ไม่ว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไหน เราทุกคนย่อมอยากเห็นบ้านเมืองและประเทศชาติพัฒนาเดินไปข้างหน้าอยู่แล้ว เพราะถ้าเมืองๆ นั้นมีการบริหารจัดการที่ดีย่อมส่งผลให้ประชากรของประเทศมีความสุข ประชากรมีคุณภาพส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่
ตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดคือ ผลการจัดอันดับเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดประจำปี 2021 โดย Economist Intelligence Unit พบว่า ประเทศออสเตรเลีย มีเมืองที่ติดอยู่ 10 อันดับแรกถึง 4 เมือง ได้แก่ แอดิเลด, เพิร์ธ, เมลเบิร์น และบริสเบน
ส่วนที่เหลือก็มีซูริก และ เจนีวา จากสวิตเซอร์แนด์, โอ๊กแลนด์ และ เวลลิงตัน จาก นิวซีแลนด์ ปิดท้ายด้วย โอซาก้า และ โตเกียว จากญี่ปุ่น
แต่การจะเปลี่ยนเมืองเมืองหนึ่งจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันง่ายๆ ยิ่งนับวันแต่ละเมืองมีประชากรเพิ่มมากขึ้นหลากหลายเชือชาติ หลายชนชั้นเข้ามาอาศัย การเปลี่ยนนโยบายครั้งหนึ่งอาจจะเป็นผลดีต่อคนกลุ่มหนึ่งแต่ก็จะกระทบต่อคนอีกกลุ่มหนึ่งเกิดเป็นความได้เปรียบเสียเปรียบและกลายต้นเหตุนำมาซึ่งความขัดแย้งกันจนเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นเมืองที่ถดถอยและด้อยพัฒนา
ถ้าเอ่ยถึงเมืองที่กำลังถดถอย ชื่อของเมืองก็อธแธมคงเป็นหนึ่งในนั้น เมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอาชญากรรมสูงไม่มีทีท่าว่าจะพัฒนา คนในเมืองล้วนแต่แก่งแย่งชิงดีกัน สิ่งนี้ทำให้สองแม่ลูก อาเธอร์ เฟล็ก กับแม่ เพนนี เฟล็ก ต้องเผชิญชีวิตดังกล่าว
พวกเขาทั้งคู่อาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ อาเธอร์ทำงานเป็นตลกงานเลี้ยงเพื่อหางานมาเลี้ยงแม่ที่ป่วย ส่วนตัวเขาเองก็ป่วยด้วยโรคระบบประสาทที่ทำให้เขามีอาการหัวเราะโดยไม่ได้ตั้งใจ
ชีวิตของอาเธอร์ตกอับ ไม่ว่าจะทำงานที่ไหนก็มักถูกกลั่นแกล้ง ถูกหลอก และไม่ได้รับความเป็นธรรมใดๆ จนวันหนึ่งเขาพบจดหมายที่แม่ของเขาเขียนถึงโธมัส เวห์น มหาเศรษฐีของเมืองก็อธแธม ที่บอกว่า โธมัส เวห์น คือพ่อแท้ๆ ของเขา
ด้วยความอยากรู้ความจริง เขาเดินทางไปหาโธมัสแต่กลับได้รู้ความจริงว่า โธมัสไม่ใช่พ่อแท้ๆ และเขาเป็นแค่เด็กที่เพนนีรับมาเลี้ยง ไม่ใช่ลูกจริงๆ
อาเธอร์ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครได้อีก หนทางสุดท้ายคือ การไปที่โรงพยาบาลที่เกิดและขโมยแฟ้มประวัติของเขาออกมา ซึ่งมันเผยความจริงที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงว่า แม้แต่คนที่เขาเรียกว่า “แม่” ยังหลอกตัวเขามาทั้งชีวิตและทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนจากคนที่ “ถูกหัวเราะเยาะ” มาเป็น Joker ที่ “เปลี่ยนก็อธแธมให้กลายเป็นเมืองแห่งความน่ากลัวไปตลอดกาล”
นี่คือ ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อ วาคีน ฟีนิกซ์ คว้ารางวัล Best Actor จากเวทีออสการ์ 2020 ในบท “โจ๊กเกอร์” และจากนี้คือ 3 ข้อคิดหลักที่เราได้ภาพยนตร์ Joker
- จงสงบเพื่อเอาชนะทุกสิ่ง
คุณเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีแค่ไหน หากต้องเจอกับปัญหาที่ท้าทายความสามารถในการแก้ไข เราจะเลือกที่ลุกลี้ลุกลนหรือค่อยๆ คิดหาทางออกเพื่อแก้ปัญหา
คุณลองดูอาเธอร์ เขาเจอปัญหามาตลอดแต่เขาพยายามองด้านดี หาทางแก้ไข และอธิบายให้คนอื่นเข้าใจกับสิ่งที่เกิดกับเขา
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นนักแสดงตลกได้ตลอด แต่เขาก็ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
- ไม่ว่าเราจะเป็นอะไร คุณก็สำเร็จได้
อาเธอร์ป่วยด้วยโรคประสาทแต่เขาก็สู้ชีวิตและดูแลคุณแม่ที่ป่วยไปด้วย แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากจะออกทีวี การฝึกฝนจนได้ขึ้นการแสดงเพียงไม่กี่นาทีของเขากลับถูกนำไปออกอากาศและเป้นที่รู้จักจนได้รับเชิญให้ไปออกรายการทีวี
หลายคนในสังคมล้วนเกิดมาพร้อมความผิดปกติทางร่างกาย พวกเขาเลือกที่จะสู้และทำสิ่งต่างๆ ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถที่มี เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีความมุ่งมั่นมากและไม่ย้อท้อ ทุกคนก็ล้วนมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
- เรียนรู้ที่จะให้อภัยคนอื่น
อาเธอร์เป็นคนอารมณ์ร้อนและเขาก็เลือกที่ตัดสินคนด้วยอารมณ์มากกว่าการให้อภัย
ถ้าคุณต้องเจอกับการถูกหัวเราะ ดูถูก คุณจะแสดงมันออกอย่างไร ตัวเราเองห้ามความโกรธของตัวเองไม่ได้เสมอไป แต่ถ้าเรารู้จักการควบคุมอารมณ์ตัวเองแล้วล่ะก็ ตัวคุณก็สามารถเอาชนะคำดูถูกได้อย่างแน่นอน
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: impawards