ขึ้นชื่อว่านักลงทุนเมื่อมีเงินก้อนในมืออยู่แล้วคงไม่มีใครอยากดูตัวเลขที่ลดลงเรื่อย ๆ หรอกจริงไหม? การหาลู่ทางในการทำเงินให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นสิ่งแรกและสิ่งที่เดียวที่คนกลุ่มนั้นตัดสินใจที่จะทำไม่ว่าจะด้วยการเล่นหุ้น ลงทุนกับสินทรัพย์ดิจิทัล หรือแม้แต่การลงทุนกับสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ใครต่อใครต่างก็บอกว่าได้ผลตอบแทนกลับมาดีแน่ ๆ
การขายใบจองคอนโดฯ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนดีในระยะเวลาที่รวดเร็ว แถมยังมีโอกาสทำกำไรเป็นเท่าตัวโดยไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองเข้าไปถือครองทรัพย์สินเองเสียด้วยซ้ำ มาถึงตรงนี้นักลงทุนหน้าใหม่หลายคนคงจะกำลังหูผึ่งกันเลยทีเดียว แต่เดี๋ยวก่อน…การลงทุนไม่ว่าในรูปแบบไหนก็มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้นแม้แต่การลงทุนโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ก็ตาม ฉะนั้นการทำการบ้านให้ดีจึงเปรียบเสมือนการสร้างเกราะป้องกันความเสี่ยงก่อนที่จะลงสนามจริงนั่นเอง
การขายใบจอง คืออะไร?
การขายใบจอง คือ การขายต่อสิทธิ์ในการซื้ออาคารห้องชุดที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาก่อสร้างจากนักลงทุนสู่นักลงทุนด้วยกันเอง หรืออาจจะเป็นนักลงทุนขายต่อให้กับคนที่กำลังมองหาห้องพักอยู่ก็ได้ ซึ่งใบจองนี้จะทำการขายในช่วง Presale ของโครงการที่มาพร้อมโปรโมชั่นลดราคาเพื่อให้กลุ่มลูกค้าได้เข้ามาจับจองห้องชุดให้ได้มากที่สุด และแน่นอนว่าลูกค้าคนไหนที่เข้ามาจองก่อนก็จะได้ห้องทำเลดี ๆ ไปก่อนเช่นกัน
การซื้อใบจองอาจมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นปลาย ๆ หรือหลักแสนต้น ๆ และอาจจะมากกว่านั้นในกรณีที่เป็นโครงการที่อยู่ในย่านที่มีความต้องการสูง บางคนคงเข้าใจว่าการซื้อใบจองนั้นคือการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในห้องชุดนั้นแล้วแต่แท้จริงไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยเพราะผู้จองจะได้รับเพียงแค่สิทธิ์ในการซื้อห้องที่จองไว้ก่อนเท่านั้น ส่วนการลงทุนเก็งกำไรจากใบจองนั้นจะเป็นการขายสิทธิ์ต่อให้กับคนที่ต้องการห้องชุดจริง ๆ แต่จองไม่ทันช่วง Presale หรืออยากได้ห้องชุดที่อยู่ในโครงการนั้น ๆ ในภายหลัง โดยการซื้อขายใบจองจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการนัดเซ็นสัญญากับโครงการ
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
นักลงทุนควรขายใบจองอย่างไรให้ได้กำไรเป็นเท่าตัว
1. เลือกโครงการที่อยู่บนทำเลที่มีความต้องการสูง
การเลือกทำเลไม่ว่าจะเป็นธุรกิจไหน ๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันเพราะสถานที่ตั้งจะหมายถึงความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและโอกาสในการสร้างผลกำไร การขายใบจองเองก็เช่นกัน หากนักลงทุนต้องการขายใบจองได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วหรือช้าที่สุดภายในระยะเวลา 1 เดือน ควรทำการซื้อใบจองในย่านที่มีการคมนาคมเข้าถึงได้อย่างสะดวกง่ายดาย เช่น ติดรถไฟฟ้าและทางด่วน หรืออยู่ในย่านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา หรือย่านธุรกิจการค้าหลัก เป็นต้น
2. เลือกตำแหน่งยูนิตที่คนอยากอยู่
ถึงแม้ว่าจะเป็นโครงการที่มีความต้องการสูงแต่การแข่งขันเพื่อแย่งชิงยูนิตดี ๆ ภายในโครงการเดียวกันก็ยังมีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ทั้งในเรื่องของขนาดห้องชุดที่มีความแตกต่างกันออกไป บางห้องมีความกว้างมากพอที่จะสามารถแบ่งแยกสัดส่วนได้อย่างชัดเจนในขณะที่บางห้องเพียงแค่เปิดประตูเข้ามาก็ต้องเจอกับเคาน์เตอร์ครัวแล้ว หรือในบางครั้งความได้เปรียบก็ขึ้นอยู่กับทัศนียภาพภายนอกด้วย นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาซื้อใบจองในช่วง Presale ก็จะเลือกจองห้องที่มีวิวดี ๆ และอยู่ชั้นบนมากกว่าชั้นที่อยู่ด้านล่างเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนและต้องการความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า ดังนั้นหากต้องการห้องชุดที่มีความต้องการสูงจึงควรเข้าไปจับจองตั้งแต่ช่วงวันแรกของการ Presale เพื่อให้ได้มีโอกาสในการเลือกมากกว่าและหลีกเลี่ยงห้องชุดที่มีโอกาสขายได้ยากที่อาจไม่สร้างผลกำไร
3. โปรโมชั่นโครงการเพิ่มโอกาสในการขายได้มากกว่า
ถ้าหากช่วง Presale คือช่วงทำกำไรของโครงการก็ให้ถือเสียว่านั่นคือโอกาสในการสร้างผลกำไรของนักลงทุนด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วในช่วงเปิดการขายในระหว่างที่กำลังก่อสร้าง เจ้าของโครงการมักจะผลักดันโปรโมชั่นใหม่ ๆ ออกมาเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แถมเฟอร์นิเจอร์หรู หรือเครื่องใช้อื่น ๆ ที่จะแถมมาพร้อมกับห้องชุดนั้น ๆ ซึ่งการขายใบจองของนักลงทุนสามารถใช้โปรโมชั่นเหล่านี้มากระตุ้นการขายของตัวเองได้ด้วยเช่นกันเพราะสิ่งที่ลูกค้าได้ไปจะไม่ใช่เพียงแค่ห้องเปล่า ๆ แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มไปด้วยและจะช่วยให้ลูกค้าสามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อของเข้าบ้านในช่วงแรกได้อีกด้วย
4. ชื่อเสียงของโครงการคือการสร้างความน่าเชื่อถือในการขาย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนกับโครงการใดโครงการหนึ่งนั้นก็คือชื่อเสียงของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือคนที่เป็นเจ้าของโครงการนั้น ๆ ยิ่งถ้าเป็นองค์กรที่มีคนรู้จักเป็นวงกว้างหรือติดอันดับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับประเทศจะยิ่งได้รับความไว้วางใจและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นเพราะนักลงทุนเองจะไม่ต้องกังวลเลยว่าโครงการที่อยู่ในช่วงก่อสร้างนั้นจะถูกเททิ้งกลางทางหรือเปล่า หรือโครงการจะได้รับมาตรฐานการก่อสร้างหรือไม่ นอกจากนี้ชื่อเสียงเหล่านั้นยังเป็นตัวการันตีด้วยว่าห้องชุดจะขายได้หรือไม่ได้และหากย้อนกลับไปดูสถิติในการขายก็คงมองเห็นแล้วว่าศักยภาพในการส่งต่ออาคารห้องชุดไปถึงมือลูกค้านั้นมีมากพอที่จะลงทุนด้วยหรือเปล่า
จากผลสำรวจพบว่าโครงการที่มีการขายหรือปล่อยจองหมดครบทุกยูนิตมีโอกาสที่จะเพิ่มราคาขายสูงขึ้นในกรณีที่มีการปล่อยห้องชุดต่อหลังจากที่สร้างเสร็จแล้วหรือต่อให้เป็นการขายเพียงแค่ใบจองก็มีโอกาสสร้างผลกำไรมากขึ้นถึง 20-30% จากต้นทุนใบจอง ดังนั้นหากใบจองนั้นเป็นของโครงการที่ตอบโจทย์ทั้งทำเลและที่ตำแหน่งของห้องชุดจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการขาย และได้ผลตอบแทนกลับมาในระยะเวลาอันรวดเร็วในหลักแสนหรือหลักล้านก็ได้
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
อ้างอิง:
การขายใบจองคอนโด ปี 2564 ยังทำกำไรอยู่มั้ย จาก https://bit.ly/3O4JUm8
ขายดาวน์คอนโด ขายใบจอง ขายโอน 3 รูปแบบการขายคอนโด ต่างกันอย่างไร จาก https://bit.ly/3juKoE4
ขายดาวน์ ขายใบจอง ยิ่งขายได้เร็วยิ่งมีกำไร จาก https://www.thaihometown.com/knowledge/849/
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik