คุณเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่งหรือเปล่า?
ฟัง ๆ ดูแล้วคำถามนี้ช่างเป็นอะไรที่หาคำตอบยากเสียเหลือเกิน แต่เมื่อมองดูอีกมุมหนึ่งแล้วก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาอีกว่าใครบ้างที่ไม่เคยพูดคำว่า “เดี๋ยวก่อน” หรือว่า “เดี๋ยวค่อยทำ” เพราะแม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้บ่อยมาก ๆ จนต้องหาทางแก้นิสัยของตัวเองด้วยการตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มหนึ่งที่หลายคนต่างก็บอกช่วยแก้นิสัยผัดวันประกันพรุ่งได้เป็นอย่างดี แต่ทว่าพอหยิบหนังสือเล่มดังกล่าวขึ้นมาเท่านั้นแหละ ความรู้สึกบางอย่างก็ตีตื้นขึ้นมาและกลายเป็นคำพูดที่ว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยอ่าน” เสียอย่างนั้น จนกระทั่งมาถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้เปิดอ่านเลยแม้แต่หน้าเดียว
เมื่อพูดถึงการผัดวันประกันพรุ่ง หนึ่งในเรื่องที่ต้องยกให้เป็นที่สุดของการถูกเลื่อนบ่อย ๆ คงไม่พ้นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ หรือการลงทุน ลองทบทวนดูสิว่าในช่วงชีวิตที่ผ่านมาเคยได้ยินประโยคเหล่านี้ผ่านเข้ามาในหัวบ้างหรือเปล่า…
“เดี๋ยวเดือนหน้าค่อยเก็บ”
“เดี๋ยวอีกสักปีสองปีค่อยซื้อ”
หรือแม้แต่การตัดสินใจที่จะลงทุนแล้วถึงขั้นที่ซื้อหนังสือเทรดหุ้น การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเล่มละหลายร้อยหรืออาจจะถึงหลักพันมาไว้ในมือแต่สุดท้ายก็ถูกเก็บเข้ากรุกองดองเพียงเพราะคำว่า “ยังไม่มีเวลา”
ขนาดชีวิตคนเรายังต้องมีหลักประกันความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉินอย่างประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพเลย แล้วสถานะทางการเงินในอนาคตจะไม่ต้องการหลักประกันความมั่นคงเหรอ?
ถ้าต้องรอจนถึงวันที่มีความพร้อม หากระหว่างทางเกิดเรื่องไม่คาดฝันที่เข้ามาสั่นคลอนสถานะทางการเงินของคุณล่ะจะทำอย่างไร?
….
…
..
“โถ่แอดมิน… ช่วงนี้แค่เงินจะซื้อข้าวกินยังไม่พอเลย!”
.
ถ้าในหัวกำลังคิดประโยคทำนองนี้อยู่ก็อยากจะบอกว่าให้ใจเย็น ๆ ก่อนเพราะยังไม่ได้บอกว่าต้องทุ่มเงินก้อนใหญ่ที่เก็บมาทั้งชีวิตไปกับการลงทุนในครั้งเดียวเสียหน่อย เพียงแค่จะบอกว่าบางครั้งคนเราก็ต้องหาทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้าแม้ว่าจะยังไม่ได้อยู่ในจุดที่หลังชนฝาก็ตาม
ภาพจำของของใครหลาย ๆ คนที่มีต่อคำว่า “การลงทุน” มักจะอยู่ในรูปแบบของการใช้เงินมหาศาลเพื่อเข้าไปเสี่ยงดวงเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่จะถูกผลตอบแทนก้อนใหญ่หล่นทับ แต่ในขณะเดียวกันคนอีกหลุ่มหนึ่งก็ต้องสูญเงินที่ลงไปทั้งหมดเพียงเพราะว่าโชคไม่เข้าข้าง แต่นั่นคือนิยามทั้งหมดของคำว่า “การลงทุน” อย่างนั้นหรือ?
ไม่จริงหรอก!
คุณคิดว่าการลงทุนมีแค่การเล่นหุ้นหรือการเข้าร่วมกองทุนมูลค่าสูงเท่านั้นเองเหรอ…
บนโลกนี้ยังมีช่องทางให้ทำเงินอีกมากมายไม่ต่างจากโอกาสที่ลอยคว้างอยู่เต็มอากาศ เพียงแค่รอว่าใครจะเป็นคนที่สามารถหยิบฉวยมันลงมาสร้างผลกำไรให้กับตัวเอง บางครั้งอาจจะมาในรูปแบบของสิ่งที่หลาย ๆ คนใฝ่หา หรือบางครั้งอาจจะมาในรูปแบบของสิ่งที่ผู้คนไม่ต้องการเลยก็ได้
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
ถ้าคิดว่าผลกำไรต้องแลกกับการทุ่มหมดหน้าตัก อยากให้ลองอ่านเรื่องนี้ดูก่อน…
คุณเล็ก… ตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงหนึ่งในทำเลที่ไม่ใช่เขตเศรษฐกิจ ไม่ได้เข้าถึงการพัฒนา ไม่ได้อยู่ในสายตาของนักลงทุนหรือแม้แต่ตัวคุณเล็กเองก็ไม่ได้เห็นถึงประโยชน์ในเชิงการค้าจากที่ดินแปลงนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ที่ซื้อเพราะ…มันถูก!
อ้าว!…. นี่ไม่ใช่เรื่องอสังหาฯ มือสองหรอกเหรอ?
แน่นอนล่ะว่าไม่ใช่ แต่คุณไม่อยากรู้หรือว่านอกจากการทำรีโนเวทบ้านขายแล้วนักลงทุนบ้านมือสองอย่างคุณเล็กเขาสร้างความมั่นคงทางการเงินแบบอื่นให้กับตัวเองอย่างไรบ้าง…
เมื่อได้ที่ดินมาในราคาถูก ฉะนั้นจึงไม่ต้องตั้งคำถามกับศักยภาพของที่ดินให้เสียเวลาเพราะที่ดินแปลงนั้นยังไม่มีแม้กระทั่งทางเข้าออกเสียด้วยซ้ำ ทั้งที่จุดบอดเด่นชัดมากกว่าข้อดีแต่สุดท้ายคุณเล็กก็ยอมเจียดเงินซื้อที่ดินแปลงนั้นเอาไว้ด้วยต้นทุนที่น้อยมาก ๆ แลกกับที่ดินขนาดร้อยกว่าตารางวาด้วยความคาดหวังที่ว่า “เก็บไว้ลงทุนในระยะยาว”
ถ้าเก็บไว้ขายปลายปีนี้ กำไรทั้งหมดอาจจะขึ้นแค่หลักหมื่น (ถ้าขายได้นะ)
เก็บไว้ขายปีหน้าอาจจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อย (ถ้ามีนักลงทุนตาดีมาเห็น)
สุดท้ายคุณเล็กก็เก็บที่ดินแปลงนั้นเอาไว้โดยไม่ได้ส่งต่อให้กับคนที่ต้องการหรือนักลงทุนที่ผ่านมาเห็นเลยสักคนจนกระทั่งผ่านไป 3 ปี เมื่อกลับไปดูที่ดินแปลงนั้นอีกครั้งก็พบว่ามีการถางหญ้าถมทางเข้าไปในพื้นที่บริเวณข้างเคียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และที่มากไปกว่านั้นคือราคาของที่ดินที่ดีดพุ่งสูงขึ้นเป็นตารางวาละ 2 หมื่นบาท
เชื่อหรือไม่ว่าหากคุณเล็กตัดสินใจขายหลังจากที่ถือครองมาแค่ 3 ปีจะสามารถสร้างผลกำไรได้มากกว่าราคาต้นทุนที่ซื้อเข้ามากถึง 14 เท่าเลยทีเดียว ผู้อ่านลองหยิบเครื่องคิดเลขขึ้นมากดเล่น ๆ ดูเถอะว่าคุณเล็กใช้ต้นทุนน้อยแค่ไหนในการซื้อที่ดินแปลงนั้น และถ้าเก็บไว้อีกสัก 5 หรือ 10 ปี จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อีกกี่เท่า
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ก็เป็นตัวการันตีได้แล้วว่าผลกำไรที่งดงามอาจไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยมูลค่าในการลงทุนที่สูงลิบลิ่วจนยากจะเอื้อมถึงเสมอไป ถ้าต้องเสี่ยงลงทุนหลักล้านแล้วมีกำลังทรัพย์ไม่มากพอก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของนักลงทุนมือฉมังที่ช่ำชองในตลาดไปก่อนแล้วกัน ส่วนคนที่มีต้นทุนอยู่อย่างจำกัดหรือเพิ่งวางแผนจะเริ่มต้น การลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ที่มีต้นทุนน้อยกว่าหรือแม้แต่การซื้อที่ดินราคาถูก ๆ สักแปลงไว้ในรูปแบบของการออมที่ดินก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยเช่นกัน
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik