ทำไมการทำงานศิลปะถึงสร้างสมาธิได้
เราอาจเคยได้ยินประโยชน์ของการทำสมาธิ แต่บางครั้งเราก็พบว่ามันยากที่จะทำได้ แต่รู้หรือไม่ว่า “ศิลปะ” สามารถทำได้
เราอาจรู้เกี่ยวกับประโยชน์ที่ลึกซึ้งของการแสดงออกทางศิลปะน้อยมาก อย่างไรก็ตาม การทำงานศิลปะก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการเข้าถึงและการเยียวยาจิตใจของเราได้อย่างลึกซึ้ง

ภาพถ่ายโดย Anna Shvets จาก Pexels
หลุยส์ บูร์ชัวส์ (Louise Bourgeois) ศิลปินเชื้อสายฝรั่งเศส – อเมริกันที่เสียชีวิตในปี 2010 เมื่ออายุ 98 ปี กล่าวไว้ว่า “ศิลปะเป็นหลักประกันของการมีสุขภาพจิตที่ดี” และเธอยังกล่าวต่อไปอีกว่า “…นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ฉันเคยพูดออกมา”
สำหรับชนชั้นนายทุนแล้ว ศิลปะหรือการทำงานศิลปะ เป็นเครื่องมือในการรับมือกับอารมณ์ที่ฟุ้งซ่าน เธอบอกว่าเธอจำได้ว่าเคยทำประติมากรรมชิ้นเล็ก ๆ จากเศษขนมปังที่โต๊ะอาหารค่ำตอนที่เธอยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เพื่อรับมือกับพ่อที่มีอำนาจเหนือกว่าเธอ ดังนั้นศิลปะจึงเป็นมากกว่าการหลบหนีจากความเป็นจริง แต่มันทำให้เธอมีสุขภาพจิตที่ดีด้วย

ภาพถ่ายโดย Gustavo Fring จาก Pexels
ศิลปะบำบัดมีผลในการรักษาโรคต่าง ๆ รวมถึงภาวะซึมเศร้า บาดแผลทางจิตใจ และความเจ็บป่วย ในการศึกษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเมื่อไม่นานมานี้ การบำบัดด้วยศิลปะร่วมกับการรักษาแบบดั้งเดิม เช่น เคมีบำบัดและการฉายรังสี ไม่เพียงแต่ลดอาการที่มักมาพร้อมกับมะเร็ง เช่น ความเจ็บปวด ความเมื่อยล้า และความวิตกกังวล แต่ยังช่วยยืดอายุขัยให้ยืนยาวได้อีกด้วย การศึกษาวิจัยนี้มีพื้นฐานมาจากความเชื่อที่ว่า “กระบวนการสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานศิลปะคือการเยียวยาและเสริมสร้างชีวิต ช่วยให้ผู้ป่วยหรือครอบครัวของพวกเขารู้จักความตระหนักรู้ในตนเองมากขึ้น สามารถรับมือกับอาการของโรคต่าง ๆ และปรับตัวเข้ากับประสบการณ์ที่ตึงเครียดและกระทบกระเทือนจิตใจได้ง่าย”

ภาพถ่ายโดย Anna Shvets จาก Pexels
นี่เป็นข้อดีของการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่คุณจะได้รับเมื่อคุณลองลงมือทำ
1. ศิลปะช่วยสร้างสมาธิและการเชื่อมโยงตนเอง
พวกเราส่วนใหญ่สามารถเข้าใจได้ว่าศิลปะช่วยให้หลุดพ้นจากความเป็นจริงที่โหดร้ายในบางครั้ง ทั้งยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของเรา โดยเฉพาะทำให้เรามีความมั่นคงทางอารมณ์ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการรู้จักรับผิดชอบต่อความรู้สึกของตนเอง
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า ประโยชน์ของการทำสมาธิและแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังนั้น เหตุผลหนึ่งที่ทรงพลังมากที่สุดก็คือ มันช่วยการส่งเสริมการยอมรับ การทำงานศิลปะก็เป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง ซึ่งช่วยฝึกจิตใจให้เข้มแข็งเพื่อสร้างความตระหนักรู้และการยอมรับความรู้สึกและความคิดโดยปราศจากอคติ และช่วยในการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ

ภาพถ่ายโดย Gustavo Fring จาก Pexels
ศิลปะก็เช่นเดียวกับการทำสมาธิ ช่วยให้เราลดความคิดเชิงลบและความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งได้ ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงกับตัวตนที่แท้จริงของเราได้ ตรงข้ามกับความรู้สึกที่ฉาบฉวยหรือการรู้จักตัวตนผิด ๆ เวลาที่เราจมอยู่กับความคิดและอารมณ์ของเรามากจนเกินไป
เอคฮาร์ต โทล (Eckhart Tolle) ผู้สอนด้านจิตวิญญาณได้เขียนไว้ว่า “การรู้จักตัวตนที่แท้จริงผ่านความคิดและอารมณ์ที่พาไป ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ๆ เกี่ยวกับตนเอง ตัวตนที่จอมปลอมเหล่านี้ไม่มีวันทำให้คุณมีความสุขหรือประสบความสำเร็จได้ เพราะแท้จริงแล้วส่วนใหญ่มันคือความไม่สบายใจ ความกลัว ความไม่พอดี และการไม่บรรลุผลของคุณนั่นเอง” ดังนั้นการทำงานศิลปะจึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเข้าถึงสภาวะของจิตใจที่แท้จริงและการหลุดพ้นจากความวุ่นวายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายเจ็บป่วย
2.ศิลปะให้ความรู้สึกลื่นไหลและเป็นอิสระ
เช่นเดียวกับการทำสมาธิ ศิลปะช่วยให้เราเข้าถึงส่วนที่ลึกและเงียบที่สุดในตัวเรามากขึ้น เราจะเข้าสู่สภาวะของการลื่นไหลและการตระหนักรู้อยู่กับปัจจุบัน โทลได้เขียนไว้ว่า “ศิลปินที่แท้จริง ไม่ว่าพวกเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม พวกเขาได้สร้างสรรค์ผลงานโดยปราศจากความคิด แต่พวกเขาสร้างสรรค์ผลงานด้วยความสงบภายในจิตใจ”
ศิลปินมักจะสัมผัสได้ว่าการสร้างสรรค์งานศิลปะสามารถเข้าถึงจิตสำนึกได้อย่างแท้จริงโดยไม่ต้องอาศัยการตีความหรือการอธิบายใด ๆ ทั้งสิ้น พวกเขาจะรู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดสามารถชั่งวัดได้ทางกายภาพ ไม่มีร่างกายหรือรูปแบบใดที่จะสามารถแยกออกจากกันได้

ภาพถ่ายโดย Eren Li จาก Pexels
3. ศิลปะช่วยให้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาได้
กระบวนการสร้างสรรค์งานศิลปะสามารถแทนที่การสื่อสารด้วยวาจาได้ เพราะความคิดสร้างสรรค์เป็นภาษาของเราเองและช่วยให้มนุษย์สามารถเชื่อมโยงระหว่างกันและกันและเชื่อมโยงกับตนเองได้โดยไม่ต้องใช้ภาษาพูด การบำบัดด้วยศิลปะอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการพูดแทนสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายหรืออธิบายออกมาได้ เช่น การบำบัดด้วยศิลปะในเด็ก
นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสามารถเข้าใจประเด็นหรือสาระสำคัญเมื่อดูงานศิลปะหรือฟังเพลงได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับที่มาของมัน ศิลปะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดออกมาได้ จึงทำให้เรามีอิสระในการแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงโดยปราศจากสิ่งเจือปน

ภาพถ่ายโดย Maahid Photos จาก Pexels
4. ศิลปะช่วยให้เรามีจิตใจที่มั่นคงและไม่วอกแวก
ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะสังเกตว่า เมื่อบูร์ชัวส์ถูกขอให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานที่ศิลปะที่เธอสร้างสรรค์ขึ้นมาตลอดช่วงชีวิตของเธอ เธอได้พูดถึงสิ่งที่ทำให้เธอประทับใจมากที่สุดคือ “ศิลปะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับฉัน” ศิลปะเป็นเรื่องของการหล่อเลี้ยงจิตใจให้มีความมั่นคงและสามารถเชื่อมโยงกับตัวตนที่แท้จริงของเราได้

ภาพถ่ายโดย Gustavo Fring จาก Pexels
หากคุณอยากลองสร้างสมาธิให้กับตัวเอง ลองสร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วยตนเองสักชิ้น อาจจะเป็นผลงานชิ้นเล็ก ๆ อย่างเช่น การทำการ์ดวันเกิดให้กับคนที่คุณรัก การระบายสี Meditative Art ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ การวาดรูปกับลูกน้อยของคุณ แล้วคุณจะรู้สึกภูมิใจในผลงานที่คุณสามารถสร้างสรรค์ออกมาได้ด้วยมือของคุณเอง ทั้งยังทำให้คุณมีสมาธิและเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อีกด้วย
อ้างอิง: Maia Gambis
https://www.washingtonpost.com/news/inspired-life/wp/2015/08/25/why-making-art-is-the-new-meditation/
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลบทความโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital