เรามักจะเห็นภาพชาวญี่ปุ่นที่อดทนต่อแถวยาวเหยียดเพื่อซื้อของ ขึ้นรถไฟอย่างเป็นระเบียบแม้ผู้โดยสารจะเบียดเสียดมากแค่ไหนก็ตาม ออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปทำงานให้ทันเวลา ฯลฯ จากข่าวโทรทัศน์หรือตามสื่อโซเชียลมีเดียอยู่บ่อย ๆ
พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนให้เห็น “ความมีระเบียบวินัย” ของชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนิสัยที่ทั่วโลกต่างต้อง “ทึ่ง” และ “ยอมรับ”
ชาวญี่ปุ่นถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ๆ ถึงเรื่องการมีวินัยในตนเอง นี่จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยทางเศรษฐกิจและกลายเป็นมหาอำนาจของโลกได้
แล้วชาวญี่ปุ่นเขามีระเบียบวินัยกันอย่างไร เรามาเรียนรู้จากบทความนี้

ภาพถ่ายโดย Artem Podrez จาก Pexels
1. Great Power Gap –เคารพผู้อาวุโส
ในวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น สมาชิกในสังคมจะมีลำดับชั้นไม่เท่ากัน ผู้ที่อาวุโสกว่าจะมีลำดับชั้นสูงกว่าผู้ที่อายุน้อยกว่าเสมอ ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจังมาก พวกเขามักจะโค้งคำนับผู้ที่มีอายุมากกว่าและมีสถานะที่สูงกว่าตนเองเพื่อแสดงความเคารพ พวกเขายินดีที่จะเรียนรู้จากคนรุ่นก่อนและยอมรับว่าคนรุ่นก่อนมีความเชี่ยวชาญมากกว่าตนเอง
ถ้ามองในแง่บวก คุณสามารถนำนิสัยนี้ของชาวญี่ปุ่นมาใช้ก็ได้ เคารพนับถือของทุกคนที่อยู่รอบตัวคุณเสมอ เพราะทุกคนมีค่าควรแก่การเคารพนับถือและให้บทเรียนในชีวิตแก่คุณได้เสมอ

ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
2. ตรงต่อเวลาเสมอ
การตรงต่อเวลาเป็นนิสัยที่คนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก หลายคนไม่ให้ความสำคัญกับการตรงต่อเวลาในการนัดหมายหรือการทำงาน สาย 5 นาทีบ้าง 10 นาทีบ้าง หรือเป็นชั่วโมง ๆ ก็มี ลองหันไปมองชาวญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องของการเคารพเวลามาก พวกเขาจะตรงต่อเวลา และไม่มาสายเด็ดขาด เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่ออีกฝ่ายหนึ่ง เป็นการเอาใจเขามาใส่ใจเรา คุณลองคิดดู การยืนรอคนอื่นเป็นชั่วโมง ๆ จนเหน็บกินเป็นเรื่องที่น่าพิสมัยรึเปล่าล่ะ?
ลองตรวจสอบดูว่าคุณเคยมาสายหรือไม่? บ่อยแค่ไหน? และปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนตรงต่อเวลา คุณควรมาก่อนสัก 10-20 นาที การตรงต่อเวลาแสดงให้เห็นว่าคุณเคารพผู้อื่นและทำให้ตัวคุณเองรู้สึกสบายใจอีกด้วย เชื่อหรือไม่ว่า การตรงต่อเวลาเป็นการฝึกวินัยของตนเองได้ดีที่สุด
3. ทำเพื่อส่วนรวม
วัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นวัฒนธรรมแบบรวมกลุ่ม คนญี่ปุ่นมักเอาผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง พวกเขามองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มย่อมร้ายแรงกว่า เพราะเป็นปัญหาที่ซับซ้อนกว่า พวกเขาจะตัดสินใจก็ต่อเมื่อคนทั้งกลุ่มเห็นพ้องต้องกัน พวกเขามักจะใช้คำว่า “เรา” มากกว่าคำว่า “ฉัน” ดังนั้น เมื่อพวกเขาพูดถึงความสำเร็จ มันจะเป็นความสำเร็จของทั้งกลุ่ม ไม่ใช่แค่ของใครคนใดคนหนึ่ง เช่นเดียวกับความรับผิดชอบ ถ้าพวกเขาต้องรับผิดชอบเรื่องอะไรบางอย่าง มันก็เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่แค่ของใครคนใดคนหนึ่ง
ถ้าคุณอยากเป็นเหมือนชาวญี่ปุ่นล่ะก็ เวลาทำงานให้นึกถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ลดอีโก้ลง ร่วมมือกันและพยายามที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ถ้าทีมแข็งแกร่ง คุณก็จะก้าวหน้าได้ไม่ยาก

ภาพถ่ายโดย Alexander Suhorucov จาก Pexels
4. อย่าปฏิเสธทันที
แม้ว่าชาวญี่ปุ่นมักจะไม่ชอบข้อเสนอที่พวกเขาได้รับ แต่พวกเขาจะไม่พูดคำว่า “ไม่” ออกมาทันที วัฒนธรรมการปฏิเสธในญี่ปุ่นแตกต่างจากวัฒนธรรมอื่น พวกเขาคิดว่าการปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาอาจไปทำร้ายน้ำใจและความปรารถนาดีของผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่ดีและคิดไม่ดีกับพวกเขาได้ ชาวญี่ปุ่นจะหาวิธีปฏิเสธแบบอ้อมค้อมและนุ่มนวล หรือบอกเป็นนัย เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ด้วยตนเอง การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงจุดยืนของตนเองเท่านั้น แต่ยังทำให้อีกฝ่ายมีความสุขอีกด้วย
ดังนั้น ถ้าคุณอยากจะปฏิเสธผู้อื่น คุณควรปฏิเสธอย่างมี “อารยธรรม” แสดงความเคารพต่อผู้อื่น และรู้จักวิธีโน้มน้าวผู้อื่น

ภาพถ่ายโดย RODNAE Productions จาก Pexels
5. อย่าแสดงอารมณ์มากเกินไปในที่ทำงาน
สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว สถานที่ทำงานมีไว้สำหรับทำงานเท่านั้น ไม่ใช่สถานที่สำหรับแสดงอารมณ์ งานกับชีวิตต้องแยกจากกัน ดังนั้น ชาวญี่ปุ่นจะไม่แสดงอารมณ์หรือพูดถึงเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของตนเองในที่ทำงานเด็ดขาด แต่พวกเขาจะพูดหลังเลิกงานเท่านั้น พวกเขาจะสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานอย่างเหมาะสม ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป รักษาระยะห่าง ให้เกียรติ ขออนุญาตก่อนเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวผู้อื่นเสมอ
คุณสามารถทำได้ด้วยการแยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัว อย่าให้เรื่องส่วนตัวเบี่ยงเบนความสนใจไปจากงานของคุณ แล้วคุณจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ คุณต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ไม่ก้าวก่ายหรือยุ่งเรื่องของคนอื่นจนเกินไป

ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
“ความมีระเบียบวินัย” ของชาวญี่ปุ่นเป็นนิสัยที่คุณควรจะนำไปเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะในการทำงาน เพราะความมีระเบียบวินัยจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากขึ้น งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และแน่นอน มันจะช่วยซัพพอร์ตคุณและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้อย่างรวดเร็ว
อ้างอิง: HBRBusinessSchool
https://www.facebook.com/hbr.edu.vn/photos/a.188981365023587/945932359328480/
. . .
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลและเรียบเรียงโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels และ freepik