การนั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบกลายเป็นสิ่งที่หลายคนให้การยอมรับเพราะเป็นตัวช่วยที่ทำให้สามารถกลับมาจดจ่อกับบางสิ่งบางอย่างได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายคนที่มักจะรู้สึกอึดอัดเวลาที่ต้องนั่งสมาธิและมองว่าเป็นเรื่องยากจนเกินไป นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะแต่ละคนมีความกดดันจากสภาวะภายในจิตใจที่แตกต่างกันออกไปและเมื่อรู้สึกแบบนั้นก็ไม่จำเป็นต้องฝืนนั่งนาน ๆ ไปพร้อมกับความไม่สบายใจอีก
บทความนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อบอกว่า “อย่านั่งสมาธิ” แต่จะเป็นการบอกเล่าว่าหากคุณไม่อยากนั่งสมาธิก็ยังมีวิธีอื่นที่จะช่วยเรื่องการฝึกสมาธิได้เช่นกัน
1. การจินตนาการ
การจินตนาการถึงสถานที่ที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยและสงบจะช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น เมื่อได้ใช้เวลาอยู่กับสถานที่ที่เป็นส่วนตัวจะทำให้ความรู้สึกหนักใจหรือความเครียดลดลงและยังช่วยแก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับได้อีกด้วย หรือหากกำลังเผชิญอยู่กับเสียงรบกวนจากการก่อสร้างให้ลองจินตนาการว่านั่นคือเสียงช้างตัวใหญ่ที่กำลังสวมหมวกเซฟตี้สีเหลืองกำลังเดินชนเครื่องจักรก่อสร้างอยู่ เพียงเท่านั้นก็จะช่วยให้รู้สึกคลายความกังวลใจหรือความหงุดหงิดลงได้แล้ว
2. การระบายสี
การระบายสีเป็นการฝึกสมาธิอย่างสร้างสรรค์และมีความกดดันต่ำซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยลดความวิตกกังวลได้ โดยเฉพาะการระบายสีบนภาพมันดาลาหรือลายสก็อต ด้วยรูปแบบโครงสร้างที่แข็งแกร่งจะสะท้อนถึงความสงบผ่านความสมมาตรและความสมดุลซึ่งจะช่วยให้สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และจากการวิจัยพบว่าการระบายสีไม่เพียงช่วยลดความวิตกกังวลแต่ยังช่วยในด้านความคิดสร้างสรรค์ด้วย
3. การตีกลอง
หลายคนอาจจะมองว่าการตีกลองนั้นทั้งเสียงดังและทำให้หนวกหูแต่การวิจัยพบว่าการตีกลองเป็นจังหวะจะทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นเพราะคนที่เล่นสามารถระบายความวิตกกังวลหรือความเครียดออกมาได้อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย
4. ออกไปมองท้องฟ้า
การจ้องมองเมฆบนท้องฟ้าที่ค่อย ๆ เคลื่อนไปอย่างเชื่องช้าเป็นตัวช่วยในการฝึกสมาธิที่ดีมากเพราะความปลอดโปร่งและราบเรียบสบายตาไม่มีสิ่งรบกวนจะทำให้ความเครียดและความกังวลลดลงได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
5. Morning Pages
Morning Pages คือการเขียนอะไรก็ได้ที่อยากเขียนโดยไม่ต้องคำนึงถึงความเกี่ยวเนื่องหรือความเชื่อมโยงตั้งแต่ตื่นนอน แนวคิดนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดย Julia Cameron เจ้าของผลงานหนังสือ The Artist’s Way แนวคิดสำคัญของ Morning Pages มาจากความคิดที่ว่าหลังจากตื่นนอนสมองจะยังไม่ตื่นเต็มที่ การเขียนหลังตื่นทันทีจึงเป็นการเขียนอย่างอิสระมากกว่าการเขียนในช่วงเวลาอื่น ๆ และเป็นกระบวนการที่สามารถสื่อสารกับตัวเองได้อย่างลึกซึ้ง
6. การเดินช้า ๆ
การเดินเป็นการทำสมาธิด้วยตัวของมันเองซึ่งถือเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้สำหรับคนส่วนใหญ่และเหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบการนั่งสมาธิ ประโยชน์ของการเดินคือการลดความเครียดและการได้คิดทบทวนเรื่องต่าง ๆ และนอกจากประโยชน์ด้านสุขภาพจิตแล้วยังช่วยเรื่องสุขภาพกายด้วย
7. ดูวิดีโอการวาดภาพของ Bob Ross
หากคุณยังคงพยายามหาวิธีทำให้จิตใจสงบให้ลองหันมาใช้เสียงที่ผ่อนคลายจากวิดีโอ The Joy of Painting ของ Bob Ross มาเป็นตัวช่วย จากผลงานวิจัยพบว่าเสียงบาริโทน (เสียงกลางระหว่างต่ำกับสูงของผู้ชาย) ที่นุ่มนวลของ Bob Ross และเสียงการตวัดพู่กันของเขาบนผ้าใบจะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยา ASMR ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกกระตุ้นเกิดความรู้สึกผ่อนคลายตามมา
อ้างอิง:
Can’t seem to meditate? 7 joyful activities for you to try instead จาก https://bit.ly/3KyLAm9
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik