“พยายาม” “ลุกขึ้นเมื่อคุณล้มเหลว” และ “เริ่มทำงานอีกครั้ง” นี่คือสิ่งที่ อีลอน มัสก์ บอกกับคนอื่นเสมอ
วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก (อันดับหนึ่งคือ เจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos) เจ้าของและผู้ก่อตั้ง Amazon เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา)
ชื่อของเขาก็คือ “อีลอน มัสก์” (Elon Musk) ผู้เป็นทั้งเจ้าของบริษัท “Tesla Motors” บริษัทผลิตนวัตกรรมยานยนต์สุดล้ำ และเจ้าของบริษัท “SpaceX”บริษัทขนส่งทางอวกาศที่ส่งจรวดไปท่องอวกาศนอกโลก รวมทั้งบริษัทอื่น ๆ อีกมากมาย

Elon Musk รูปภาพจาก www.nytimes.com
กว่าอีลอน มัสก์จะมาถึงจุดนี้ได้ เขาต้องเผชิญกับความล้มเหลวและเกือบจะล้มละลายมานับครั้งไม่ถ้วน รวมทั้งเคยถูกไล่ออกจากบริษัทที่เขาสร้างมากับมือ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นบุคคลที่ติดอันดับท็อป 10 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เขาทำได้อย่างไร?
ทุกอย่างเริ่มต้นด้วย Mindset ง่าย ๆ นั่นก็คือ “พยายาม” “ลุกขึ้นเมื่อคุณล้มเหลว” และ “เริ่มทำงานอีกครั้ง”
อีลอน มัสก์ เคยได้รับการขนานนามว่าเป็น “Iron Man” ซูเปอร์ฮีโร่ที่สามารถทำสิ่งพิเศษต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติวงการการเงินและการลงทุน (บิตคอยน์) การประดิษฐ์รถยนต์ไฟฟ้าที่ไร้คนขับ หรือแม้กระทั่งการพิชิตดาวอังคาร อีลอน มัสก์ก็ทำมาแล้ว และทำได้ 100% อีกด้วย

Elon Musk รูปภาพจาก www.cnbc.com
ก่อนที่เขาจะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยที่สุดในโลกเท่าทุกวันนี้ อีลอน มัสก์ ก็เหมือนกับนักธุรกิจส่วนใหญ่ที่ประสบกับความล้มเหลวมามากมาย แม้ว่าเขาใกล้จะล้มเหลว แต่แทนที่เขาจะยอมแพ้ เขากลับลุกขึ้นและเริ่มต้นใหม่จากความล้มเหลวนั้น ซึ่งเขามองว่าความล้มเหลวเป็นแรงผลักดันและเป็นบทเรียนที่ทำให้เขาก้าวไปข้างหน้า
เขาก่อตั้งเว็บไซต์ “X.com” ซึ่งเป็นระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “Paypal” ในปี 2000 มัสก์ได้รับแต่งตั้งเป็นซีอีโอของบริษัท แต่เพราะความขัดแย้งกับฝ่ายบริหารของบริษัทว่าจะใช้แพลตฟอร์ม Windows หรือ Unix มัสก์จึงถูกไล่ออกและต้องออกจากตำแหน่งซีอีโอ ขณะนั้นเขากำลังฮันนีมูนกับภรรยาที่ออสเตรเลีย
นี่คือบทเรียนจาก อีลอน มัสก์ บุคคลที่เคยผ่านความล้มเหลวมานักต่อนักจนปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งใน 10 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกที่หลายคนชื่นชม
“ชีวิตมันสั้นเกินไปที่จะคิดแค้นกัน”
นั่นคือสิ่งที่ อีลอน มัสก์ กล่าวไว้ตอนที่ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Inc. ในปี 2006 เมื่อถูกถามเกี่ยวกับเหตุการณ์การถูกไล่ออกจาก Paypal ในปี 2000 เขามองว่าความแค้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย การที่คุณทำธุรกิจ ย่อมมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเสมอ และสิ่งนี้จะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับโลกของเรา
คุณจะพบเจอกับคนและอุปสรรคมากมาย บางครั้งคุณอาจจะต้องตัดสัมพันธ์กับคนหลายคน ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงาน ดังนั้นคุณไม่ควรปล่อยให้ความรู้สึกด้านลบมาขัดขวางความก้าวหน้าของคุณ ความโกรธ ความเกลียด ความแค้นไม่สามารถช่วยให้คุณก้าวหน้าได้
นอกจากนี้ อีลอน มัสก์ ยังมีทัศนคติที่น่าสนใจที่คุณสามารถนำไปเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวคุณเองได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น…

ภาพถ่ายโดย Kindel Media จาก Pexels
1. การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียน
“อย่าสับสนระหว่างการไปโรงเรียนกับการเรียน ผมไม่ได้จบจากฮาร์วาร์ด แต่คนที่จบจากที่นั่นทำงานให้ผม”
อีลอน มัสก์ ไม่ได้จบจากฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก แต่เข้าเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สาขาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ประยุกต์ ซึ่งเขาเรียนไปได้ไม่กี่วันก็ลาออกแล้วไปทำธุรกิจตามความฝันของตัวเอง

ภาพถ่ายโดย Ivan Samkov จาก Pexels
ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อีลอน มัสก์ เชื่อว่าในอนาคตอินเทอร์เน็ตจะก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ดังนั้น เขาจึงเริ่มก่อตั้งบริษัท “Zip2” ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาข้อมูลให้กับสื่อชื่อดังหลายแห่ง ด้วยทุนเพียง 2,000 ดอลลาร์ สุดท้ายเขาสามารถขายบริษัทนี้ได้หลายร้อยล้าน
คุณไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียนเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ แต่คุณต้อง “เรียนรู้” อีลอน มัสก์ ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้มากกว่าการไปโรงเรียน ถ้าคุณคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่มีทักษะ ไม่มีความรู้ มันก็ไม่สายเกินไปที่คุณจะเรียนรู้
2. เรียนรู้และอ่านไม่หยุด
อีลอน มัสก์ เคยอ่านหนังสือถึง 10 ชั่วโมงต่อวันตั้งแต่เด็กทำให้เขาสามารถอ่านหนังสือได้เฉลี่ยวันละ 1 เล่มเลยทีเดียว ซึ่งมากกว่าคนทั่วไปที่มักจะอ่านหนังสือเฉลี่ย 12 เล่มต่อปีเท่านั้น เขาอ่าน “สารานุกรมบริแทนนิกา” จนจบเมื่ออายุ 9 ขวบเท่านั้น
ยิ่งคุณอ่านและเรียนรู้มากเท่าไร สมองของคุณก็จะยิ่งได้ทำงานมากขึ้นเท่านั้นและเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เขาชอบเรียนรู้และค้นคว้าเพิ่มเติมอยู่เสมอ ในปี 2008 เขาได้เริ่มก่อตั้งบริษัท “เทสลา” (Tesla Motors) ซึ่งเป็นบริษัทยานยนต์ที่เข้ามาปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้าครั้งสำคัญของโลก

Elon Musk รูปภาพจาก www.theverge.com
3. คุณเลือกที่จะเป็นคนพิเศษได้
การเปลี่ยนแปลงไม่ได้มาจากวิสัยทัศน์เท่านั้น แต่ยังมาจากความเต็มใจที่จะนำวิสัยทัศน์นั้นไปปฏิบัติด้วย มีกี่คนกันที่ลาออกจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดหลังจากเรียนไปได้แค่ 2 วัน เพื่อตั้งบริษัทของตัวเองด้วยเงินในกระเป๋าเพียง 2,000 ดอลลาร์
มีไม่มากแน่นอน! แต่หนึ่งในนั้นคือ อีลอน มัสก์
คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด คุณอาจจะลาออกจากงาน ออกจากฮาร์วาร์ด หรือใช้เงินทั้งหมดเพื่อทำตามความฝันของคุณ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่ในคอมฟอร์ตโซนมากเกินไป ทุกคนสามารถเป็นคนพิเศษได้ อยู่ที่ว่าคุณกล้าที่จะก้าวออกมาหรือไม่

Elon Musk รูปภาพจาก www.cnbc.com
4. สิ่งที่อีลอน มัสก์ทำอาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกคน
นี่เป็นบทเรียนสุดท้ายและสำคัญที่สุด อย่างที่กล่าวไว้ว่า มัสก์เป็นคนที่ทำงานหนักมาก เขาทุ่มเทชีวิตทั้งหมดของเขาเพื่องานเท่านั้น เขาถึงกับยอมรับว่าไม่ได้ใช้เวลากับลูก ๆ ของเขามากพอ บางครั้งเขาต้องอดนอนเพราะต้องบริหารบริษัทถึง 5 แห่งพร้อมกัน ได้แก่ SpaceX, Tesla, The Boring Company, Neuralink และ OpenAI
อีลอน มัสก์ เป็นคนสุดโต่ง แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเหมือนกับ อีลอน มัสก์ ขนาดนั้นก็ได้ คุณไม่จำเป็นต้องสละเวลาส่วนตัวเพื่อทำงานหนัก ดื่มน้ำอัดลมหรือกาแฟตลอดทั้งวัน ถ้าการหมกมุ่นอยู่กับงานตลอดเวลาไม่ใช่นิสัยของคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง

Elon Musk รูปภาพจาก www.posttoday.com
คุณสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการเป็นตัวของตัวเอง คุณยังสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ในสไตล์ของคุณเอง และคุณอาจนำแนวคิด “บางอย่าง” ของ อีลอน มัสก์ ไปเป็นแรงบันดาลใจของคุณก็ได้
แต่อย่าลืมสิ่งที่ อีลอน มัสก์ บอกเราไว้ว่า ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยกระบวนการง่าย ๆ นั่นก็คือ “พยายาม” “ลุกขึ้นเมื่อคุณล้มเหลว” และ “เริ่มทำงานอีกครั้ง”
ที่มา: HBRBusinessSchool
อ้างอิง: https://www.facebook.com/188962875025436/posts/965019447419771/
. . .
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลและเรียบเรียงโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels และ freepik