อยากขายบ้านแต่ลูกค้ากู้ไม่ผ่านต้องทำยังไง?
สำหรับคนขายบ้านทั้งนายหน้าและเจ้าของโครงการคงไม่มีใครชอบเวลาที่ตัวเองต้องเดินออกมาจากธนาคารด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับเพราะลูกค้าที่พามากู้ถูกปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้านด้วยเหตุผลทั้งหลายแหล่ที่มีให้ได้ยินอยู่บ่อย ๆ ทั้งรายได้เพียงพอต่อการแบกรับภาระหนี้สินหรือมีภาระหนี้เก่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้ามีหนี้สินใหม่เพิ่มเข้าไปคงยากที่จะผ่อนชำระคืนได้
แต่โอกาสในการขายก็ไม่ควรถูกปล่อยทิ้งไปง่าย ๆ ไม่ใช่เหรอ?
เชื่อว่านายหน้าหรือคนขายบ้านคงไม่มีใครอยากเดินไปหาลูกค้าใหม่บ่อย ๆ หรอกหากว่าลูกค้าที่ต้องการบ้านจริง ๆ ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วแต่อาจจะติดตรงที่ว่ารายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของเขายังไม่เพียงพอเท่านั้น การได้ก้าวลงบนเรือลำเดียวกันแล้วคงเป็นเรื่องยากหากจะให้ตัดสินใจวนกลับเข้าฝั่ง ฉะนั้นนายหน้าหลายคนจึงตัดสินใจที่จะเสนอ “การกู้ร่วม”เพื่อให้ขั้นตอนการซื้อบ้านของลูกค้านั้นได้ไปต่อ
การกู้ร่วม คือ การทำสัญญาร่วมกันเพื่อขอกู้สินเชื่อหนึ่งก้อนจากธนาคารโดยมีข้อตกลงว่าผู้กู้ร่วมจะต้องร่วมกันรับผิดชอบหนี้สินก้อนนั้นทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีกำหนดไว้ว่าผู้กู้ร่วมจะต้องไม่เกิน 3 คน ซึ่งการกู้ร่วมนี้มีข้อดีตรงที่ทำให้การอนุมัติสินเชื่อนั้นมีความง่ายดายมากขึ้น ได้วงเงินสูงขึ้น และไม่ต้องแบกรับหนี้สินเพียงแค่คนเดียว การกู้ร่วมจึงเหมาะทั้งกับคนที่มีรายได้ไม่เพียงพอและกลุ่มคนที่ภาระหนี้สินเดิมอยู่แล้ว เรียกได้ว่าการกู้ร่วมนี้ไม่ต่างจากตัวช่วยชั้นดีที่จะเข้ามาสนับสนุนทั้งฝ่ายคนที่ต้องการขายบ้ายและคนที่กำลังต้องการซื้อบ้านได้ดีทีเดียว
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
ใครบ้างที่สามารถจับคู่กู้ร่วมได้
การหาคนกู้ร่วมนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้แต่ต้องเป็นคนที่มีความใกล้ชิดกันเพื่อให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจว่าผู้กู้ร่วมจะสามารถชำระหนี้สินคืนได้ โดยคุณสมบัติของผู้กู้ร่วมจะแบ่งออกได้ ดังนี้
1. คนที่มีความสนิทใกล้ชิดกัน หรือนามสกุลเดียวกัน
คุณสมบัติในข้อนี้ไม่ได้จำกัดไว้เพียงแค่พ่อ แม่ ลูก หรือพี่น้องร่วมสายเลือดที่มีนามสกุลเดียวกันเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพี่น้องต่างนามสกุลด้วย แต่ต้องมีเอกสารอ้างอิงด้วย ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสูติบัตรที่แสดงให้เห็นว่าเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดหรือมีบิดามารดาคนเดียวกัน
2. สามี ภรรยา คู่สมรส
หากเป็นคู่สมรสจะต้องมีเอกสารมาแสดงด้วยซึ่งก็คือเอกสารสำคัญการจดทะเบียนสมรส แต่หากเป็นคู่สามีภรรยาที่ไม่ได้ทำการจดทะเบียนสมรสสามารถใช้หลักฐานอื่น ๆ แทนได้ เช่น รูปถ่ายวันสมรส ใบลงบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจที่ระบุว่าอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยา หรือหนังสือรับรองบุตร ส่วนคู่รัก LGBTQ+ ก็สามารถใช้หลักฐานอ้างอิงได้เช่นเดียว
การรับผิดชอบหนี้ร่วมกันไม่ใช่การหารครึ่ง
สิ่งที่นายหน้าหรือคนขายบ้านจะต้องอธิบายให้กับคนที่ต้องการกู้ร่วมฟังให้เข้าใจตั้งแต่แรกคือการรับผิดชอบหนี้สินที่มีร่วมกัน ความเข้าใจผิดที่มักจะพบเห็นได้บ่อย ๆ คือลูกค้าคิดว่าการกู้ร่วมคือการแบ่งจ่ายคนละครึ่งแต่ความเป็นจริงคือการรับผิดชอบหนี้สินรวมทั้งดอกเบี้ยทั้งหมดร่วมกัน หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถแบกรับการชำระหนี้ต่อได้อีกฝ่ายจะต้องเป็นคนที่ต้องชดใช้หนี้สินที่เหลือนั้นต่อ รวมถึงหากมีการยึดทรัพย์ขายทอดตลาดแล้วปรากฎว่ามูลค่าทรัพย์นั้นยังไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ สถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์เจ้าของหนี้สามารถเรียกชำระหนี้คงค้างคืนจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งก็ได้เช่นกัน
กู้ร่วมแล้วกรรมสิทธิ์เป็นของใคร?
เมื่อกู้ร่วมแล้วลูกค้าอาจมีข้อสงสัยต่อไปว่าแล้วใครกันล่ะคือคนที่จะได้ครอบกรรมสิทธิ์ของบ้านหลังที่กู้ซื้อมาในเมื่อร่วมจ่ายกันมากกว่าหนึ่งคน ในส่วนนี้ผู้กู้สามารถตกลงกันได้ว่าจะให้ใครเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรืออาจจะถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันก็ได้ หากต้องการยกกรรมสิทธิ์ทั้งหมดให้แค่คนเดียวหลังจากการชำระหนี้ทั้งหมดครบแล้ว ผู้กู้ร่วมจะต้องระบุในแบบฟอร์มขอสินเชื่อตั้งแต่การนัดทำสัญญาให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง
หากลูกค้าต้องการยกเลิกสัญญาการกู้ร่วมล่ะ?
ระหว่างการผ่อนชำระหนี้อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นโดยเฉพาะคู่สามีภรรยาที่อาจมีการเลิกรากันเกิดขึ้นในภายหลัง ในกรณีนี้หรือกรณีอื่น ๆ ที่ผู้กู้ร่วมไม่ต้องการมีภาระติดพันกันแล้วธนาคารจะช่วยในการดำเนินการถอนชื่อให้แต่ต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ประกอบ ได้แก่ ความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของผู้กู้ที่เหลือ หรือระยะเวลาที่เหลือของสัญญา หากพิจารณาจากปัจจัยดังกล่าวแล้วพบว่าผู้กู้ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ที่เหลือต่อได้จะต้องหาบุคคลอื่นมากู้ร่วมแทน
การกู้ร่วมก็เหมือนกับตัวช่วยที่เข้ามาสนับสนุนทั้งคนขายบ้านและคนที่อยากได้บ้านเพราะการกู้สองคนก็ยังดีกว่ากู้คนเดียวในแง่ของการแบกรับภาระหนี้สินและนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องผ่านการวางแผนที่ดีเพราะในอนาคตหากอนาคตความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าลดลงหรือขาดส่งก็มีโอกาสที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะทำการติดตามทวงถามผ่านทางเจ้าของโครงการหรือคนขายบ้านด้วย
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
อ้างอิง:
‘กู้ร่วม’ เรื่องที่ต้องรู้ จะได้ลงเรือลำเดียวกัน..อย่างแฮปปี้ จาก https://bit.ly/3E5bxqu
Home Buyer Guide ตอนที่ 3: การกู้ร่วมและขั้นตอนการกู้ซื้อบ้าน จาก https://bit.ly/3KC740L
เรื่องควรรู้ ก่อนกู้ร่วม จาก https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/home-car/joint-loan.html
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik