เคยลองตั้งคำถามกับตัวเองดูไหมว่าเป้าหมายชีวิตของตัวเองคืออะไร? มีหลายคนที่ทุกวันนี้กำลังเรียนเพื่อเดินตามความฝัน หวังจะมีงานดีๆ ทำเพื่อหาเงินไว้รองรับคุณภาพชีวิตที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าในอนาคตการงาน การเงิน หรือชีวิตจะเป็นไปตามที่ตัวเองคาดหวังไว้ได้มากน้อยแค่ไหน เอาเข้าจริงๆ บางคนยังต้องฝืนทนทำในสิ่งที่ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ ไม่ได้มีความสนใจ จนกระทั่งไม่ได้เลือกเอง แต่ด้วยสถานการณ์หรือข้อจำกัดบางอย่างมันบีบให้ต้องอดทนทำสิ่งเหล่านั้นต่อไป
หลายคนต่างต้องเคยเจอหรือได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่คนใดคนหนึ่งที่มักจะชอบพูดกรอกหู คอยฝังข้อมูลชุดความคิดเดิมๆ ใส่สมองอยู่เสมอว่า ให้ตั้งใจเรียน โตไปจะได้เป็นหมอ พยาบาล หรือรับราชการ ชีวิตจะได้สบายๆ เป็นหน้าเป็นตาแก่ครอบครัว นั่นเพราะสังคมช่วงที่ผ่านมาผ่านการปลูกฝังและเข้าใจกันมาตั้งแต่นมนานว่ามีเพียงไม่กี่สาขาอาชีพที่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้ ฉะนั้นปัจจุบันเด็กสมัยใหม่เลยยังคงได้ยินได้เห็นชุดความคิดเหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง
หากถามว่าความคิดและความเชื่อเหล่านั้นผิดไหม แน่นอนว่าไม่ผิด จริงอยู่ที่อาชีพเหล่านั้นจะสร้างและมีคนกลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จได้ แต่นั่นไม่ใช่สำเร็จทุกคนเสมอไป หากแต่ลองดันตัวเองออกไปจากกรอบความคิดเก่าๆ มองออกไปในโลกกว้างจะเห็นว่ายังมีสิ่งที่สามารถทำให้คนคนหนึ่งกลายเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นจะกล้าเอาชีวิตไปลงทุนและเสี่ยงกับความสามารถ ความพยายามและเป้าหมายของแต่ละคนได้มากน้อยแค่ไหน
มีคนหลายคนที่ดึงชีวิตออกจากกรอบความคิดเดิมๆ แล้วประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเองทั้งในระดับประเทศหรือแม้แต่ระดับโลก ผ่านแนวคิดและลงทุนชีวิตไปเสี่ยงกับสิ่งที่อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ หาคุณค่า หาประโยชน์ หรือให้เกียรติกับมันไม่ได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบเล่นเกมมากๆ จะกลายเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์ จนติดอันดับมหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง บิล เกตส์ (Bill Gates) หรืออย่าง เจฟฟ์ เบโซส (Jeff BeZos) ผู้สร้างเงินกำไรจากการเปิดบริษัทค้าปลีกในโลกออนไลน์บนแพลตฟอร์มชื่อดัง แอมะซอน (Amazon) ก็เป็นอีกคนที่ติดหนึ่งในมหาเศรษฐีระดับโลก หรือแม้แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Watten Buffett) ที่กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีระดับโลกด้วยการเทรดหุ้นอีกเช่นกัน
ทุกวันนี้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องของการลงทุนไปหมด การพาตัวเองออกมาจากกรอบแนวคิดเดิมๆ ก็เช่นกัน กว่าจะตัดสินใจที่จะไม่ทำตามแบบแผนที่มันควรจะเป็นไปในแบบขนบธรรมเนียมเดิมๆ ก็ต้องเสี่ยงที่จะถูกมอง ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกผิดแผกแปลกไปจากสังคม เพราะชุดความคิดเก่าๆ ถ้าแตกต่างเท่ากับไม่ถูกต้อง ฉะนั้นมันก็เหมือนกับการเอาชีวิตไปลงทุน ใช้ความกล้าที่จะเสี่ยงไปกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุนด้วยซ้ำ แต่เชื่อเถอะ แค่ก้าวออกมาจากจุดเดิมๆ ก็จะได้เห็นแนวคิดและมุมมองในวงที่กว้างขึ้น รับรองว่าการเอาชีวิตมาเสี่ยงกับการลงทุน ไม่ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุนก็ตาม แต่สิ่งที่ได้นั้นจะกลายเป็นประสบการณ์ที่สามารถไปต่อยอดชีวิตในอนาคตได้แน่นอน
อ้างอิง:
ข้อมูลบางส่วนโดย คุณทัศรินทร์ จันทร (เทรดเดอร์ และวิทยากรด้านการเงิน)
…
หมายเหตุ: เป็นการเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ฐานิต ดงหงษ์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels