เลือกบ้านแบบการตลาด: เล็กน้อยที่ทันสมัยสไตล์มินิมอล

เมื่อไหร่ก็ตามที่พูดถึงเรื่องของความเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อยมักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญหรือหากจะมีก็คงมีอยู่เพียงน้อยนิดจนแทบจะมองไม่เห็น อาจจะถูกหลงลืมไปตามกาลเวลาหรือค่อย ๆ ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายไปอยู่ในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อยกระดับความสำคัญให้มากขึ้นก็ได้แต่ทว่าความเล็กน้อยที่ว่ากลับใช้ไม่ได้เลยกับความเป็น “บ้านสไตล์มินิมอล”

เมื่อสิ่งปลูกสร้างเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไปพร้อม ๆ กับยุคสมัยหรือความต้องการของผู้อยู่อาศัยในช่วงเวลานั้น ๆ ทำให้สิ่งที่เคยคิดว่าเป็นความยั่งยืนที่จะอยู่ตลอดไปก็กลายเป็นเพียงความสนใจเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเช่นเดียวกับบ้านที่โดดเด่นด้วยสีฉูดฉาด ส่วนเรื่องที่เคยคิดว่าไม่น่าสนใจก็กลายเป็นหนึ่งในจุดขายชั้นดีของตลาดอย่างบ้านมินิมอล

นิยามของความเป็นมินิมอล

คำว่า “มินิมอล” ที่สื่อความหมายไปถึงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างในปัจจุบันด้วยเอกลักษณ์ของความเรียบง่ายทั้งในส่วนของการเลือกโทนสีไปจนถึงการออกแบบภายในที่คำนึงถึงการใช้สอยเฉพาะสิ่งอย่างที่จำเป็นเท่านั้น เดิมทีแล้วความเป็นมินิมอลไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงหนึ่งถึงสองศตวรรษที่ผ่านมาแต่เป็นความนิยมที่ก่อกำเนิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1960 หรือราว ๆ 60 กว่าปีที่แล้วโดยมีปัจจัยสำคัญซึ่งเป็นที่มาที่ไปก็คือความเฉยชาต่อสีสันบนภาพวาดที่ฉูดฉาดและหลากหลายแม้ว่านั่นจะเป็นตัวแทนความรู้สึกของศิลปินที่ต้องการสื่อออกมาก็ตามทีแต่คนในยุคนั้นก็มองว่าเป็นเพียงความตื่นเต้นที่ไม่ตื่นตาเสียแล้ว ดังนั้นจึงเริ่มมองหาสิ่งอื่น ๆ ที่จะมาทดแทนซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นความแปลกใหม่ที่คล้ายจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือนั่นก็คือความเรียบยง่ายภายใต้คำเรียกขานว่า “มินิมอล”

ปัจจุบันความนิยมเหล่านั้นไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่บนภาพวาดผ้าใบแต่ยังตีขยายวงกว้างมาจนถึงการสร้างสรรค์ศิลปะบนกระดาษแผ่นใหม่ที่ออกมาเป็นรูปเป็นร่างในรูปแบบของสิ่งปลูกสร้างที่เน้นความเรียบง่ายและทันสมัย โดยมีหลักการในการออกแบบ ดังนี้คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ

เน้นโล่งกว้างไม่เน้นใช้สอย

ถ้าในอดีตคนทำบ้านคงต้องต่อเติมบิวท์อินหรือไม่ก็คงจัดเต็มด้วยการตกแต่งให้บ้านนั้นดูแน่นเอี๊ยดด้วยพื้นที่อัตถประโยชน์เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นถึงความคุ้มค่าที่จะได้รับจากการซื้อบ้านหนึ่งหลัง แต่ทว่าการทำบ้านมินิมอลกลับเป็นการสร้างสรรค์ที่ยึดแนวคิดที่ตรงกันข้ามทั้งหมดโดยต้องการเน้นไปที่การเว้นว่างให้เหลือพื้นที่ให้เยอะที่สุดโดยมีอัตราส่วนพื้นที่ว่างอยู่ที่ประมาณ 60% และอาศัยการตกแต่งรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่อยู่ภายในบ้านเพียงแค่ 40% เท่านั้น

ไม่เน้นเด่นด้วยสีแต่เน้นสว่างด้วยแสง

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่เห็นแล้วต้องร้องอ๋อเพราะแค่มองรู้ได้เลยว่าต้องเป็นบ้านมินิมอลก็คือโทนสี โดยทั่วไปแล้วสีที่ใช้สำหรับบ้านสไตล์มินิมอลมักจะเป็นสีพื้นที่ไม่มีความฉูดฉาด ไม่โดดเด่นแต่เป็นเพียงความเรียบง่ายเพื่อขับเน้นความสว่างด้วยแสงจากธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ซึ่งสีทั่วไปที่นิยมใช้กันมากที่สุดก็คือ สีขาว สีเทาอ่อน สีเทาเข้ม และสีน้ำตาลอ่อน เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้รูปแบบของโครงสร้างนั้นกลมกลืนกับความเป็นธรรมชาติมากขึ้นนั่นเอง

เฟอร์นิเจอร์แบบน้อยแต่มาก

เมื่อถูกจำกัดไว้ด้วยคำว่าเล็กน้อย ฉะนั้นการตกแต่งภายในจึงกลายเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันโดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ จริงอยู่ที่ว่าการทำบ้านรูปแบบนี้จะต้องคงไว้ซึ่งความเรียบง่ายแต่ทว่าในอีกมุมหนึ่งก็ยังต้องการความเรียบง่ายที่ซ่อนความน่าสนใจเอาไว้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่บ่งบอกถึงความทันสมัยหรือแม้แต่การจัดวางก็ต้องถูกที่ไม่ให้โดดไปจากคอนเซ็ปต์ของบ้าน

เน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ

เมื่อก่อนหากเป็นการทำบ้านจะต้องตั้งคำถามก่อนเสมอว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ แต่สำหรับการทำบ้านไตล์มินิมอลกลับต้องตั้งคำถามที่แตกต่างออกไปนั่นก็คือ “อะไรบ้างที่ไม่สำคัญ” ทั้งนี้เมื่อกลับมาลองคิดดูแล้วกลับพบว่าการจัดการสิ่งที่ไม่สำคัญนั้นง่ายกว่าการจัดลำดับสิ่งที่สำคัญเสียอีกเพราะคนเรามักจะมองว่าการจะทิ้งอะไรสักอย่างในบ้านนั้นเป็นเรื่องยากเพราะล้วนสำคัญไปเสียหมดแต่ในขณะเดียวกันก็รู้ดีว่าอะไรที่เก็บไว้แล้วไม่เป็นประโยชน์เลย ฉะนั้นการทำบ้านสไตล์มินิมอลจึงเป็นหนึ่งในการจัดระเบียนความสำคัญได้เป็นอย่างดีเพราะเมื่อต้องเก็บของน้อยลงจะทำให้เหลือเพียงสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นมากขึ้น

แม้ว่าการทำบ้านนั้นจะมุ่งเน้นไปที่ความเรียบง่ายแต่สิ่งที่ลูกค้าสำหรับบ้านมินิมอลส่วนใหญ่ต้องการก็ยังคงเป็นบ้านที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างครบครันโดยที่คนทำบ้านอาจจะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นอื่น ๆ เข้าไปอย่างเหมาะสมเพื่อให้บ้านนั้นไม่ดูโล่งแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทำให้บ้านนั้นดูเหมือนถูกยัดเยียดมากจนเกินไปเพราะนักพัฒนาสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จในตลาดไม่ใช่เพียงแค่คนที่สามารถทำบ้านให้โล่งที่สุดแต่เป็นคนที่สามารถเพิ่มความแปลกใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เข้าไปได้โดยไม่ต้องทำให้รูปแบบเดิม ๆ นั้นเปลี่ยนแปลงต่างหาก

คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ