การจะเป็นคนสำคัญต่อทุกคนในสังคมช่างเป็นเรื่องที่น่าวิเศษ เพราะรอยยิ้มก็ยังคงมีคุณค่ามากกว่าสายตาที่จ้องจะอิจฉาตาร้อน จับผิด หรือไม่หวังดีต่อกันอย่างสารพัด
เพราะเหตุนี้เองทำให้หลายคนเลือกที่จะต้องการครองตำแหน่งเป็นผู้ที่แสนดีในสังคมของตัวเอง เพื่อที่ลึกๆแล้วยังคงมีหวังว่าให้ทุกคนใจดีกับตัวเราและเป็นที่ต้องการตลอดเวลา
ความฝันกับความเป็นจริงอาจไม่ไปในทางเดียวกัน มีหลายคนที่มองเห็นในความดีที่เราทำ แล้วพร้อมจะตอบแทนคืนเมื่อเขาเหล่านั้นมีโอกาสทุกครั้งด้วยความจริงใจ
แต่ในสังคมจริงๆมีผู้คนอีกหลายประเภทที่ไม่มองว่าเป็นสิ่งที่ต้องทดแทน เพียงแค่ต้องการรับมาฝ่ายเดียวก็พอแล้ว อาจจะทำให้บางคนที่รอการตอบแทนต้องผิดหวังอยู่ซ้ำไป
คงไม่มีใครลืมคนที่ทำไม่ดีกับตัวเองได้ลง ในทางกลับกันก็อาจไม่มีใครจำตอนที่เราไปทำดีกับใครเช่นกัน นี่คือเรื่องธรรมชาติ
สิ่งที่อยากจะบอกคือ ต่อให้เราพยายามใจดีกับทุกคนหรือกับโลกใบนี้เท่าไหร่ก็ยังมีโอกาสจะต้องเจ็บช้ำน้ำใจอยู่ดี แต่หากเราใจดีกับตัวเองบ้าง ต่อให้ต้องเสียใจก็พร้อมจะยินดี
ถ้าภาพลักษณ์ที่ดูเป็นกันเองตลอดเวลา มันกลับทำให้เราเป็นคนอื่น มันก็คงเป็นแค่สิ่งที่เราอยากให้คนอื่นมอง ไม่ใช่สิ่งที่สุดท้ายในใจของเราต้องการทั้งหมด
ไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องเข้าใจการกระทำของทุกคน ถึงจะพยายามมากเท่าไหร่ก็เป็นเรื่องยากที่จะเข้าไปถึงส่วนลึกของหัวใจคนๆนั้น บางครั้งเข้าใจเท่าที่จะทำได้ก็คงจะดีที่สุดแล้ว
ในโลกของภาพยนตร์ หนึ่งตัวละครที่พูดถึงการแสดงออกในสังคมได้อย่างลึกซึ้งและน่าสนใจคือ “มิสเตอร์บีน”
พูดถึงทีไรจำต้องนึกถึงชายวัยกลางคนหน้าตาย ที่กลายเป็นไอคอนความตลกของคนทั่วโลกไปโดยปริยาย เรื่องราวสุดธรรมดาที่ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่เหนือการคาดเดา จากการต่อยอดประเด็นทั่วไปให้โด่งดังไกลถึงระดับโลก
สิ่งที่มิสเตอร์บีนพบเจออาจมีความคล้ายและไม่คล้ายเลยกับชีวิตจริงของ โรแวน แอตคินสัน นักแสดงมากบทบาทผู้ฝากภาพจำจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความตลก
สิ่งที่คล้ายคือวัยเด็กของโรแวน ค่อนข้างเป็นคนขี้อายพอสมควร ซึ่งนี่ก็คงทั่วไปถ้าเกิดเขาไม่ได้ถูกเพื่อนบ้านล้อกันตามประสาถึงเรื่องการพูดที่ติดอ่าง นั่นส่งผลต่อความมั่นใจอย่างมาก
โชคยังดีที่เขามีความคิดและครอบครัวที่คอยให้กำลังใจและส่งเสริมอยู่ตลอดทำให้เขาเริ่มรู้วิธีรับมือกับสถานการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ปรับตัว แก้ไข จนคุ้นชินและผ่านมาจนได้
สำหรับมิสเตอร์บีนก็เช่นกัน ด้วยบุคลิก ท่าทางที่ดูจะเปิ่นๆก็ทำให้มักจะไม่ใช่เป้าสายตาของสังคม ซึ่งในความเป็นคนธรรมดานี่แหละ ก็ย่อมเต็มไปด้วยความประหม่าที่ไม่อาจเก็บซ่อนได้
สิ่งที่น่าสนใจ คือทั้งสองคนทั้งโรแวนและมิสเตอร์บีน มีวิธีรับมือกับเรื่องราวที่ต้องเจอมากมายง่ายๆ คือเพียงแค่มองตัวเองและสนใจในสิ่งที่ทำมากกว่าสนใจคนอื่น ถึงเสียงรอบข้างจะดังสักแค่ไหน ก็ไม่อาจกลบเสียงที่อยู่ในใจของตัวเองได้
และสิ่งที่พบก็คือ สำหรับโรแวน เขาก็ได้ถ่ายทอดในหน้าที่นักแสดงของเขา จากคนที่ไม่มีความมั่นใจ โดนล้ออย่างสนุกปาก ก็พลิกผันสู่ตัวท็อปแห่งวงการที่แค่เห็นหน้าก็รู้จักทันที
แต่ในความคล้าย สุดท้ายก็แตกต่างอยู่ดี เพราะในท้ายที่สุด มิสเตอร์บีนเอง ก็เป็นเพียงหนึ่งตัวละครเท่านั้น ต่อให้จะเจอเรื่องร้ายแค่ไหน ก็มักจะผ่านไปได้ด้วยดีอยู่เสมอ
แน่นอนในชีวิตจริงไม่มีใครเขียนบทให้ ทุกอย่างมาจากเหตุผลของการกระทำเสมอ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เจอเรื่องแย่จะได้ทางออกที่สมบูรณ์และจบอย่างสวยงามอยู่ตลอด
หรือแม้แต่คนที่ทำดีมาสม่ำเสมอ ก็ไม่ใช่จะได้เป็นพระเอก-นางเอก บทสรุปคือ ทุกคนก็จะได้เป็นตัวเองในแบบที่ไม่มีใครรับรู้นอกจากตัวเราทุกคนเอง นี่ต่างหากคือชีวิตที่ไม่มีบท
ทุกอย่างที่วนเวียนเข้ามา คงต้องมองอย่างเข้าใจ ยอมเสียใจบ้าง ดีใจบ้าง เพื่อให้ยังรู้ว่าอย่างน้อย เราก็ยังคงมีความรู้สึก
หากคนบางคนที่เคยรัก เคยดีกับเรา ในวันนี้เขากลับไม่เป็นอย่างที่เคยทำให้เห็นเอาไว้ในตอนแรก
เขาโกหก ทำร้ายจิตใจเราซ้ำๆ จะทำอย่างไรดีกับชีวิต ให้โอกาสเขามาหลายหน สุดท้ายก็กลับไปเป็นแบบเดิม
คำตอบง่ายๆคือ เราต้องหยุดให้โอกาสคนอื่น แล้วกลับมาให้โอกาสตัวเองสักที ที่สำคัญต้องยอมรับความจริงให้ได้
ความจริง คือ สิ่งที่เขาเป็น เขาอาจไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแค่เราได้รู้จักตัวตนของเขาอีกด้านที่เราไม่เคยรู้ เขาแค่แสดงธรรมชาติของเขาออกมาให้เราเห็น จากนั้นอยู่ที่เราจะเลือก ว่าอยากมีชีวิตต่อไปแบบไหน
ความจริง คือ การกระทำของเขามาจากเนื้อแท้ ตัวตนของเขาที่ถูกหล่อหลอมมา และไม่ว่าเขาจะถูกหล่อหลอมมาจากอะไรก็ตาม มันไม่เกี่ยวกับเรา คุณค่าในตัวเรายังอยู่เหมือนเดิม
ความจริง คือ สิ่งที่เขาเป็นมันมาจากความอ่อนแอจากข้างใน เพราะคนที่แข็งแรงมั่นคงจริง จะไม่ไล่ล่าหาความรักไปเรื่อยๆ
ในทางตรงกันข้ามเขาจะกล้าเผชิญกับความเป็นจริง และถึงแม้ว่าหากเราเป็นคนที่ไม่ใช่สำหรับเขา เขาก็จะปฏิบัติกับเราอย่างให้เกียรติ จัดการทุกอย่างๆที่ควรจะเป็นด้วยความซื่อตรง
และสิ่งที่สำคัญข้อสุดท้าย คือ ขอให้ค้นหาความจริงจากตัวเอง หากเรายังยึด ยังปล่อยสิ่งที่ให้โทษกับชีวิตเราไม่ได้ แปลว่าเรามีบางอย่างภายในที่ไม่มั่นคงเช่นกัน
วันนี้หยุดให้โอกาสคนที่จะเข้ามาทำร้ายเรา และในทางกลับกันขอให้ๆโอกาสกับตัวเอง ในการเริ่มต้นใหม่
ยอมรับความจริงให้ได้ หยุดค้นหาคำตอบว่าทำไมเขาถึงเป็นอย่างนี้ ให้หาคำตอบจากใจตัวเองว่าทำไมเราถึงยังยอมให้เขาทำร้ายเราซ้ำๆ เรากลัวอะไรที่จะกลับมารับผิดชอบชีวิต และความรู้สึกตัวเอง
สิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้เราได้กลับมาย้อนมองสิ่งที่อยู่ภายในใจเรา ส่งความรัก และกำลังใจถึงทุกคนให้ข้ามผ่านเรื่องยากไปได้ และได้พบกับความสุข มีรักแท้ที่สมบูรณ์ สวยงาม
…
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: Pexel