ธุรกิจ Start-Up ทำคนเดียวหรือมีหุ้นส่วนดี?
สำนักงานสถิติประชากรแห่งสหรัฐอเมริกา (The U.S. Census Bureau) ได้รายงานว่าในสหรัฐอเมริกามีธุรกิจมากกว่า 20 ล้านธุรกิจ สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ (Start-Up) ที่ยังดำเนินการอยู่ PrivCo บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการวิจัยตลาดซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่กรุงนิวยอร์กได้กล่าวว่า มีนักลงทุนในกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้นกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็น 44 % ของบริษัททั้งหมดในสหรัฐอเมริกา

Photo by fauxels from Pexels
นอกจากนี้ CB Insights บริษัทที่เชี่ยวชาญในการบริการวิเคราะห์และรายงานข้อมูลได้รายงานข้อมูลสำคัญว่า 23% ของสาเหตุความล้มเหลวของธุรกิจสตาร์ทอัพเกิดจากการที่บริษัทไม่มีทีมผู้ก่อตั้งที่ถูกต้อง (จากการสัมภาษณ์ 101 ธุรกิจสตาร์ทอัพที่ล้มเหลว) ทำให้มีการถกเถียงในกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพว่าเมื่อเราเริ่มทำธุรกิจ เราควรทำคนเดียวหรือมีหุ้นส่วนด้วย?
ถ้าเริ่มต้นธุรกิจกับหุ้นส่วน…
ถ้าคุณอยากเริ่มต้นธุรกิจกับหุ้นส่วน อ้างอิงจากซันเดย์ สเตนเคิร์ชเนอร์ (Sunday Steinkirchner) นักเขียนคอลัมน์ธุรกิจขนาดเล็กแห่งนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes Magazine) ได้รวบรวมเหตุผลหลักๆ 3 ข้อที่ควรเลือกตัวเลือกนี้
ข้อแรก การเริ่มต้นธุรกิจกับหุ้นส่วนช่วยให้เราสามารถกระจายความเสี่ยงที่เราอาจต้องรับภาระคนเดียว ซึ่งจะช่วยลดความกดดันในการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิต
ข้อต่อไปหุ้นส่วนจะช่วยสนับสนุนเราในการทำธุรกิจ ช่วยขยายขอบเขตธุรกิจ สมาชิกจะคอยสนับสนุนและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อเติมเต็มทักษะอื่นๆ ที่ขาดหายไปในการดำเนินธุรกิจ
ท้ายสุด การเริ่มต้นธุรกิจกับหุ้นส่วนจะช่วยเราตรวจสอบและสร้างสมดุลในการทำงานได้โดยเฉพาะการตัดสินใจ ไม่เพียงเท่านั้น การเริ่มต้นธุรกิจกับหุ้นส่วนจะสร้างพลัง กระตุ้นให้คุณก้าวต่อไป และพิชิตเป้าหมายสูงสุดในธุรกิจ

David Nilssen from ideamensch.com
เพื่อให้เข้าได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เดวิด นิลส์เซ่น (David Nilssen) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอแห่ง Guidant Financial บริษัทเงินทุนขนาดเล็ก ได้แชร์บนเว็บไซต์ Entrepreneur เกี่ยวกับสิ่งที่หุ้นส่วนจะมอบให้คุณได้เมื่อธุรกิจของคุณเติบโต เขากล่าวว่า “หุ้นส่วนคือสิ่งที่ดีที่สุดที่สามารถทำให้เราเห็นภาพรวมและแยกให้เห็นขั้นตอนเล็กๆ ได้อย่างแม่นยำที่สุด นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราทำทุกโครงการประสบความสำเร็จ ทำให้บริษัทเติบโตได้เร็วขึ้นและก้าวไปได้ไกลขึ้น”
ถ้าเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเอง…
นอกจากนี้ซันเดย์ สเตนเคิร์ชเนอร์ ยังรวบรวมเหตุผลสำคัญ 3 ข้อในการเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเองอีกด้วย
ข้อแรกคุณสามารถทำตามวิสัยทัศน์ของคุณเองได้เลย เพราะคุณเป็นเจ้าของคนเดียว วิสัยทัศน์ของคุณก็คือวิสัยทัศน์ของบริษัท
ข้อที่สอง คุณสามารถดำเนินธุรกิจไปถึงระดับสูงสุดได้อย่างง่ายดาย คุณมีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้โดยไม่ต้องประชุมหรือลงคะแนนใดๆ นอกจากนี้ยังทำให้คุณรำคาญใจน้อยลง เพราะคุณต้องให้ความสำคัญกับเรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และคุณไม่ต้องรำคาญใจไปกับความคิดเห็นของหุ้นส่วนของคุณ
และข้อที่สามคือ คุณจะสบายใจและมีความยืดหยุ่นมาก เพราะถ้าไม่มีหุ้นส่วน คุณก็สามารถตั้งกฎเกณฑ์ข้อบังคับในการทำงานให้กับตัวเองได้อย่างสบายๆโดยไม่จำเป็นต้องสนใจใคร

Norm Brodsky (picture from www.inc.com)
สุดท้าย…ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณเสมอ
นอร์ม โบรดสกี้ (Norm Brodsky) เป็นผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์มา 25 ปี เคยก่อตั้งบริษัทถึง 6 บริษัท (เขาเคยสร้างบริษัทที่มีมูลค่าถึง 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เคยล้มละลายตอนอายุ 45 ปี และเคยขายบริษัทได้เงินถึง 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ตอนนี้เขาเป็นวิทยากรและคอลัมนิสต์ให้กับนิตยสาร Inc. เขาพูดเสมอว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าควรหรือไม่ควรเริ่มธุรกิจด้วยตัวเอง แต่อยู่ที่ว่าสิ่งที่คุณต้องการคืออะไรและต้องทำอย่างไรเพื่อให้ธุรกิจนั้นสร้างคุณค่าให้กับคุณได้มากที่สุด เขากล่าวว่า
“เมื่อเริ่มสร้างบริษัทสองบริษัทแรก ผมไม่ได้ทำงานกับหุ้นส่วน แต่หลังจากนั้นในสองบริษัทต่อไป ผมเริ่มมองหาหุ้นส่วนและเริ่มต้นธุรกิจกับพวกเขา ในความคิดของผม การมีคู่หูหรือไม่ไม่ใช่ปัญหา สิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญคือคุณเป็นใคร คุณต้องการอะไร และคู่หูของคุณจะช่วยคุณได้อย่างไร”

Photo by fauxels from Pexels
จากประสบการณ์ของนอร์ม โบรดสกี้ เขาสามารถตัดสินใจเลือกหุ้นส่วนด้วยหลักการง่าย ๆ ดังนี้
“ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในการเลือกทำงานกับหุ้นส่วนสำหรับผมคือราคาที่คุณจะต้องจ่าย พูดง่าย ๆ ก็คือส่วนแบ่ง ถ้าคุณต้องการคนหรือทีมที่ดีจริงๆ คุณต้องให้ส่วนแบ่งกับพวกเขาบ้าง เมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จคุณอาจจะต้องจ่ายในราคาที่แพงมาก ๆ คุณอาจให้พวกเขาร่วมถือหุ้น และหุ้นนั้นอาจมีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าจริง ๆ ที่พวกเขาควรได้รับ

Photo by fauxels from Pexels
นั่นยังไม่รวมถึงความล้มเหลว การตำหนิกัน ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ผลประโยชน์ไม่ตรงกัน การถอนทุนไม่ทำงานให้กับบริษัทอีกต่อไป…นั่นอาจทำให้ทุกอย่างวุ่นวายและบริษัทก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
เราจึงใช้เวลาหลายปีกว่าจะเข้าใจคน ดังนั้นความผิดพลาดในการเลือกหุ้นส่วนเพื่อเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นคุณควรทำความเข้าใจกับตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก คำนวณตัวเลขคร่าวๆ และวิเคราะห์ประโยชน์ของการมีหรือไม่มีหุ้นส่วนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ เพราะเป้าหมายหลักในการทำธุรกิจมักจะเป็นเพียงการสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับตัวเองเท่านั้น”
อ้างอิง: https://www.facebook.com/alphaLeaderAcademy/photos/a.101472591518404/302074854791509/
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลบทความโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital