ปัจจุบันเรามักจะเห็นบทความ หนังสือ หรือตามสื่อและแพลตฟอร์มต่าง ๆ พูดถึง “การพัฒนาตนเอง” มากขึ้น และมีการผลิตเนื้อหาที่เกี่ยวกับการพัฒนาตนเองเพื่อช่วยให้คนพัฒนาตนเองมากขึ้น
นั่นสะท้อนให้เห็นว่า “การพัฒนาตนเอง” หรือ “Self-Improvement” เป็นสิ่งที่สำคัญในยุคโลกาภิวัตน์นี้
แต่ถึงอย่างนั้นก็มักจะพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตนเองต้องพัฒนาอะไร ขาดทักษะอะไร หรือคิดว่าตนเองมีทักษะอยู่แล้ว จึงไม่คิดที่จะพัฒนาตัวเองอีก
เอาล่ะ! หนังสือ บทความ สื่อโซเชียลมีเดียทั้งหลายต่างพูดถึงการพัฒนาตัวเองมาเยอะแล้ว บทความนี้จะพูดถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามกับกับการพัฒนาตนเอง นั่นคือ “นิสัยที่ทำให้คุณไม่สามารถพัฒนาตนเองได้” นิสัยเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตนเองทั้งนั้น เรียนรู้ไว้ก็ไม่เสียหาย แต่ถ้านำไปใช้ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์สำหรับตัวคุณเอง
1. เงียบ
เนื่องจากคนไทยมักจะการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมและการศึกษาแบบ (Passive Behavior) คือ จะมีพฤติกรรมไม่กล้าแสดงออก คนไทยส่วนใหญ่จึงมักจะชอบฟังและนิ่งเงียบและมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่บ่อย ๆ จนติดเป็นนิสัย เวลาเจ้านายมอบหมายงานให้ งานไม่เสร็จก็เงียบ มีปัญหาก็เงียบ แก้ปัญหาไม่ได้ก็เงียบ ถ้าเจ้านายไม่ถาม ก็จะเงียบไว้ก่อน แล้วปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังต่อไป
ถ้าคุณมีนิสัยเอาแต่เงียบเวลาทำงาน ไม่ชอบถามคนอื่น แสดงว่าคุณเป็นคนขาดความคิดริเริ่ม ขาดทักษะการแก้ปัญหา และขาดทักษะในการสื่อสาร นิสัยนี้จะขัดขวางการเติบโตและความก้าวหน้าในอาชีพการงานของคุณ ถ้าคุณมีนิสัยแบบนี้ล่ะก็ คุณต้องเข้ารีบเปลี่ยนแปลงตัวเองทันที
2. โทษคนอื่น
เมื่อถามว่าทำไมงานไม่เสร็จ 99% มักจะโทษคนอื่นเอาไว้ก่อนเสมอ แต่จำไว้เถอะว่า นิสัยชอบโทษคนอื่นไม่ได้ช่วยอะไร มันแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีความสามารถ และไม่น่าเชื่อถือ
ความน่าเชื่อถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับคนทำงาน ถ้าเจ้านายไม่ไว้วางใจคุณ ต้องตำหนิคุณอยู่บ่อย ๆ เวลาทำงาน ใครจะเชื่อใจคุณและมอบหมายงานที่สำคัญ ๆ ให้คุณทำล่ะ?
3. ชอบบรรยาย
เจ้านายถามว่าทำไมงานไม่เสร็จหรือเมื่อเจ้านายตรวจงานของคุณ คนส่วนใหญ่มักจะมีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการบรรยายถึงงานหลาย ๆ อย่างที่ตัวเองทำออกมาทันที ขอบอกเอาไว้เลยว่า ไม่สำคัญเลยว่าคุณจะทำกี่งาน ทำงานหนักมากแค่ไหน เสียสละเพื่องานมากเพียงใด หยุดพูดซะ เพราะทำมากหรือน้อยไม่สำคัญ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ งานต้องเสร็จและบรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้ ทำงานเสร็จเพียงอย่างเดียวย่อมดีกว่าทำหลายอย่างแต่ไม่สำเร็จเลยสักงานเดียว แบบนี้เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้น ถ้าคุณรู้ว่าคุณมีนิสัยนี้ ให้รีบเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการทำงานให้น้อยลง แต่ต้องบรรลุเป้าหมายที่วางไว้เสมอ
4. ชอบนินทา
อาจเป็นเพราะสังคมไทยเป็นสังคมแบบเครือญาติ มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับแม้จะไม่ใช่ญาติกันก็ตาม ดังนั้น การสนิทสนมกับคนอื่นในที่ทำงานเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันก็มาพร้อมกับการซุบซิบนินทา ซึ่งกลายเป็นงานอดิเรกของใครหลาย ๆ คนไปแล้ว คนพวกนี้จึงไม่มีเวลาพัฒนาตนเอง ไม่มีเวลาฝึกฝนทักษะใหม่ วันไหนที่ไม่นินทาคนอื่น วันนั้นจะรู้สึกว่าชีวิตน่าเบื่อและขาดรสชาติ
ไม่เป็นไร ถ้าคุณเกิดมาเพื่อนินทาคนอื่นก็จงนินทาต่อไป แต่จำไว้ว่า เวลาที่เสียไปเปล่า ๆ เพื่อนินทาคนอื่นจะส่งผลต่อคุณไปตลอดชีวิต เพราะมันจะทำให้คุณอยู่ในกะลาที่คุณสร้างขึ้นเอง
5. อีโก้สูง
นี่เป็นนิสัยที่น่ากลัวที่สุดและพบมากที่สุดในวัยทำงาน แม้ว่าค่านิยม ทัศนคติ ความรู้ และทักษะยังขาดอยู่ แต่อีโก้กลับสูงจนไม่สามารถลดลงได้
คนที่มีอีโก้สูงมักจะมีแนวคิดแบบเดิม ๆ ชอบปิดกั้นตัวเอง ไม่ชอบเห็นคนอื่นเติบโตก้าวหน้า เป็นตัวของตัวเองสูงเกินไป และคิดว่าตัวเองถูกเสมอ แต่อย่าลืมว่า โลกนี้กว้างใหญ่ ภูเขาสูงย่อมมีภูเขาที่สูงกว่าเสมอ คนเก่งย่อมมีคนที่เก่งกว่าเสมอ
6. เจ้าอารมณ์
คนที่มีอีโก้สูงมักจะกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ ไม่รับฟังสิ่งที่คนอื่นพูด ชอบทำงานหนักก็จริง แต่มักจะทำเพื่อตัวเองเท่านั้น เพื่อตัดขาดทุกคนเพื่อเอาผลประโยชน์มาเป็นของตัวเองเสมอ
คนเจ้าอารมณ์มักจะมองข้ามความคิดของคนอื่น ชอบตำหนิติเตียนคนอื่น ชอบพูดถึงคนอื่นในเชิงลบ ซึ่งจะนำไปสู่การทะเลาะวิวาทได้ง่าย คนที่ไม่จัดการอารมณ์ของตัวเองคือคนที่ขาด EQ มองภาพรวมไม่เป็น ไม่เข้าใจที่มาของปัญหา และคนเหล่านี้จะไม่มีวันทำอะไรสำเร็จ
7. ขี้กลัว
ความมั่นใจในความสามารถของตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำงาน ถ้าคุณเป็นคนขี้กลัว ชอบกังวล ชอบตีตนไปก่อนไข้ หวาดระแวงกลัวความผิดพลาด คุณก็จะเหมือนกบในกะลาที่ไม่รู้ว่าโลกกว้างใหญ่มากแค่ไหน จำไว้ว่า ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณสามารถแก้ไขความผิดพลาดนั่นได้หรือไม่ และไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกได้หรือไม่
หวังว่าคุณจะสามารถเห็นนิสัยที่บกพร่องของตัวเอง ถ้าคุณมีนิสัยเหล่านี้ ตอนนี้ยังไม่สายเกินที่คุณจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่
คนเราไม่ควรเกิดมาเพื่อต่อสู้กัน แต่ควรที่จะพัฒนาตนเองไปพร้อม ๆ กัน คว้าโอกาสใหม่ ๆ ในอนาคตพร้อม ๆ กัน และอยู่บนโลกนี้ร่วมกันอย่างมีความสุข
Nguyễn Phi Vân (ผู้เขียน)
อ้างอิง: Kiến thức kinh tế
https://www.facebook.com/THUONGTRUONG.EK/photos/a.2023110444648967/2822770121349658/
. . .
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลและเรียบเรียงโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels และ freepik