ตามเทรนด์แต่อย่าตามใจ
การสร้างบ้านโดยยึดตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลักนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะคนสร้างบ้านส่วนใหญ่ก็มักจะเอาความต้องการของคนที่จะอยู่อาศัยมาเป็นที่ตั้งก่อนเสมอ แต่ในบางครั้งความต้องการของคนที่จะเข้ามาอยู่ในบ้านก็ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องตามหลักสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงกลายมาเป็นหนึ่งประเด็นสำคัญที่คนสร้างบ้านจะต้องกลับมาทบทวนว่าความชอบนั้นอยู่บนความเหมาะสมหรือไม่
หากอิงตามความนิยมในปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่าการนำลายหินอ่อนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในสร้างลวดลายภายในบ้านนั้นคือความสวยงามที่เรียบง่ายและก็ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้อยู่อาศัยมาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นลายหินอ่อนบนพื้นบ้านหรือลายหินอ่อนบนผนังห้อง อาจจะด้วยคุณสมบัติที่ทนทานและมีอายุการใช้งานที่นานกว่าวัสดุประเภทอื่น ๆ หินอ่อนจึงถูกนำมาใช้ต่อเติมส่วนต่าง ๆ ของบ้านอย่างแพร่หลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแม้ว่าจะต้องแข่งกับราคาที่สูงลิบลิ่วก็ตาม
แต่ในขณะเดียวกันหลายคนคงจะเคยเห็นผ่าน ๆ ตากันมาบ้างกับกระเบื้องหินอ่อนที่เป็นส่วนประกอบของห้องครัว ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่หากคุณคือคนหนึ่งที่ต้องการคงไว้ซึ่งความสวยงามของหินอ่อนมันคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่หากจะเห็นว่ามันถูกนำมารองคราบน้ำมันร้อน ๆ ที่กระเด็นออกมาจากกระทะ
แต่เดี๋ยวก่อน….บทความนี้ไม่ได้จะบอกว่าให้หยุดใช้หินอ่อนในทันที แต่จะเป็นการบอกเล่าว่าทำไมหินอ่อนจึงไม่เหมาะกับงานต่อเติมในครัว ซึ่งเหตุผลก็มีดังต่อไปนี้
1. หินอ่อนไม่ทนต่อกรด
แม้ว่าจะมีความทนทานแต่ไม่ได้รวมไปถึงความคงทนของความสวยงาม หินอ่อนเมื่อเจอกับสารประเภทกรดจะทำให้เกิดรอยด่าง โดยเฉพาะกับลายหินอ่อนที่เป็นสีขาวเพราะเมื่อโดนน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวจะทำให้สีซีดและกลายเป็นด่างสีเหลืองแทน นอกจากนี้หินอ่อนยังมีอีกคุณสมบัติหนึ่งที่เป็นข้อดีแต่ทว่าก็เป็นข้อเสียเช่นกันเมื่อมันถูกนำมาทำท็อปครัว นั่นก็คือการดูดซึมที่ดีเยี่ยม ซึ่งมันคงไม่ดีสักเท่าไหร่หากสิ่งที่หินอ่อนดูดซับเข้าไปคือคราบสกปรกภายในครัว
2. หินอ่อนไม่ทนต่อไอเค็ม
หินอ่อนจะไม่ทนต่อไอเค็มเพราะจะเป็นตัวกัดกร่อนผิวหน้าของหินอ่อนจนเสียสภาพ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่บ้านพักตากอากาศส่วนใหญ่ที่อยู่บริเวณใกล้ทะเลจะหลีกเลี่ยงการใช้หินอ่อนมาตกแต่งภายในบ้าน แต่ข้อจำกัดก็ไม่ได้มีแค่ลมทะเลเพียงอย่างเดียวเพราะภายในห้องครัวก็มีการประกอบอาหารเช่นเดียวกัน ยิ่งถ้าหากเป็นหินอ่อนที่มีราคาถูกคุณภาพก็จะด้อยลงตามไปด้วย แทบจะไม่ต้องพูดถึงหากพื้นกระเบื้องนั้นถูกกัดกร่อนไปนาน ๆ
3. หินอ่อนไม่ทนต่อความร้อน
หินอ่อนไม่ทนต่อสภาพของแสงแดดหรือแม้แต่ห้องครัวที่มีความร้อนสูงเพราะถือว่าเป็นตัวเร่งชั้นดีที่ทำให้สีของหินอ่อนนั้นซีดเร็ว ส่วนใหญ่ที่เลือกใช้หินอ่อนเป็นส่วนประกอบภายในห้องครัวมักจะหันทิศทางของครัวไปในทางที่แดดส่องไม่ถึงแต่นั่นก็เป็นการแก้ไขปัญหาได้เพียงเล็กน้อย และอีกวิธีหนึ่งก็คือการเลือกกระเบื้องหินอ่อนสีขาว เมื่อถูกความร้อนซีดลงแต่จะมองเห็นไม่ชัดเจนมากนัก
4. หินอ่อนไม่ทนต่อรอยขีดข่วน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าห้องครัวคืออีกพื้นที่หนึ่งของบ้านที่มีการใช้งานมากพอ ๆ กับห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นเช้า สาย บ่าย หรือเย็นก็มักจะถูกใช้งานอยู่บ่อย ๆ ทั้งการประกอบอาหารและการทำความสะอาดภาชนะระหว่างวัน ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เกิดรอยขีดข่วนขึ้นมาเลยแม้แต่รอยเดียว และเมื่อพูดถึงหินอ่อนที่มีคุณสมบัติไม่ทนต่อรอยขีดข่วนอยู่แล้วจึงไม่เหมาะที่จะนำมาเป็นตัวเลือกในการต่อเติมห้องครัวเลยแม้นิดเดียว
หากลองมองย้อนกลับไปมองสถาปัตยกรรมสมัยก่อนโดยเฉพาะฝั่งตะวันตกจะเห็นได้ว่าหนึ่งในวัสดุชั้นเยี่ยมที่นำมาเพิ่มความสวยงามให้กับพระราชวังหรือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ก็คือหินอ่อน ซึ่งเป็นตัวช่วยยืนยันว่านี่คือวัสดุที่มีความทนทานและสวยงามอีกอย่างหนึ่งที่อยู่คู่กับสิ่งปลูกสร้างมาหลายยุคสมัย เพียงแต่ว่าหากนำไปใช้ผิดที่ผิดคุณสมบัติที่สวยงามเหล่านั้นก็อาจจะกลายเป็นของที่มีตำหนิได้ในเวลาอันรวดเร็วก็ได้เช่นกัน
อ้างอิง:
หินอ่อน (Marble) กับคุณสมบัติที่ควรรู้ และการเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ก่อนนำไปใช้ในการตกแต่ง จาก https://www.wazzadu.com/article/2371
ข้อดีและข้อเสียของหินอ่อนมีอะไรบ้าง จาก http://th.buy-marble.com/info/what-advantages-and-disadvantages-of-marble-2594745.html
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik