอาจเป็นเพราะเรายังไม่เคยเห็นผลของมันด้วยตาของตัวเอง
หรือถ้าอย่างนั้น การที่เราจะมองว่าเป็นเรื่องของการขายฝัน ก็อาจจะไม่ผิดอะไรเลย เพราะทุกวันนี้เราทุกคนก็ใช้ชีวิตโดยมีจุดมุ่งหมายคือการไปให้ถึงความฝันกันอยู่แล้วนี่
ทุกคนมีความฝันด้วยกันทั้งนั้น เพียงแค่เล็กน้อยต่างกันไป บ้างฝันอยากจะเป็นเศรษฐี ฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือแม้แต่อาจฝันแค่เพียงขอให้ครอบครัวได้อยู่พร้อมกันอีกครั้งก็พอ
แต่จะมีสักกี่คนที่พาตัวเองไปถึงจุดนั้นได้ เพราะถ้าเกิดว่าทุกคนสานฝันให้ตัวเองได้สำเร็จ คิดสิ่งใดก็สมปรารถนาไปเสียหมด โลกใบนี้คงจะไม่รู้จักกับคำว่า “ผิดหวัง”
แน่นอนถ้าหากวัดสัดส่วนของผู้คนที่วิ่งไล่ตามความฝันและได้อย่างใจหวังทุกประการ ย่อมมีน้อยกว่า ผู้ที่ผิดหวังอยู่แล้ว
บางคนจึงเลือกจะที่วางแผนเอาไว้ทุกอย่าง เพื่อลดความเสี่ยงในการผิดหวัง และเพื่อให้เส้นทางไปต่อได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ถึงแม้เราจะพยายามป้องกันจากทุกทางแค่ไหน สุดท้ายโอกาสที่ผิดหวังก็ยังมีเปอร์เซ็นต์ที่มากอยู่ดี นั่นหมายความว่าต่อให้มีแผนรองรับมากแค่ไหน ก็ไม่พอให้เจอความสำเร็จอยู่ดี
หรือความจริง หน้าตาของความสำเร็จที่ว่า มันอาจจะไม่ต้องมาจากการวางแผน แต่มันมาจากโชคชะตา เวลา และโอกาสต่างหาก ที่จะเป็นทางลัดให้เจอเส้นทางได้รวดเร็วกว่า
ซึ่งถ้าเกิดคิดแบบนั้น สถานการณ์ก็คงจะไปกันใหญ่ เพราะเมื่อความหวังสุดท้ายคือการพึ่งในสิ่งที่มองไม่เห็น ก็ไม่รู้ว่าต้องรอนานแค่ไหน กว่าจะเป็นวันของเราสักที
มาถึงตรงนี้ เส้นทางของการสานฝันให้สำเร็จของตัวเอง ยิ่งดูไกลขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีก็แอบน้อยใจเหมือนกันว่า ชีวิตนี้เราจะไม่เจอความสำเร็จจริงเหรอ เพราะทำอะไรก็คงต้องผิดหวัง
จากการสังเกตผู้ที่ประสบความสำเร็จชั้นนำทั้งระดับประเทศหรือระดับโลกหลายคน พบว่าสุดท้ายสิ่งที่พาพวกเขามาถึงจุดนี้ได้ นั่นก็ย้อนมาที่ “ความสามารถ” อยู่ดี
จริงอยู่ว่าแต่ละคนพื้นฐานไม่เท่ากัน บางคนจน บางคนรวย และถึงแม้หลายคนที่เราเห็นตามหน้าสื่อ มักจะมีเส้นทางโดยการไม่มีแผน ผจญภัยจนไปเจอหนทางที่ต่อยอดได้
พวกเขาก็สามารถเอาตัวรอดมาจนได้ ทั้ง มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ,บิล เกตส์ ,สตีฟ จ็อบส์ ,แลร์รี่ เอลลิสัน และอีกมากมาย
ภายนอกเส้นทางชีวิตของคนเหล่านี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีแผนที่ชัดเจน แต่แท้จริง พวกเขาได้สร้างทางรอดให้ตัวเองอยู่เสมอ เพียงแค่ไม่แสดงออกมา แต่สิ่งนั้นยังคงทำงานอยู่ในหัวตลอด
พวกเขารู้ว่าอะไรคู่ควร จังหวะไหนควรจะทำอะไร และที่สำคัญไม่เคยกลัวที่จะกล้าเผชิญหน้ากับมัน
เมื่อสิ่งต่างๆเข้ามามีบทบาทกับความสำเร็จ สิ่งที่ต้องอย่าลืมสำคัญที่สุดคือ ความตั้งใจ เพราะความสามารถของคนสร้างกันได้จากความตั้งใจ นี่จึงเป็นกุญแจสำคัญที่หลายคนลืมไป
การรู้จักวางแผนเพื่อประเมินความเสี่ยงในสถานการณ์ข้างหน้าถือเป็นเรื่องน่ายกย่อง แต่จะดีกว่าถ้าหากเรารู้ตัวเองว่าเรามีดีอะไร สิ่งไหนที่เราพร้อม และแสดงตรงนั้นออกมาให้ดีที่สุด
เพราะหลายคนกลับทำหน้าที่ให้เกินความสามารถ จากที่จะเด่นอะไรสักอย่างหนึ่ง พอทำหลายอย่างพร้อมกัน ทุกอย่างก็ปรวนแปรไปหมด หาจุดเด่นที่มีแทบไม่เจอ
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการวางแผนที่แยบยล หรือมีความสามารถที่เหลือล้น จำเป็นอย่างยิ่งที่สองอย่างนี้จะต้องพึ่งพาอาศัยไปควบคู่กัน นี่คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
สุดท้ายคุณค่าของใครสักคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเขาคนนั้นมีความฝันมากเท่าไหร่ หรือฝันนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน ขอเพียงถ้ามั่นใจว่าเรามีความสามารถ ต่อให้ฝันนั้นจะเล็ก ก็ยังคงคุณค่าเสมอ
คุณค่าของความสำเร็จ มันจะหอมหวานหรือมันจะขมปลาย ขึ้นอยู่กับว่าเรามีวิธีการอย่างไรจะพาตัวเองไปถึงจุดนั้นได้ดีที่สุด ซึ่งทุกวิธีก็ไม่ได้เหมาะกับคนทุกคนเสมอไป
อย่างน้อยถึงแม้หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าถึงตรงนี้จะเริ่มต้นอย่างไรดี อาจเริ่มง่ายๆจากการวางแผนเส้นทางเพื่อลดความเสี่ยงของตัวเอง ทางไหนที่ดูจะไม่มั่นคง ก็จงหลีกเลี่ยง
ที่สำคัญต้องรู้จักตัวเอง พาตัวเองไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แล้ววันหนึ่งที่หันมามองประโยคที่กล่าวในตอนต้น ก็จะพบว่าสิ่งเหล่านั้น ไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย…
…
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ภาพประกอบจาก : Pexel