สิ้นสุดเสียงปรบมือกึกก้องหนึ่งในโชว์จากเทศกาลดนตรี Cochella 2022 นาทีนี้ไม่มีใครไม่เห็นเรื่องราวของหนึ่งในศิลปินสัญชาติไทยที่ได้ขึ้นเวทีระดับโลก แล้วถูกต้องที่สุด เรากำลังพูดถึง ‘มิลลิ’ ศิลปินสาวผู้มากความสามารถที่แสดงศักยภาพออกมาจนสร้างอิมแพคสะเทือนไปทั่วโลก
ควันหลงจากโชว์ของศิลปินสาววัยเพียง 19 ปี เธอคือศิลปินเดี่ยวสัญชาติไทยคนแรกที่ได้มีโอกาสครั้งสำคัญขึ้นแสดงโชว์ในเวที Cochella ซึ่งเป็นเวทีเดียวกับศิลปินระดับโลกมากมาย
ในด้านของความสามารถไม่มีใครคัดค้านแม้แต่น้อย ด้วยวัยเพียงเท่านี้ แต่เธอทำให้ช่วงเวลาไม่ถึง 15 นาทีบนเวทีมีความหมาย ทั้งการร้อง แร็ป หรือเต้น ก็ดูจะลื่นไหลและลงตัวเอาคนดูจนอยู่หมัด บวกกับชุดสีแดงเพลิงที่ให้สะท้อนถึงความร้อนแรงและสนุกสนานในตัวตนออกมาอย่างเข้ากัน
แต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือในด้านเนื้องานที่เธอเฉิดฉายบนเวที เธอได้ใส่ความเป็นไทยออกมาในงานอย่างชัดเจน ด้วยการเขียนเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษเพื่อสะท้อนความเป็นไทยออกมาผสมผสานกับความล้อเลียนจิกกัดอย่างเจ็บแสบและสนุกสนาน
ก่อนที่ช่วงท้ายเธอได้ทิ้งไพ่ใบเด็ดด้วยการบรรยายสรรพคุณของข้าวเหนียวมะม่วงเมนูของหวานที่แสดงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน พร้อมกับคว้ามากินโชว์บนเวทีที่มีคนดูมหาศาลจากทั่วโลก ทำให้เป็นการจบโชว์ด้วยความยิ่งใหญ่ และเป็นที่มาของคำว่า ‘ซอฟต์พาวเวอร์’
แนวคิดที่ทำให้เธอขับเคลื่อนสังคมแบบซอฟต์ ๆ กลายเป็นที่พูดถึงของสังคมอย่างมากมาย จนส่งผลถึงข้าวเหนียวมะม่วงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า กระตุ้นยอดขายในชั่วข้ามคืนได้อย่างเฉียบขาด
และแม้ว่านับจากวันที่เธอแสดงก็ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังเป็นที่พูดถึงอย่างไม่ขาดปาก กลายเป็นกระแสสำคัญไม่ว่าอาชีพไหนต้องผ่านหูผ่านตามาบ้าง และเชื่อว่าจะเป็นแบบนี้อีกนานต่อไป
ในช่วงเวลาที่จำกัดกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งสามารถสร้างสิ่งต่าง ๆ ผลกระทบตามมามากมาย แม้จะมีความเห็นทั้งสองด้านแต่ด้านบวกก็ยังมากกว่าอยู่ดี และเชื่อได้เลยว่าทุกอย่างผ่านการคิดมาอย่างดีแล้ว หน้าที่ของเธอคือทำออกมาให้ดีที่สุด ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ให้กาลเวลาเป็นเครื่องตัดสิน แต่นั่นไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า คือได้ทำ…จนมันเกิดขึ้นจริงแล้ว
เมื่อเห็นแบบนี้ก็อดกลับมาถามตัวเองไม่ได้ว่าทุกวันนี้เราทำสิ่งที่มีความหมายอะไรอยู่ ปลายทางของสิ่งที่กำลังทำมันคืออะไร และสุดท้าย เราจะเก่งไปเพื่ออะไรกันแน่?
ผู้คนวุ่นวายในสังคมกำลังขับเคี่ยวแก่งแย่งชิงดีเพื่อที่จะให้ตัวเองเป็นเบอร์หนึ่ง ทั้งที่ความจริงคนเหล่านั้นอาจยังไม่รู้เลยว่าการเป็นเบอร์หนึ่งมันดีต่อพวกเขาอย่างไร จริงอยู่ว่าคุณอาจจะได้ลาภ ยศ เงินทอง ความก้าวหน้า หรือการยอมรับจากผู้คนในสังคม
แต่นั่นจะใช่สิ่งที่ทุกคนต้องการเหมือนกันอย่างนั้นเหรอ?
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือความต้องการของมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ย่อมแตกต่างกัน ความฝันก็เช่นกัน ไม่มีใครเหมือนกับใครร้อยเปอร์เซ็นต์ และก็ไม่มีใครต่างกันร้อยเปอร์เซ็นต์
หลายคนตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อจะได้รับคำชื่นชม บางคนทำเพื่อที่จะร่ำรวยมีเงินใช้จ่าย บางคนต้องการแสดงศักยภาพเพื่อให้ผู้คนยอมรับและภาคภูมิใจ
แต่ก็ใช่ว่าคนเก่งจะประสบความสำเร็จเสมอไป บางคนในตอนที่กำลังศึกษา เรียนเก่ง ได้เกรดเฉลี่ยที่ยอดเยี่ยม แต่พอจบมาก็อาจเจอชีวิตในทางตันไปต่อไม่ถูก หรือบางคนเรียนไม่เก่ง ไม่ค่อยเข้าเรียน โดดเรียนบ่อย ๆ ก็อาจจะเจอเส้นทางที่ใช่ตั้งแต่ยังไม่จบก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น
ทุกคนถูกสร้างมาไม่ได้ให้เก่งทุกด้าน จะต้องมีด้านที่ถนัดมากที่สุด และถนัดน้อยที่สุดเหมือนกันทุกคน หากเจอด้านที่ชอบและถนัดที่สุดก็จงพัฒนาไปให้ไกลเท่าที่ทำได้ ที่ต้องพูดแบบนี้ก็เพราะว่าแม้ว่าเราจะรู้ตัวว่าชอบอะไร การจะทำให้เป็นเบอร์หนึ่งก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดี เพราะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าสิ่งที่เราถนัดที่สุดจะไม่มีคนอื่นถนัดมากไปกว่าเราแล้ว หรือต่อให้เราคือเบอร์หนึ่งได้ สักวันก็ต้องมีคนมาทดแทนที่เสมอ ไม่มีใครอยู่ค้างฟ้าได้ตลอดไปหรอก
หรือถ้าเราเจอว่าด้านไหนเราถนัดน้อยที่สุด แน่นอนว่าสิ่งที่ควรทำคือพัฒนาให้มากที่สุด และไม่จำเป็นต้องเท่ากับด้านถนัด แค่เอาตัวรอดไม่ให้เป็นจุดด้อยมาขัดขวางทางเดินของจุดเด่นก็พอแล้ว
สิ่งที่คนประสบความสำเร็จมากมายต้องเจอคือการหาความหมายของชีวิต แม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวยมีข้าวของเครื่องใช้ครบทุกอย่าง สุดท้ายเขาก็แค่ต้องการอะไรที่เรียบง่ายบ้าง ไม่จำเป็นต้องฉาบฉวยใหญ่โต เพราะสุดท้ายวันหนึ่งพวกเขาจะเข้าใจเองว่ามันก็แค่ภายนอกเท่านั้น
มีอีกหลายคนที่ไม่ต้องการพื้นที่มากมายในสื่อ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในทุกมุมของโลก ความต้องการเขาขอแค่เพียงได้ทำสิ่งที่เขาถนัดในทุกวัน ทำออกมาให้ดีที่สุด เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ เชื่อไหมว่าเพียงเท่านี้ก็สร้างความสุขและพลังได้ไม่ต่างจากที่ ‘มิลลิ’ ได้ทำเลย
การเริ่มต้นสิ่งเล็กน้อยมักจะส่งผลกระทบเพียงปลายนิ้วในช่วงแรก แต่ถ้าหยุดกลางคันคุณจะไม่มีวันเห็นมันขยับแม้แต่นิดเดียว หากลองทำต่อไปเรื่อย ๆ อย่างถูกต้อง ให้เชื่อไว้เลยว่าจากปลายนิ้วสั่นสะท้านจะค่อย ๆ ขยายตัวเรื่อยไป จนคุ้มค่ากับการรอคอย
ความเก่งคือสิ่งที่ทุกคนควรต้องหาให้เจอ จะทำให้เห็นแนวทางในการใช้ชีวิตที่สนุกขึ้น แต่ถ้ายังไม่เจอก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปเร่งรัดอะไรเลย ขอแค่สนุกระหว่างทางและพอใจกับตัวเองดีที่สุดแล้ว
แม้สุดท้ายโลกใบนี้จะไม่รู้จักคนที่เหยียบดวงจันทร์คนที่สอง หรือ คนที่ประดิษฐ์หรือสร้างอะไรก็ตามเป็นคนที่สอง แต่มันจะไปสำคัญอะไร ในเมื่อคุณผู้สร้างได้รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ไม่จำเป็นเลยต้องเป็นที่จดจำ แค่ขอเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของตัวเองก็ยิ่งใหญ่จนหาคำมาเปรียบไม่ได้แล้ว
..
เรียบเรียงโดย: กฤตเมธ อันสมัคร
กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik