ธุรกิจอสังหาฯ กำลังจะโดนหางเลขจากวิกฤตราคาน้ำมันพุ่ง!

สถานการณ์ตลาดปัจจุบันหลายคนคงจะเห็นกันแล้วว่ามูลค่าการซื้อขายต่าง ๆ ภายในตลาดต่างก็พุ่งสูงขึ้นด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสงครามหรือภาวะเงินเฟ้อที่กำลังแผ่ขยายเป็นวงกว้าง ประเทศไทยคือหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งสูงขึ้นมากแบบฉุดไม่อยู่ รวมถึงราคาน้ำมันที่กำลังถูกพูดถึงและเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้างอยู่ในขณะนี้

เป็นที่ทราบกันดีว่าหนึ่งในผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลกคือรัสเซียที่กำลังเผชิญกับปัญหาสงครามกับยูเครน เมื่อหลายกลุ่มประเทศเริ่มออกมาแบนการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียจึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาก๊าซในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น

ราคาน้ำมันพุ่งเกี่ยวข้องยังไงกับคนขายบ้าน?
เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนก็คือธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของภาระค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพที่สูงขึ้นของผู้บริโภคจนส่งผลกระทบโดยตรงต่ออำนาจการซื้อที่อยู่อาศัย และในด้านของต้นทุนก่อสร้างซึ่งนั่นอาจจะส่งผลกระทบไปถึงราคาการซื้อขายบ้านในอนาคตอันใกล้นี้

ต้นทุนก่อสร้างรูปแบบไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันพุ่ง?

1. วัสดุก่อสร้าง

ปัจจัยแรกและเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการก่อสร้างที่มีการปรับขึ้นราคาก็คือวัสดุก่อสร้างประเภท เหล็ก ปูนซีเมนต์ ที่พร้อมใจกันปรับราคากันยกแผงซึ่งนับว่าเป็นผลสืบเนื่องมาปัญหาหลักก็คือราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อค่าขนส่ง โดยเฉพาะเศษเหล็กที่นำเข้าจากต่างประเทศทำให้ราคาเหล็กในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นซึ่งคาดการณ์ไว้น่าจะมีการปรับขึ้นราคาอีกประมาณ 3-5% หรืออาจจะเข้าขั้นวิกฤตถึง 10% ก็เป็นไปได้เช่นกัน

2. วัสดุตกแต่งบ้าน

เมื่อวัสดุก่อสร้างเพิ่มราคาปัจจัยต่อมาที่เลี่ยงไม่ได้นั่นก็คือวัสดุตกแต่งบ้านหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องหรือเครื่องสุขภัณฑ์ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบมาจากราคาค่าขนส่งที่แพงขึ้นทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องปรับขึ้นราคาเพื่อรักษาเสถียรภาพของต้นทุนไม่ให้เข้าเนื้อตัวเองและเพื่อพยุงธุรกิจให้ได้ไปต่อท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ สงคราม และโรคระบาด จากการสำรวจตลาดพบว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมามีการปรับขึ้นราคาสินค้าตกแต่งบ้านต่าง ๆ ไปแล้วกว่า 5-10% ซึ่งก็ถือเป็นอัตราเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างมากทีเดียวหากมองในมุมของกลุ่มลูกค้าในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ

3. เฟอร์นิเจอร์

ผู้ค้าอุปกรณ์ตกแต่งบ้านรายย่อยหลายแห่งเริ่มปรับขึ้นราคาสินค้าตกแต่งบ้านประเภทเฟอร์นิเจอร์ขึ้นอีกเล็กน้อย และสำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศก็มีการเพิ่มราคาขึ้นตามลำดับเพื่อให้ธุรกิจได้ไปต่อในสภาวะเศรษฐกิจที่เรียกได้ว่ามีความเสี่ยงมากพอสมควร แต่ในขณะเดียวกันเสียงจากผู้ค้าเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่อย่างกลุ่มบริษัท เอสบีเฟอร์นิเจอร์ ได้ออกมายืนยันว่ายังไม่มีแผนสำหรับการปรับขึ้นราคาสินค้าเพราะมองเห็นว่าตอนนี้ความสามารถของผู้ซื้อยังเป็นเรื่องยากและต้องอาศัยการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการซื้อเฟอร์นิเจอร์หนึ่งชิ้นค่อนข้างมากทีเดียว หากมีการปรับราคาให้สูงขึ้นเกรงว่าจะลูกค้าจะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว จึงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาดก่อน

เมื่อราคาต้นทุนสูงขึ้นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าราคาบ้านจะไม่ปรับขึ้นตามไปด้วยเพราะผู้ประกอบการและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายก็เล็งเห็นผลกระทบที่จะส่งผลต่อองค์กรในอนาคตเช่นเดียวกัน จากผลสำรวจในไตรมาสแรกของปีนี้พบว่าพื้นที่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลมีการปรับราคาที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นแล้ว โดยบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นในอัตรา 6% และที่พักอาศัยประเภทห้องชุดคอนโดมิเนียมประมาณ 11% ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 2 ของปีนี้จะมีการปรับขึ้นราคาจากผู้ประกอบการอีกหลายรายเช่นกัน

ทั้งนี้มีผู้พัฒนารายใหญ่หลายรายที่ออกมาประกาศว่ายังไม่มีการปรับขึ้นราคาเพราะยังมีบ้านต้นทุนเดิมเหลืออยู่อีกหลายโครงการ และมีการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างล่วงหน้าแล้วในช่วง 3-6 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ยังสามารถพยุงค่าใช้จ่ายในเรื่องของต้นทุนการก่อสร้างต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่และรายย่อยอีกหลายองค์กรไม่ว่าจะอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพปริมณฑลหรือต่างจังหวัดก็มีความจำเป็นที่จะต้องปรับราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะโครงการแนวราบ ซึ่งคาดการณ์ว่ามีโอกาสที่ราคาจะสูงขึ้นไปอีกในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 หากสงครามยังคงยืดเยื้อต่อไป