คุณเคยได้ยินหรือเคยเห็นคำว่า “โครงการในอนาคต” ผ่านตามาบ้างหรือเปล่า?
ไม่ต้องแปลกใจหากว่ายังไม่เคยพบเจอโครงการเหล่านี้อย่างเป็นรูปเป็นร่างเพราะความจริงแล้วมันยังไม่ถูกสร้างขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ
ถ้าพูดถึงการพัฒนาด้านการตลาดของวงการอสังหาริมทรัพย์คงจะเรียกได้ว่ามีการพลิกแพลงบทบาทสู่การสร้างตำนานบทใหม่กันแทบจะทุกทศวรรษ แรกเริ่มจากการสร้างบ้านให้สมบูรณ์เป็นหลังแล้วค่อยปล่อยขายบ้านสู่ตลาดมาเป็นการนำเสนอผ่านบ้านตัวอย่างที่สร้างขึ้นมาเพียงแค่หลังเดียวก่อน จนกระทั่งมาถึงวันนี้ที่มีการเปิดการขายด้วยภาพ 3 มิติบนหน้าจอเล็ก ๆ ไม่กี่นิ้วภายใต้ชื่อ “โครงการในอนาคต”
สำหรับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงอย่างการลงทุนในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คงพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีบริษัทผู้พัฒนารายใหญ่หรือรายย่อยคนไหนที่อยากจะทุ่มหมดหน้าตักเพื่อรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในรวดเดียวโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงชะลอตัวและต้นทุนด้านการผลิตมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นการลงทุนในช่วงของการเริ่มต้นจึงค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ เพื่อพยุงธุรกิจให้ได้ไปต่ออย่างมีเสถียรภาพ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการลดต้นทุนที่ว่าก็ไม่ได้เป็นตัวฉุดดึงมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ให้น้อยลง ตรงกันข้ามกลับเป็นตัวที่สร้างมูลค่าและความแน่นอนในแง่ของการลงทุนให้กับตัวผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เสียด้วยซ้ำไป ซึ่งแผนการตลาดที่ว่าก็คือการขายบ้านด้วยภาพ 3D
การสร้างภาพ 3D ถูกมองว่าเป็นความสะดวกสบายที่สามารถจับต้องได้สำหรับการเปิดการขายโครงการในอนาคตที่ยังไม่สร้างขึ้นมา และแนวทางนี้ต่างก็เป็นที่ยอมรับมากขึ้นโดยมีการเริ่มต้นมาจากผู้พัฒนารายใหญ่ที่ต้องการคาดการณ์ตลาดการลงทุนในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งไปจนถึงผู้ประกอยการรายย่อยที่ต้องการสำรวจฐานลูกค้าจากการนำเสนอตัวบ้านผ่านภาพ 3D ก่อนการเริ่มต้นสร้างโครงการใหม่
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่ขายบ้านผ่านภาพ 3D จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการขายบ้านและด้วยสาเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องทำไปพร้อม ๆ กับการศึกษาความต้องการของลูกค้า การตั้งราคาที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มป้าหมาย และการเลือกทำเลที่อยู่ในความต้องการของคนที่กำลังมองหาบ้านและมีโอกาสในการพัฒนาในอนาคต
นอกจากนี้การวางแผนด้านการตลาดก็มีความสำคัญไม่แพ้กันโดยช่องทางที่จะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของการขายบ้านในอนาคตได้ดีที่สุด มีดังนี้
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
1. การขายบ้าน 3D ผ่านเพจ Facebook
การตลาดออนไลน์ยังคงมีส่วนในการเข้ามาช่วยผลักดันการขายให้ประสบความสำเร็จได้เสมอสำหรับการทำธุรกิจในยุคสมัยนี้ ซึ่งวิธีการที่นิยมมากที่สุดก็คือการสร้างเพจ Facebook เพื่อเป็นการให้ข้อมูลและสร้างความน่าเชื่อถือที่มากขึ้นหากเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มือใหม่ที่ยังไม่มีฐานลูกค้าเป็นของตนเอง โดยทั่วไปแล้วแรกเริ่มของการสร้างเพจ Facebook เพื่อขายบ้านผ่านแบบ 3D มีวัตถุประสงค์คือการสร้างตัวตนให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นได้มากที่สุดด้วยการยิงแอดฯ หรือการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของการขายบ้านอย่างชัดเจนตั้งแต่การเลือกอาชีพ อายุ และความสนใจเกี่ยวกับบ้านเป็นพิเศษ ซึ่งนักลงทุนหรือเจ้าของโครงการสามารถถามตอบเกี่ยวกับข้อมูลของคนที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นอายุ อาชีพ หรือสถานะทางการเงินเพื่อประกอบการพิจารณาความสามารถในการซื้อบ้านได้โดยตรง
2. การติดป้ายประกาศ
ความต้องการที่อยู่อาศัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนที่ใช้สื่อออนไลน์เพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นเพราะบางครั้งลูกค้าก็มักจะมาในรูปแบบของคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้น ๆ แต่ต้องการซื้อบ้านหลังใหม่หรือการโฆษณาที่ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์นั้นเข้าไม่ถึง การติดป้ายประกาศนั้นหากจะให้ได้ผลลัพธ์ที่สุดก็มักจะติดไว้บริเวณใกล้ ๆ พื้นที่ของโครงการ บนเส้นทางที่รถชะลอหรือขับผ่านไม่เร็วนัก หรือเป็นพื้นที่ที่ผู้คนพลุกพล่านและสามารถมองเห็นได้ง่าย
3. การใช้บริการนายหน้าเพื่อหาลูกค้าแทน
หากพูดถึงคนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคนที่ต้องการบ้านมากที่สุดก็คงไม่มีใครเชี่ยวชาญเท่ากับคนที่มีอาชีพเป็นนายหน้าเพราะคนกลุ่มนี้นอกจากจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าแล้วยังสามารถกะเกณฑ์การตลาดของคนขายบ้านได้ดีทีเดียว สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังวางแผนหากลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาซื้อบ้านโครงการในอนาคตผ่านแบบบ้าน 3D การใช้บริการผู้ชำนาญการด้านการขายอาจสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่ารูปแบบที่กล่าวมาข้างต้นก็ได้
อย่างไรก็ตามการสร้างบ้านหนึ่งหลังหรือโครงการหนึ่งโครงการต่างก็ต้องแบกรับความเสี่ยงที่มากกว่าอยู่แล้วทั้งต้นทุนการผลิตและความต้องการของตลาดที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ฉะนั้นการสร้างความมั่นใจว่าโครงการที่กำลังจะสร้างขึ้นมาในอนาคตนั้นจะเป็นที่ต้องการแน่ ๆ ผ่านการสำรวจกลุ่มลูกค้าก่อนจึงเป็นตัวช่วยในการลดความเสี่ยงได้มากกว่าการสำรวจระหว่างการก่อสร้าง หรือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการตลาดหลังจากที่โครงการสร้างเสร็จไปแล้ว
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
อ้างอิง:
การขายบ้านกระดาษ จาก สร้างบ้านขายด้วยทุน 0 บาท
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik