คุณเคยเผชิญกับปัญหาค่าใช้จ่ายเกินงบหรือเปล่า?
เชื่อว่าคนทำบ้านมือสองส่วนใหญ่มักจะใช้ความรู้สึกของตนเองเพื่อเป็นตัวแทนของคนที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านแล้วนำมาเป็นตัวตั้งในการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านในทุก ๆ ครั้งเพื่อให้ได้บ้านที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
บ้านแบบนี้ลูกค้าถึงจะชอบ
ตกแต่งแบบนี้ลูกค้าถึงจะบอกว่าดี
ดีไซน์แบบนี้ถึงจะเรียกว่าทันสมัย
ถ้าถามว่าเป็นเรื่องที่ดีไหมก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีแถมยังได้ใจลูกค้าไปอีกเต็ม ๆ เพราะนั่นหมายความว่าคุณมีความใส่ใจทั้งในเนื้องานและการบริการลูกค้า แต่ทั้งนี้เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียซึ่งเรื่องที่เป็นปัญหาที่เด่นชัดที่สุดจากการทำบ้านมือสองที่นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องเจอก็คือเรื่องของค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงซ่อมแซมเกินงบประมาณที่ตั้งไว้จนกระทบไปถึงผลตอบแทนที่ควรจะได้รับ บ้างก็ได้กำไรเพียงน้อยนิด บ้างก็เข้าเนื้ออยู่นิดหน่อย แต่บางคนก็ไม่ได้โชคดีขนาดนั้นเพราะสิ่งที่ได้พบเจอหลังจากการทำบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วก็คือคำว่า “ขาดทุน”
ความจริงที่ค้ำคอคือต่อให้ขาดทุนก็คงไม่อยากลดคุณภาพของบ้านลงเพราะคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลเสียมากกว่าได้ ทั้งเสียความไว้วางใจจากลูกค้าซึ่งมาจากการที่ไม่ได้รับบ้านที่มีคุณภาพเท่าที่ควร หรือแม้แต่ความรู้สึกของคนทำบ้านเองที่ฟ้องอยู่ว่าสิ่งที่ส่งต่อให้กับลูกค้านั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่อยากจะมอบให้
แล้วแบบนี้ต้องทำอย่างไรล่ะในเมื่อทุนก็ขาด คุณภาพก็อยากรักษา
ถ้าถามคนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อนคงจะได้รับคำตอบในเชิงที่ว่า “ก็ลดในสิ่งที่ควรลด”
แล้วจะลดอะไรระหว่างต้นทุนกับคุณภาพ
แน่นอนว่าคำตอบของคำถามนี้ การลดต้นทุนย่อมเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าอยู่แล้ว
ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ควบคุมยากแต่ควบคุมได้ก็คือต้นทุน ซึ่งไม่ใช่ต้นทุนที่มีผลโดยตรงต่อคุณภาพของเนื้องานอย่างค่าก่อสร้างหรือค่าใช้จ่ายสำหรับการต่อเติมภายในแต่เป็นต้นทุนซื้อเข้าที่เป็นค่าใช้จ่ายก้อนแรกเลยต่างหาก
แต่แล้วใครล่ะที่จะควบคุมต้นทุนซื้อเข้าได้ด้วยตนเองเพราะส่วนใหญ่แล้วก็ต้องจ่ายในราคาที่ถูกกำหนดมาแล้วทั้งนั้นแถมทรัพย์แต่ละที่ก็มีราคาไม่เท่ากันอีก
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
คุณฟ้าเป็นหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนบ้านมือสองที่สามารถทำบ้านเก่าให้เหมือนบ้านใหม่ร่วมสมัยได้โดยที่ไม่ลดคุณภาพของสิ่งปลูกสร้างลงเลยแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งยังใส่ใจในรายละเอียดของการก่อสร้างเช่นเดียวกับการทำบ้านให้กับตัวเองโดยการยึดแนวคิดว่า “บ้านที่ดี คือบ้านที่ทำให้สบายใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปในบ้าน” ซึ่งหากมองไปที่คุณภาพแบบครบครันขนาดนี้แล้วคงจะเกิดคำถามขึ้นมาตาม ๆ กันว่าทำอย่างไรให้ได้ทั้งกำไรและความเชื่อใจจากลูกค้า
กลยุทธ์ที่คุณฟ้าใช้คือ “การประกาศรับซื้อบ้านในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท” ซึ่งถือเป็นช่องทางที่น้อยคนจะทำเพราะส่วนใหญ่แล้วราคาซื้อขายมักจะมาจากการตกลงกันในภายหลังระหว่างเจ้าของทรัพย์และนักลงทุน แต่ในแง่มุมของคุณฟ้ากลับมองว่าวิธีนี้คือการกำหนดกรอบต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการซื้อเข้าเป็นอย่างดีเพราะมีความชัดเจนทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายว่าราคาที่เต็มใจจะจ่ายนั้นอยู่ในงบที่ไม่เกิน 1 ล้านบาทเท่านั้น และหลังจากที่ประกาศออกไปแล้วก็เป็นเจ้าของทรัพย์ที่นำมาเสนอขายให้ถึงมือโดยที่ไม่ต้องใช้เวลาไปกับการตระเวนหาทรัพย์ด้วยตนเองเลย
เมื่อราคาซื้อเข้าอยู่ในงบประมาณที่สามารถควบคุมได้ เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างที่ถูกวางไว้ตั้งแต่แรก ฉะนั้นแล้วค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างจึงเรียกได้ว่าอยู่ในจุดที่นักลงทุนสามารถควบคุมตัวเงินได้ทุกบาทหรือแม้แต่ผลกำไรเองก็ด้วย โดยไม่ต้องกังวลทีหลังว่าการลงทุนนั้นจะคุ้มค่าด้วยคุณภาพหรือทำว่าต้องทำไปอย่างเสียเปล่าโดยที่ไม่ได้อะไรเลย…
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik