เป็นไปได้ไหมที่จะทำให้บ้านดูหลังใหญ่ขึ้นโดยไม่ต้องขยายพื้นที่เพิ่ม…
ไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้บ้านหลังเล็ก นั่นเป็นเรื่องจริงที่ว่าใครต่อใครต่างก็มองหาบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตรวมถึงอิสระในการเดินไปเดินมาโดยที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกขังอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมเพราะถ้าเป็นบ้านที่ทำให้รู้สึกอึดอัดคงจะเรียกว่าบ้านไม่ได้
“บ้านหลังนี้ดูแคบไปหน่อยนะ”
นี่อาจจะเป็นหนึ่งในคำพูดของคนที่มาเยี่ยมชมบ้านได้บอกกล่าวเอาไว้ จากจุดเล็ก ๆ ที่ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาก็สามารถเป็นไปได้และสุดท้ายอาจจะกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้บ้านขายออกยาก
ปัญหาบ้านหลังเล็กอาจหมดไปหากทำการต่อเติมให้ดูกว้างขวางมากขึ้นเพราะการต่อเติมบ้านก็คงไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่แต่ปัญหาคือเรื่องของต้นทุนงบประมาณที่บานปลายต่างหาก ถ้าให้พูดตรง ๆ คงไม่มีเจ้าของโครงการคนไหนอยากเสียเงินเพิ่มและนอกจากนี้ยังไม่รวมถึงเรื่องพื้นที่ที่ทำการจัดสรรไว้และบางพื้นที่คงไม่สามารถต่อขยายส่วนต่าง ๆ ของบ้านออกไปได้อีกแล้ว
ถ้ากำลังเผชิญปัญหาหล่านี้อยู่และได้ผ่านมาอ่านบทความนี้ บอกได้เลยว่ามาถูกทางแล้วเพราะนี่อาจจะเป็นทางออกที่จะทำให้บ้านหลังหนึ่งดูกว้างขึ้นได้โดยไม่ต้องทำการต่อเติมเลยแม้แต่ส่วนเดียว
1. ใช้ผนังสีขาวเป็นหลัก
ถ้าพูดถึงสีที่มีความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันคงจะเป็นสีอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากสีขาว ด้วยเอกลักษณ์ของสีที่บ่งบอกถึงความเรียบง่ายจึงเหมาะสำหรับการนำมาเป็นสีขององค์ประกอบในงานสร้างสรรค์หลากหลายแขนงโดยเฉพาะในด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้าง สีขาวคือหนึ่งในเทคนิคชั้นดีในการพรางตาสำหรับห้องพักหรือที่อยู่อาศัยที่มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่การใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น คอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่กะทัดรัดหรือเป็นยูนิตที่เล็กที่สุดในโครงการ เป็นต้น เพราะสีพื้นจะทำให้ทัศนวิสัยในการมองนั้นกว้างขึ้นแม้ว่าห้องนั้นจะมีขนาดเพียงแค่ไม่กี่ตารางเมตรก็ตาม แต่หากกังวลว่าสีขาวจะทำให้ภายในบ้านหรือที่พักอาศัยนั้นดุจืดชืดเกินไปอาจจะใช้สีอื่น ๆ ที่มีความใกล้เคียงได้ เช่น สีเบจ หรือสีเหลืองอ่อนที่สะท้อนแสงได้ดีเช่นกัน
2. มีเส้นนำสายตา
การสร้างเส้นนำสายตาหรือการสร้างลวดลายบนผนังเป็นอีกทางเลือกสำหรับการพรางตาเพื่อให้ขนาดของห้องนั้นดูกว้างขึ้นกว่าที่เป็น แต่การสร้างลวดลายนั้นไม่ใช่การวาดภาพต่าง ๆ ลงไปบนผนังอย่างที่หลายคนเข้าใจแต่เป็นการสร้างลายเส้นแบบแนวตั้งหรือแนวนอนโดยไม่ต้องมีการลงสีอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้าไปอีกต่างหาก ถ้าเป็นห้องที่มีเพดานต่ำควรใช้ลายทางแนวตั้งเพื่อลวงตาให้กำแพงดูสูงขึ้น หรือถ้าอยากแต่งห้องใหม่ให้มีความโฉบเฉี่ยวดูมีมิติมากขึ้นการทาสีเป็นแนวทแยงมุมก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการแต่งห้องที่ทำให้เพดานดูสูงขึ้นได้เช่นเดียวกัน
3. เลือกสีพื้นให้เหมือนกัน
เรื่องสีพื้นห้องหากเป็นคอนโดมิเนียมคงไม่มีเรื่องให้ต้องห่วงเพราะการออกแบบถูกวางมาในรูปแบบเดียวกันแล้วทั้งโครงการ แต่สำหรับบ้านที่มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่แล้วเจ้าของบ้านต้องการต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้านของตัวเองให้ดูกว้างขึ้น การเลือกสีพื้นห้องหรือการปูพรมให้มีความกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งหลังจึงมีความสำคัญไม่แพ้กับการทาสีเลยโดยสีที่ใช้อาจจะเน้นไปที่โทนสีธรรมชาติที่เป็นโทนใกล้เคียงกับผนังหรือมีการตัดกันเล็กน้อยแต่ไม่โดดเด่นมากจนเกินไป วิธีนี้จะช่วยให้การมองเห็นนั้นดูกว้างขึ้นโดยที่เจ้าของบ้านไม่จำเป็นจะต้องรื้อหรือต่อเติมส่วนขยายภายนอกก็ได้
4. การเลือกเฟอร์นิเจอร์
การเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านแต่ละครั้งแน่นอนว่าจะต้องตามใจผู้อยู่อาศัยอยู่แล้ว แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งมันคงจะไม่ดีสักเท่าไหร่หากว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อมานั้นกินพื้นที่ในบ้านไปแล้วหลายต่อหลายส่วนจนทำให้บ้านดูรก แออัด หรือมีพื้นที่ให้เดินเพียงแค่ไม่กี่ระเบียดนิ้ว การเลือกเฟอร์นิเจอร์สำหรับการตกแต่งบ้านจึงต้องอาศัยการพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยโดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่น้อย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบภายในได้ให้คำแนะนำเอาไว้ว่าบ้านที่มีเพดานต่ำหรือพื้นที่แคบควรซื้อเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็กหรือขนาดกลางจะเหมาะกว่าเพราะสามารถช่วยในเรื่องของการพรางตาให้ภายในห้องมีพื้นที่กว้างขึ้นและระยะห่างจากพื้นถึงเพดานดูกว้างขึ้นด้วย
5. ติดตั้งผนังกระจก
การติดตั้งกระจกใสที่สูงจากพื้นจรดเพดานแทนการทำผนังปูนแบบปิดคือวิธีการพรางตาชั้นเยี่ยมที่เหล่านักออกแบบนิยมมากที่สุดเพราะนอกจากจะทำให้เพดานของบ้านนั้นดูสูงและกว้างขึ้นแล้วยังเป็นจุดที่แสงแดดจากภายนอกจะส่องเข้ามาได้อย่างเต็มที่อีกด้วย ผนังกระจกมีความโดดเด่นด้านผสมผสานการออกแบบภายนอกให้เข้ากับการตกแต่งภายในอย่างลงตัว เพราะคุณสมบัติหลักของกระจกโปร่ง สว่าง ทำให้บริเวณภายในบ้านหรือห้องพักได้รับแสงแดดอย่างทั่วถึง ดังนั้นกระจกใสจึงเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่อยู่ในการตัดสินใจเสมอเมื่อต้องการปรับเปลี่ยนห้องใหม่ให้ดูมีมิติและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
การขยายพื้นที่ห้องให้กว้างขึ้นนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องอาศัยการทุบหรือรื้อโครงสร้างเสมอไปเพราะการใช้สีหรือการวางรูปแบบภายในบ้านก็เป็นศาสตร์และศิลป์ด้านการออกแบบอีกวีธีหนึ่งเช่นกัน ลองคิดเล่น ๆ ดูว่าค่าทุบผนังหนึ่งครั้งกับค่าสีหนึ่งถังมีราคาต่างกันมากน้อยแค่ไหน ตัวเลขเหล่านั้นจะเป็นตัวบอกราคาที่คุณต้องจ่ายหากไม่รู้เรื่องนี้ แต่เมื่อรู้แล้วก็เท่ากับว่าในจำนวนเหล่านั้นคุณจะไม่ได้เสียเลยสักบาท
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
อ้างอิง:
เปลี่ยนห้องเล็กเป็นห้องกว้างง่ายๆ ด้วย 5 เทคนิคทาสีห้อง จาก https://www.lh.co.th/th/lh-living-concept/tips/3-wall-painting-techniques
5 วิธีช่วยพรางตา ทำห้องจิ๋วให้ดูใหญ่ด้วยการเลือกสีที่เหมาะสม จาก https://www.sanook.com/home/13033/
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik