“SPIN Selling” เป็นเทคนิคการถามคำถามที่คิดค้นขึ้นโดย “นีล แรคแฮม” (Neil Rackham) นักเขียนและนักวิชาการชาวอังกฤษ เขาได้ทำการศึกษาโดยการสังเกตการขายของนักขายจำนวน 35,000 ครั้ง ทั้งยังได้ข้อมูลจากนักขายผู้มากประสบการณ์และนักขายมืออาชีพว่า “คุณภาพในการถามคำถามของนักขาย” เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ปิดการขายได้ดีขึ้น
ตัวอย่างที่เขาค้นพบอย่างเห็นได้ชัดก็คือ คำถามที่ดีและตรงประเด็นจะช่วยเร่งให้การขายเร็วขึ้น ส่วนคำถามที่แย่และไม่ตรงประเด็นจะทำให้การขายนั้นหยุดชะงักลง และนำเสนอได้ไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้า

ภาพถ่ายโดย Mikhail Nilov จาก Pexels
“SPIN SELLING” ได้รับการพิสูจน์มาแล้วจากองค์กรระดับโลก โดยเฉพาะบริษัท “Microsoft” หนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่ามหาศาลที่สุดในโลก พวกเขามีทีมขายที่เป็นมืออาชีพมากมายในบริษัท และส่วนใหญ่ก็เคยฝึกอบรมทักษะ “SPIN Selling” นี้กันมาแล้ว
“SPIN Selling” คือ การถามคำถาม โดยแต่ละคำถามจะช่วยสร้างความต้องการ (Demand) จากคนที่ไม่ได้สนใจสินค้าของคุณเลยแม้แต่น้อยให้กลับมาสนใจ และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อ ซึ่งมี 4 รูปแบบ ดังนี้

ภาพถ่ายโดย Mikhail Nilov จาก Pexels
1. วิเคราะห์สถานการณ์ของลูกค้า (S – Situation)
ข้อมูลอาจมาจากการสอบถามลูกค้าโดยตรง ปรากฏอยู่ในสัญญา รายงาน หรือเอกสารต่าง ๆ และขณะที่สนทนาแบบตัวต่อตัวกับลูกค้า คุณต้องระมัดระวังเวลาที่คุณถามคำถามลูกค้าด้วย เพราะการถามมากเกินไปอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญ หรือแม้กระทั่งเกิดการต่อต้าน
ตัวอย่างเช่น คุณทำงานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถ้าอยู่ในระหว่างการขาย คุณอาจจะถามคำถามต่อไปนี้
– คุณอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว?
– คุณเคยซื้ออพาร์ตเมนต์/บ้านหรือไม่?
– พื้นที่ขนาดเท่าไรที่เหมาะกับคุณ?
– คุณชอบให้บ้านหันไปในทิศทางไหน?
2. ทำให้ลูกค้าเห็นปัญหา (P – Problem)
เพื่อทำให้ลูกค้าเห็นปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ได้อย่างชัดเจน คุณต้องใช้คำถามที่เกี่ยวกับปัญหาของพวกเขา ตัวอย่างเช่น
– บ้านหลังปัจจุบัน อะไรที่ทำให้คุณไม่สบายใจ?
– ตอนนี้ส่วนไหนของบ้านที่กวนใจคุณมากที่สุด?
– ทำไมถึงอยากเลือกอพาร์ตเมนต์/บ้านในย่านนี้?
แต่ไม่ใช่ว่าลูกค้าทุกรายจะยินดีเล่าปัญหาของพวกเขาให้พนักงานขายฟัง ดังนั้น คุณต้องแสดงท่าทีว่าคุณเห็นอกเห็นอกเห็นใจลูกค้า อยากช่วยแก้ปัญหาให้พวกเขา นอกจากนี้ ถ้าข้อมูลที่ลูกค้าบอกยังไม่ชัดเจน คุณต้องรีบถามทันที

ภาพถ่ายโดย Gustavo Fring จาก Pexels
3. ขยายปัญหาของลูกค้าให้ชัดเจน (I – Implication)
หลังจากทำให้ลูกค้าเห็นปัญหาแล้ว คุณต้องทำให้ลูกค้าเห็นปัญหาให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นจนเป็น “Pain Point” ของลูกค้า เช่น อธิบายว่าปัญหานั้นร้ายแรงมากจนอาจส่งผลกระทบต่อพวกเขาได้ในอนาคต หรือถ้าลูกค้าไม่แก้ไขปัญหาจะส่งผลเสียต่อพวกเขา พนักงานขายต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกถึง “ความน่ากลัว” ของผลที่ตามมา ตัวอย่างเช่น
– ถ้าคุณยังอยู่ใกล้เพื่อนบ้านที่เสียงดัง ลองคิดดูว่าลูกของคุณจะได้รับผลกระทบอย่างไร?
– ถ้าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ มันจะทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้นใช่ไหม?
4. ถามชี้นำเพื่อใช้เป็นทางออกสำหรับลูกค้า (Need-payoff)
ถ้าลูกค้าตระหนักถึงผลเสียของปัญหาแล้ว คุณต้องบอกลูกค้าเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของสิ่งที่คุณกำลังขาย ตัวอย่างเช่น
– อพาร์ตเมนต์/บ้านในทำเลนี้ช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้หรือไม่?
– ลูกของคุณควรได้รับสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ คุณอยากให้เราช่วยหาบ้านที่เงียบสงบกว่านี้ไหม?
โดยทั่วไปแล้ว จำนวนคำถามด้วยการใช้วิธี “SPIN Selling” จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่คุณไม่ควรถามคำถามมากจนเกินไป เพราะมันจะทำให้คุณดูไม่ฉลาด ไม่พยายามหาข้อมูล และทำให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญได้ การขายที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจที่สุดจะเกิดขึ้นได้ด้วยประสบการณ์และเวลาเท่านั้น

ภาพถ่ายโดย Gustavo Fring จาก Pexels
นอกจากนี้ ถ้าคุณอยากเป็นนักขายระดับมืออาชีพ คุณต้องฝึกถามคำถาม ดังนี้
– คำถามที่คุณถามลูกค้าต้องเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา
– ถามเชิงรุก ในการสื่อสารกับลูกค้า คุณต้องเป็นผู้ฟังที่ดี ถามคำถามเชิงรุกในเวลาที่เหมาะสม
– เน้นคำถามปลายเปิดดีกว่าคำถามที่ตอบเพียงใช่หรือไม่ใช่

ภาพถ่ายโดย Anthony Shkraba จาก Pexels
– ถามเพื่อให้ละเอียด เพื่อให้รู้ว่าจะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของคุณอย่างไร จะนำไปใช้กับลูกค้าอย่างไร และสามารถแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างไร
– พยายามเข้าใจจิตวิทยาของลูกค้าให้ได้ โดยการสังเกตให้มาก
– ไม่กดดันลูกค้าจนเกินไป ควรใช้แรงกดดันให้เหมาะสม จะช่วยทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะมีหลักการขายที่ยอดเยี่ยมอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องฝึกฝนการขายของคุณอย่างสม่ำเสมอและต้องใช้เวลากับมัน แล้วลูกค้าจะเห็นความสำคัญของคุณและซื้อของจากคุณแน่นอน
ที่มา: vannguyen.edu.vn
อ้างอิง: (1) https://www.facebook.com/188962875025436/posts/958363431418706/
(2) https://www.sales100million.com/single-post/SPIN-Selling-The-Art-of-Asking-Question-from-Sales-Training-from-Microsoft/
. . .
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลและเรียบเรียงโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels และ freepik