7 สิ่งที่ต้องจดจําเมื่อเผชิญกับความกดดัน

7 สิ่งที่ต้องจดจําเมื่อเผชิญกับความกดดัน

หลายต่อหลายคนในโซเชียล หรือแม้แต่คนรอบ ๆ ตัว คุยกันมากว่าแต่ละคนต่างเผชิญกับภาวะกดดันทุกรูปแบบ มีคนเครียดหนักจากปัญหา ทั้งจากการทํางานและการใช้ชีวิต มีคนที่หาทางออกได้และสามารถปล่อยทุกอย่างไป

แต่จิตใจของเราเองบางครั้งก็มีความกดดันมากมาย บางครั้งมันก็ทําให้เราเสียสติไปมิใช่น้อย

การบําบัดตัวเอง คือการเผชิญหน้าและเขียนมันออกมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหานั้นด้วยตัวเอง

1. อย่าลืมความสําเร็จที่เคยทําให้คุณภูมิใจ
ชัยชนะต้องการความขยัน มุ่งมั่น เสียสละ แม้บางเวลาอาจทำให้เราต้องพบกับความเจ็บปวดและรู้สึกเหมือนกำลังถูกลงโทษ เมื่อใครก็ตามอยู่ในจุดสูงสุดของความสําเร็จพวกเขามักจะกลัวที่จะเริ่มต้นใหม่จาก 0

บางครั้งความกดดันก็มาหาคุณในเวลาที่คุณไม่พึงประสงค์ อย่าลืมความสําเร็จที่เคยทําให้คุณภูมิใจแต่อย่าอยู่กับมันตลอดไป

จงรักษาทัศนคติของ “แก้วเปล่า” ไว้ให้ดีเพื่อเรียนรู้ให้มากขึ้น เติมเต็มสิ่งที่คุณมีและทําให้ความรู้ของคุณขยายไปรอบด้านมากขึ้น เมื่อนั้น คุณจะกลายเป็นคนที่สร้างผลลัพธ์ใหม่ที่ดีให้กับตัวเองได้เพิ่มขึ้น ทุก ๆ วัน

2. อย่ามองหาแรงจูงใจ จงมองหาเหตุผล
เราสามารถคิดเหตุผลอะไรบางอย่างได้มากมายเพื่อยืดเวลามันออกไปอีกในงานที่เราไม่อยากทํา

ไปยิม? พรุ่งนี้ค่อยชดเชยเอา ไม่เป็นไรหรอก
ต้องตื่นเช้า? นอนพักต่ออีกนิดนึงน่ะ
สิ่งที่ต้องทํา? หยุดไว้ก่อน มันไม่สําคัญขนาดนั้นหรอก

หรือเรามักจะมีแรงบันดาลใจที่น่าตื่นเต้น พลังจูงใจจะทำให้เราอยากจะเปลี่ยนแปลง และเรารู้สึกว่าถ้าเราคิดถึงความสำเร็จ ท่องเป้าหมายทุกวันมันก็จะทำให้เราไปถึงฝันได้โดยอัตโนมัติ

บางคนก็เชื่อระดับบ้าคลั่ง จนทําทุกอย่างได้ เช่น การประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่าคุณจะเปลี่ยนชีวิตผ่านโซเชียล แต่แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อแรงบันดาลใจนั้นหายไปคุณก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

การอ่านหนังสือดี ๆ ทำให้คุณมีความหวัง แต่หลังจากปิดหนังสือล่ะ

การดูคลิปออนไลน์ของคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ระดับพลิ้วมากเหมือนเจ้าของภาษา อาจทำให้คุณมุ่งมั่นที่จะเรียน 3 ชั่วโมงต่อวัน แต่หลังจากสองสามวันแรกล่ะ

วันที่ฝันถึงรูปร่างที่สวยงามคุณรู้สึกตื่นเต้น จนต้องสมัครสมาชิกกับฟิตเนส แต่หลายเดือนที่ผ่านมา รูปร่างคุณเป็นยังไง

คุณหวังเสมอว่าสักวันหนึ่งคุณจะพบสิ่งที่มากระตุ้นให้ชีวิตดีขึ้น แต่ชีวิตไม่เป็นอย่างที่ฝัน สิ่งกระตุ้นที่คุณมองหานั้นอาจจะเป็นเพียงในจินตนาการเท่านั้น เพราะแรงจูงใจเป็นจุดเริ่ม สิ่งที่ทำให้คุณไปต่อได้คือ คือคุณต้อง

เรียนรู้ที่จะสร้างนิสัยหาเหตุผลให้รู้ว่าจะทําอะไรให้เหมาะสมและกําจัดข้อจำกัด ข้ออ้างที่มีให้หมดไป

3. อย่านําตัวคุณไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
คุณภาพชีวิตของมนุษย์ทุกคนแตกต่างกัน มันขึ้นอยู่กับทัศนคติ จิตวิญญาณที่วาดภาพฝันไว้ในหัว

แค่อยากบอกกับคุณว่า ไม่ว่าคุณจะทําอะไรก็ตาม ตั้งแต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ จนถึงสิ่งใหญ่ ๆ คุณต้องพยายามทําด้วยความสามารถเกิน 200% เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทําได้

ถ้าทําในวันนี้แล้วยังไม่มีผล พรุ่งนี้จะมีความพยายามมากขึ้น พรุ่งนี้เมื่อทําได้แล้ว วันมะรืนจะพยายามทําให้ดีกว่าเดิม นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้เราสามารถขีดจํากัดเดิม ๆได้

ซาบซึ้งในผลลัพธ์ใหม่ที่ได้รับ แต่ต้องรู้จักทะลวงข้อจํากัดใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง อย่ามัวแต่มุ่งเน้นค้นหาความชอบของคุณ แล้วทิ้งสิ่งที่คุณไม่ชอบไว้ข้างหลัง อย่าเพิ่งรีบร้อนที่จะสำเร็จในทันทีเพราะความสําเร็จที่แท้จริงเป็นขั้นตอนที่ยาวนาน

มุ่งเน้นกับสิ่งที่คุณเป็น ทําในแบบของคุณ สร้างทางของคุณ ไม่ว่าอย่างไรคุณจะไปที่นั่น

จงมั่นใจว่าเมื่อคุณทํานั่นก็เพราะคุณต้องการสร้างสรรค์ตัวคุณเอง ไม่ใช่เพราะว่าคุณต้องการเป็นคนอื่น

4. อย่าใส่ใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับคุณ
มีคุณเพียงคนเดียวที่รู้ว่าอะไรเหมาะสมกับตัวคุณเองมากที่สุด

คุณใช้เวลาวันละ 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 7 วันกับตัวเอง ไม่มีใครสามารถช่วยให้คุณเติบโตของคุณได้ดีกว่าตัวคุณ

คุณเป็นคนเดียวที่จะทําให้ตัวเองดีขึ้นหรือแย่ลงได้ และคุณเองคนเดียวที่รู้ว่าอะไรเหมาะกับตัวคุณเอง

ความคิดเห็นการตัดสินของคนอื่น มันก็แค่สะท้อนถึงชีวิต ถึงทัศนคติที่มาจากคุณสมบัติของพวกเขา

หากคุณอยู่ในวงจรที่แคร์คนอื่นมากไป นี่คือ 4 เรื่องสิ่งที่คุณต้องทํา:
– ยอมรับตัวเองและเป็นตัวของตัวเองเสมอ
– เรียนรู้ที่จะเข้าใจตัวเอง
– อย่าปล่อยให้ความคิดด้านลบของคนอื่นส่งผลต่อตัวคุณ
– แสดงออกในแบบที่ทําให้คุณมีความสุข

5. อย่าลืมว่านี่คือโอกาสในการค้นพบมนุษย์ที่ไม่ธรรมดาในตัวคุณ
ผู้คนมักจะพูดประโยคที่ว่า “คุณดีกว่าที่คุณคิด” ดังนั้นอย่าปล่อยให้ความคิดคนอื่นมาสร้างหลังงานลบให้กับคุณ อย่าทำอะไรตามความคาดหวังของคนอื่น

ใช้เวลาคุยกับตัวเองบ้างเริ่มต้นใหม่และจัดระเบียบโลกของตัวเองใหม่

ให้เวลาส่วนตัวกับตัวเอง มองหาสิ่งที่ชอบชอบ เปลี่ยนมุมมองและกําจัดความคิดเชิงลบ

คุณจะเห็นอะไรเจ๋ง ๆ มากมายที่คุณ “สามารถทําได้” มากขึ้น

6. อย่ากลัวที่จะล้มเหลว ไม่มีคนที่ประสบความสําเร็จคนไหนไม่เคยล้มเหลวมาก่อน
เมื่อมีปัญหา – แต่ละคนจะมีการกระทําที่แตกต่างกัน

ตัวคุณเองจะทําอาชีพเดียวกับคนที่ประสบความสําเร็จเหล่านั้นหรือไม่?
เมื่อความกดดันมาถึงคุณเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่เหมือนพวกเขาไหม?
คุณเอาชนะความกลัวการสูญเสียความศรัทธาเหมือนที่พวกเขาเคยทําได้หรือไม่?

บางทีคุณอาจจะบอกตัวเองว่า “ฉันเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันไม่เหมือนคนพวกนั้น! พวกเขาเป็นคนพิเศษ พวกเขา “ประสบความสําเร็จ” และ “ไม่ธรรมดา” ฉันก็ไม่มีแรงจูงใจหรือกําลังใจที่จะเอาชนะความยากลําบากหรอก แต่ฉันหวังว่ามันจะดีขึ้นเองเมื่อเวลาผ่านไป” ต้องยอมรับว่านี่คือข้ออ้างที่ใหญ่ที่สุดที่ทําให้ผู้คนยืนหนึ่งไม่สามารถยืนบนขาตัวเองได้

หนทางเดียวที่จะนําไปสู่ความล้มเหลวอย่างแน่นอนคือไม่มีความพยายามเลย ดังนั้นคุณไม่มีอะไรจะสูญเสียนอกจากกลัวที่จะพยายามทํา ทุกคนมีความเป็นไปได้เสมอแม้สถานการณ์ของแต่ละคนต่างกัน หนทางแห่งการเอาชนะความทุกข์ยากที่จะเข้าถึงความสําเร็จนั้นไม่เหมือนกัน – ยกเว้นความเข้มแข็งของความตั้งใจความเชื่อและความกล้าหาญเท่านั้นที่แตกต่าง

7. อย่าให้ความสําคัญกับความยากลําบากมากเกินไปจนลืมรางวัลที่คุณกําลังไล่ตามอยู่
ไม่มีใครอยากให้คุณมีปัญหาหรือล้มเหลว นั่นคือสิ่งที่ชัดเจนที่สุด
แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งที่แยกไม่ออกของชีวิต ถ้าเราพยายาม ถามว่าใครบ้างที่ชีวิตราบรื่นโดยไม่มีอะไรลําบากมาก่อน

ทุกคนจะผ่านช่วงเวลาที่รู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกกําลังหมุนตัวเองอยู่ มีเพียงเราเท่านั้นที่ต้องต่อสู้กับความเป็นจริงในชีวิตที่แสนจะเหนื่อยล้า

ทุกคนจะต้องอดทน ทุกคนต้องเจออุปสรรค ทุกคนต่างมีช่วงเวลาที่แย่
แต่หลังจากทั้งหมดนั้น จําไว้ว่าคุณสามารถเรียนรู้อะไรได้มากมายจากความล้มเหลว ความไม่สะดวก อุปสรรคในชีวิตของคุณ

บางครั้งความล้มเหลวในอดีตมากดดันชีวิตในปัจจุบัน ทําให้คุณกลายเป็นคนสิ้นหวัง ทั้ง ๆ ที่โอกาสใหม่ ๆ ความสําเร็จใหม่ ๆ มันมีมากพอสำหรับทุกคน

อย่าลืมมอบถ้วยรางวัลให้กับตัวเอง
เตรียมเอาไว้เลย
ทุกความสำเร็จมันเกิดขึ้นแน่ แค่คุณใช้การเรียนรู้เชิงรุกคอยนำทาง

บทความโดย: กองบรรณาธิการ
สำนักพิมพ์ 7D Book&Digital

ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels