คุณเคยฝังใจกับเรื่องบางเรื่องหรือเปล่า?
ไม่ว่าใครก็คงจะมีเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ยังคงเป็นความฝังใจที่ไม่อาจลืม มันอาจจะเพิ่งเริ่มต้นขึ้นได้ไม่นานหรือผ่านเวลามาแล้วหลายต่อหลายปีแต่กลับไม่เคยเปลี่ยนความรู้สึกที่อยู่ในใจได้เลยแม้แต่วินาทีเดียวถึงแม้ว่าในปัจจุบันสิ่ง ๆ นั้นจะเปลี่ยนไปโดยไม่เหลือเค้าเดิมแล้วก็ตาม
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนก็เช่นว่าครั้งหนึ่งคุณเคยถูกสุนัขตัวหนึ่งไล่กัดเพียงเพราะว่ามันไม่คุ้นเคยกับคนแปลกหน้า แต่เมื่อเวลาผ่านไปและสุนัขตัวนั้นเริ่มเห็นคุณบ่อย ๆ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วอย่างการวิ่งไล่กวดหรือการเห่ากรรโชกก็ไม่เกิดขึ้นอีก แต่ทว่าสิ่งที่ยังคงติดค้างอยู่ในใจคุณเองก็คงไม่พ้นความหวาดระแวงที่ว่า “หมาตัวนี้มันดุมาก” และเกิดความกลัวว่าจะถูกกัดเข้าไปอีกรอบทั้งที่ความเป็นจริงแล้วมันอาจจะแค่มองตามเฉย ๆ หรือเหม็นเบื่อหน้าคุณไปแล้วก็ได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงเรื่องอสังหาริมทรัพย์แล้วหลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะเริ่มสงสัยว่าเรื่องของหมานั้นเกี่ยวข้องยังไงกับการสร้างบ้าน ถ้าอย่างนั้นก็ขอตอบอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่มีความเกี่ยวโยงกันเลยแต่ที่หยิบยกมาเป็นตัวอย่างก็เป็นเพราะว่าต้องการชี้ให้เห็นถึงเรื่องของความกังวลใจและความฝังใจต่างหาก
แล้วความฝังใจเกี่ยวกันอย่างไรกับการทำบ้านอีกล่ะ?
ถ้าเป็นบ้านมือหนึ่งที่เพิ่งสร้างใหม่อาจจะไม่เกี่ยวเลยหรือหากจะมีก็คงมีน้อยเกินกว่าที่จะกล่าวถึง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พูดถึงบ้านมือสองก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกันเต็ม ๆ
อย่างไรน่ะหรือ?
หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่าน ๆ ตามาบ้างสำหรับการนำเสนอขายบ้านมือสองที่ใช้รูปภาพของบ้านเก่าเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับบ้านที่ผ่านการรีโนเวทมาเรียบร้อยแล้ว บางหลังอาจจะเปลี่ยนแปลงเพียงแค่เล็กน้อยหากไม่ได้อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมาก แต่บางหลังก็เปลี่ยนไปราวกับว่าเป็นบ้านคนละหลังเมื่อเทียบกับสภาพก่อนการปรับปรุงที่ดูทรุดโทรมและเก่าล้าสมัย แม้ว่าจะมีลูกค้าหลายคนที่เต็มใจจะเข้าไปจับจองเป็นเจ้าของบ้านที่ว่า แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายต่อหลายคนที่เป็นอันต้องโบกมือลาทั้งที่สภาพของบ้านหลังนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปราวกับหน้ามือหลังมือแล้วก็ตาม คงเป็นเพราะลึก ๆ แล้วไม่อาจลดความกังวลใจที่มีต่อสภาพบ้านก่อนการปรับปรุงทั้งเรื่องของโครงสร้างอาคารและความกังวลใจในเรื่องอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นก็เคยเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนบ้านมือสองหลายคนต้องพลาดโอกาสในการขายทรัพย์จากความกังวลใจมาแล้วเช่นกัน
บางครั้งการแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้เป็นผลลัพธ์ในทางบวกเสมอไปแม้ว่าแนวทางนี้จะถูกสานต่อกันมาในแวดวงของการทำบ้านมือสองมานานมากแล้วก็ตาม ดังนั้นแล้วคนทำบ้านมือสองที่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้จึงริเริ่มที่จะมองหาวิธีในการขายบ้านในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคุณฟ้า และวิธีที่เธอใช้รับมือกับความกังวลใจของลูกค้าก็คือการขายบ้านด้วยภาพ 3D
(อย่าเพิ่งงงล่ะว่าทำไมถึงขายบ้าน 3D ทั้งที่เป็นบ้านมือสอง นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณฟ้าใช้เทคนิคการหาลูกค้าก่อนการปรับปรุงบ้านเช่นเดียวกับการขายบ้านมือหนึ่งน่ะสิ)
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
เดิมทีแล้วภาพ 3D จะมีไว้เพื่อบรีฟงานกับผู้รับเหมาก่อสร้างแต่คุณฟ้ากลับเห็นโอกาสที่จะได้ใช้ประโยชน์จากภาพเหล่านั้นมากกว่าการเป็นแบบจำลองของการก่อสร้าง นั่นก็คือการเสนอขายบ้านมือสองที่อยู่ในแผนของการปรับปรุงให้กับลูกค้า ถึงแม้ว่าความน่าเชื่อถือจะลดน้อยลงมากกว่าการขายบ้านด้วยภาพจริงแต่สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นสิ่งทดแทนที่เข้ามาปิดช่องโหว่ของความกังวลใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดีไม่ว่าบ้านนั้นจะมีสภาพก่อนการปรับปรุงที่ทรุดโทรมมากน้อยแค่ไหนก็ตาม
ถ้าถามว่าอะไรคือจุดขายที่ทำให้ลูกค้าเชื่อ…
คุณฟ้าตอบว่า…ผลงานและความใส่ใจ
เธอไม่เคยบอกให้ลูกค้าต้องเชื่อในสิ่งที่ตนเองกำลังนำเสนอไปพร้อม ๆ กับรูปภาพ 3D เพียงแค่ไม่กี่รูปแต่เป็นการนำเสนอด้วยการขายประสบการณ์การทำบ้านมือสองไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งสิ่งที่ลูกค้าจะได้เห็นก็คือบ้านในแบบที่วางไว้ในขั้นตอนของการเจรจา และบ้านที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมโอนในวันที่การก่อสร้างปรับปรุงนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตามกระบวนการและขั้นตอนที่กล่าวมานี้เกิดขึ้นและผ่านไปโดยที่ลูกค้าไม่ตั้งคำถามเกี่ยวกับสภาพของบ้านที่ตัดสินใจเลือกซื้อเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เอาล่ะ…มาถึงตรงนี้คิ้วของผู้อ่านคงจะขมวดอยู่แน่ ๆ เพราะเกิดข้อสงสัยว่าหากสภาพบ้านจริงออกมาไม่ตรงตามปกล่ะจะทำให้เกิดการเปลี่ยนใจในภายหลังหรือเปล่า…
คำถามนี้ก็เคยเกิดขึ้นในใจของผู้เขียนเช่นเดียวกันแต่ทว่าครั้งหนึ่งที่มีโอกาสได้นั่งสัมภาษณ์คุณฟ้าด้วยตนเองก็ได้พบกับคำตอบที่ว่าโอกาสนั้นเกิดขึ้นได้น้อยมากเพราะคนทำบ้านมือสองต่างก็อยากให้บ้านที่อยู่ในมือออกมาได้ตรงตามปกที่เสนอไว้ให้มากที่สุดอยู่แล้วแม้ว่าจุดเริ่มต้นจะเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ไม่สมบูรณ์แบบเลยก็ตาม และคุณฟ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอใส่ใจในรายละเอียดทั้งหมดของเนื้องานตั้งแต่การเลือกลายกระเบื้องไปจนถึงการวางแบบดีไซน์ที่ทันสมัยให้กับลูกค้าด้วยตนเอง
และด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดในข้างต้นจึงกลายเป็นว่าคุณฟ้าไม่ได้ขายแค่บ้าน แต่เธอขายผลงานและความใส่ใจของตัวเองไปพร้อม ๆ กันด้วย
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik